คนจีนให้ความสำคัญต่ออาหารการกิน ซึ่งการกินไม่เพียงแต่เป็นความต้องการพื้นฐานของการดำรงชีวิตเท่านั้น หากยังเป็นเรื่องวิถีชีวิต ภูมิปัญญา กิจกรรมรื่นรมย์ สังคม และเป็นความสุขอย่างหนึ่งสำหรับชีวิตประจำวัน ในประเทศจีน วัฒนธรรมด้านอาหารการกินมีมาช้านาน ซึ่งถูกจำแนกออกเป็น 8 กลุ่มหลักที่มีชื่อเสียงทั่วประเทศและโด่งดังไปถึงต่างประเทศด้วย อาหาร 8 กลุ่มดังกล่าวมีรสชาติแตกต่าง และมีรูปแบบการทำอย่างหลากหลาย ต่างมีเอกลักษณ์พิเศษของตน
คนจีนมักจะชอบพูดว่ามณฑลกว่างตงเป็นสวรรค์แห่งการกิน ทั้งนี้ก็เพราะว่าอาหารกว่างตงมีเอกลักษณ์พิเศษว่าวัตถุดิบในการทำอาหารมีความสดและหาได้ครบทุกอย่าง วิธีการทำละเอียดประณีต ซึ่งมีชื่อเสียงกระจายไปทั่วโลกด้วย
อาหารกว่างตงเริ่มมีวิวัฒนาการขึ้นในสมัยราชวงค์ฉินและฮั่น ซึ่งได้ถือวัฒนธรรมอาหารการกินในท้องถิ่นเป็นพื้นฐาน และรับวิธีการทำที่ยอดเยี่ยมจากอาหารชนิดอื่น เช่น อาหารเสฉวน อาหารเจียงซู และอาหารซานตง เป็นต้น และยังได้เรียนรู้วิธีการทำที่ดีจากอาหารฝรั่งด้วย ประยุกต์ให้เข้ากันจนเป็นวิธีทำอาหารกว่างตง ค่อยๆ กลายเป็นรสชาติพิเศษที่มีเอกลักษณ์ของตัวเอง
สำหรับอาหารกว่างตง จะมีความเข้มงวดในการผสมวัตถุดิบทำอาหารตามอัตราส่วน ฝีมือการหั่น ระดับไฟในเตาและเวลาการใช้ไฟ ขั้นตอนการทำอาหาร และเครื่องปรุงใส่อาหาร วัตถุดิบอาหารอย่างหนึ่งจะสามารถทำเป็นอาหารหลายๆ อย่าง ยกตัวอย่างว่า ในอาหารกว่างตงจะมีอาหาร “มื้อไก่” ซึ่งใช้ไก่เป็นวัตถุดิบเพียงอย่างเดียว แต่วิธีการทำมีหลากหลาย สามารถใช้ไก่ปรุงเป็นอาหารหลายอย่างในมื้อหนึ่ง
อาหารกว่างตงจะแบ่งเป็น 3 ประเภท คืออาหารกว่างโจว(กวางเจา) อาหารแต้จิ๋วและอาหารฮักกา(แคะ) อาหารกว่างโจวจะเป็นอาหารที่รวมทั้งเขตสามเหลี่ยมแม่น้ำจูเจียง และเมืองเจ้าชิ่ง เสากวน และจั้นเจียง เป็นต้น มีขอบเขตกว้างที่สุด รสอ่อนแต่ไม่จืด ใส่น้ำมันแต่ไม่เลี่ยน ในฤดูร้อนกับฤดูใบไม้ร่วงเน้นรสจืดอ่อน ในฤดูหนาวกับฤดูใบไม้ผลิเน้นรสจัดเข้มข้น มีความชำนาญในการใช้อุณหภูมิน้ำมันในการปรุงอาหาร
ส่วนอาหารแต้จิ๋วขึ้นชื่อในการทำอาหารทะเล มีฝีมือการหั่นดีเยี่ยม เน้นความหอม รสชาติเข้มข้น สดและหวาน ชอบใช้เครื่องปรุงต่างๆ เช่น น้ำปลา เหล้าขิง ซาแต๊ะ เป็นต้น
อาหารเค่อเจียจะอยู่ในแถบตะวันออกของมณฑลกว่างตง ชอบทำกับข้าวด้วยหมูและเนื้อวัว ไม่ค่อยทำอาหารทะเล เน้นความหอมและเข้มข้นของรสชาติ อาหารจานพิเศษจะเป็นการตุ๋นหม้อดิน
อาหารกว่างโจว อาหารแต้จิ๋วและอาหารเค่อเจีย 3 อย่างนี้ผสมกลมกลืนเข้าด้วยกันทำให้อาหารกว่างตงได้รับการพัฒนาเป็นอย่างดี
พูดถึงอาหารกว่างตง อาหารอย่างหนึ่งที่ต้องเอ่ยถึงก็คือการตุ๋นน้ำแกง น้ำแกงตำรับอาหารกว่างตงมักจะใส่ยาสมุนไพรจีนลงไปด้วยและตุ๋นเป็นเวลานาน คนในมณฑลอื่นๆ ของจีนไม่เข้าใจวิธีตุ๋นน้ำแกงของอาหารกว่างตง และบางคนอาจจะไม่ชินกับรสชาติน้ำแกงตุ๋นของอาหารกว่างตงด้วย โดยเห็นว่าน้ำแกงตุ๋นของอาหารกว่างตงเหมือนเป็นการดื่มยาสมุนไพรมากว่า แต่จริงๆ แล้ว วิธีการตุ๋นน้ำแกงดังกล่าวนี้ได้มาจากสภาพความเป็นจริง เพราะอากาศของมณฑลกว่างตงมีความชื้นและร้อนซึ่งจะทำให้เกิดอาการร้อนในได้ง่าย ชาวกว่างตงได้ใช้ประสบการณ์ที่สั่งสมไว้มานานมาแก้ไขปัญหานี้ ก็คือใส่ยาสมุนไพรจีนที่แก้อาการร้อนในเข้าไปในน้ำแกง ซึ่งจะเป็นผลดีต่อสุขภาพ
การตุ๋นน้ำแกงมักจะใช้เวลาหลายชั่วโมง ผู้หญิงชาวกว่างตงโดยเฉพาะเมืองกว่างโจวเกือบทุกคนต่างก็มีฝีมือตุ๋นน้ำแกงเป็นคุณสมบัติที่ดีติดตัว การดื่มน้ำแกงชามหนึ่งก่อนทานอาหารจะเป็นความเคยชินอย่างหนึ่งของชาวกว่างตง ซึ่งไม่เพียงแต่ได้เสริมโภชนาการให้ร่างกายแล้ว ยังสามารถป้องกันและรักษาโรคด้วย ก็เช่นเดียวกับที่กล่าวเมื่อกี้ว่า ชาวกว่างตงได้ค้นหาวิธีการหลายอย่างในการต่อสู้กับสภาพอากาศที่ร้อนชื้น ใส่ยาสมุนไพรที่สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ เข้าในน้ำแกง ทำให้น้ำแกงที่ตุ๋นนั้นกลายเป็นของจำเป็นที่ขาดเสียมิได้ในชีวิตความเป็นอยู่ของชาวกว่างตง
ในอาหารกว่างตง ขนมกว่างตงที่กินในตอนเช้าก็เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของอาหารกว่างตง ซึ่งรสชาติหลากหลาย มีทั้งเค็มทั้งหวาน วิธีทำละเอียดถี่ถ้วน มีให้เลือกมากมายและสามารถเลือกทานให้เหมาะกับ 4 ฤดูของทั้งปี และเหมาะกับความต้องการของคนที่มีความชื่นชอบต่างกัน