ฟอรั่มระหว่างประเทศว่าด้วยการอนุรักษ์ถ้ำพระพุธรูปและวัดพุทธครั้งแรกจัดขึ้นที่นครฉงชิ่งของจีนระหว่างวันที่ 19 – 21 สิงหาคม ล่าสุดสถาบันวิจัยถ้ำพระพุทธรูปต้าจู นครฉงชิ่ง กับสำนักงานโบราณคดีและพิพิธภัณฑ์ แคว้นไคเบอร์ปัคตูนควา (Khyber Pakhtunkhwa) ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจเพื่อความร่วมมือฉันมิตร
นาย Abudul Samad ผู้อำนวยการสำนักงานโบราณคดีและพิพิธภัณฑ์แคว้นไคเบอร์ปัคตูนควา (Khyber Pakhtunkhwa) ที่ริเริ่มความร่วมมือฉันมิตรระบุว่าดีใจมากที่เห็นว่าประติมากรรมทางพุทธศาสนาในถ้ำพระพุทธรูปต้าจูมีความคล้ายคลึงกับซากพระคันธาระในปากีสถาน นี่เป็นหลักฐานแห่งการแลกเปลี่ยนอารยธรรมในยุคเส้นทางสายใหม่ ปัจจุบันปากีสถานกับจีนกำลังดำเนินความร่วมมืออันใกล้ชิดมากมายหลายประการภายใต้ข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” สถาบันวิจัยถ้ำพระพุทธรูปต้าจูมีประสบการณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัยในด้านการคุ้มครองโบราณวัตถุ โดยเฉพาะในการคุ้มครองทางดิจิทัลและการบูรณะซ่อมแซม เขาเน้นว่าภายในบริเวณซากพระคันธาระมีเครื่องหมายที่มีตัวอักษรจีน ยินดีต้อนรับมิตรชาวจีนไปเยี่ยมชมและแลกเปลี่ยนความเห็น
ด้านนายเจี่ยง ซือเหวย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยถ้ำพระพุทธรูปต้าจูกล่าวว่าการที่จีนกับปากีสถานลงนามข้อตกลงความร่วมมือนั้น จะสร้างการแลกเปลี่ยนกับความร่วมมือด้านวัฒนธรรมและการคุ้มครองโบราณวัตถุ หวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะแลกเปลี่ยนการจัดนิทรรศการต่อกัน ทำให้ผู้คนได้สัมผัสกับความงดงามของงานแกะสลักหินในถ้ำพระพุทธรูปมากยิ่งขึ้น
LFbolei