วันที่ 25 สิงหาคม ค.ศ.2023 หนีหลี่จินจือ (尼里金枝)สาวสวยชนเผ่าอี๋เดินทางจากเมืองเล่อซานมณฑลเสฉวนไปรายงานตัวที่สถาบันดนตรีเซี่ยงไฮ้ เข้าเป็นนักศึกษารุ่น 2023 ของคณะขับร้องและโอเปร่า

ตอนอายุ 6 ขวบ คุณพ่อของหนีหลี่จินจือประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต หลังจากนั้น เธอมักจะช่วยคุณแม่ทำไร่ไถนาในช่วงสุดสัปดาห์หรือช่วงปิดเทอม แม้ว่าต้องดำรงชีวิตอย่างลำบาก แต่เธอก็เป็นคนร่าเริง ชอบหัวเราะ ชอบร้องเพลงเหมือนคุณแม่

คุณแม่เป็นสมาชิกคณะศิลปะของหมู่บ้าน มีครั้งหนึ่ง คุณแม่พาเธอร้องเพลงที่ตำบล แม่ลูกร่วมกันร้องเพลงชนเผ่าอี๋ชื่อเพลง “กันโม่อานิว” เสียงลูกคอที่หวานใสกังวานและมีเอกลักษณ์ ทำให้ผู้ชมประทับใจและชอบมาก

หลังจากนั้น หนีหลี่จินจือเริ่มตามคุณแม่ไปร้องเพลงที่ตำบลอีกเป็นครั้งคราว นี่นับเป็นการปลูกเมล็ดพันธุ์แห่งดนตรีในชีวิตของเธอ และก็มีคนเห็นถึงพรสวรรค์ด้านดนตรีของเธอ

ครั้งหนึ่งหลังการแสดง คุณป้าคนหนึ่งจากสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นที่มาถ่ายทอดสดการแสดงบอกกับหนีหลี่จินจือว่า ถ้าสามารถสอบเข้ามัธยมปลาย ป้าจะช่วยออกค่าเล่าเรียนให้ทั้งหมด (ปัจจุบัน จีนใช้ระบบการศึกษาภาคบังคับ 9 ปี คือโรงเรียนประถม 6 ปี โรงเรียนมัธยมต้น 3 ปี ขณะที่เขตที่เศรษฐกิจพัฒนาดีได้ขยายการศึกษาภาคบังคับเป็น  12 รวมมัธยมปลายด้วย)

หนีหลี่จินจือพากเพียรในการเรียนและสอบเข้ามัธยมปลายได้ตามความปรารถนา คุณป้าคนดังกล่าวก็ทำตามคำมั่นสัญญา

ต่อมายังมีนักร้องคนหนึ่งสนใจเสียงลูกคอของหนีหลี่จินจือได้เข้ามาช่วยฝึกการขับร้องให้กับเธอฟรีเป็นประจำสัปดาห์ละครั้ง หนีหลี่จินจือดีใจและขยันฝึกซ้อมมาก

แต่โชคร้ายก็มาเยือนอีกครั้ง ขณะที่หนีหลี่จินจือกำลังใฝ่ฝันที่จะมีชีวิตมีอนาคตที่ดีงาม คุณแม่เกิดป่วยหนักและจากโลกนี้ไปตอนที่เธออายุเพียง 16 ปี

เมื่อเผชิญกับความทุกข์ความเศร้า หนีหลี่จินจือยังคงมีจิตใจที่แข้มแข็งกว่าคนทั่วไป เธอบอกว่า “คำสุดท้ายที่คุณแม่สั่งเสียกับฉันคือ ‘ต้องพยายามเรียนหนังสือ’ ” ฉันอาจจะเป็นเด็กหญิงที่โชคร้าย แต่ฉันตั้งใจจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างสดใสยิ้มแย้ม

ช่วงเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย หนีหลี่จินจือทุ่มเทความพยายามมากกว่าปกติ เธอตื่นตี 5 ครึ่งทุกวัน ท่องโน้ตเพลง ฝึกเปียโน ฝึกขับร้องจนถึงกลางคืน และเพื่อออกเสียงอย่างชัดเจนถูกต้อง เธอต้องใช้วิธีฝึกซ้อมแบบกัดตะเกียบและออกเสียงต่อหน้ากระจก

หนีหลี่จินจือสอบผ่านข้อเขียนและเข้าสอบสัมภาษณ์ของสถาบันดนตรีเซี่ยงไฮ้ รายการแสดงของเธอคือร้องเพลงลูกทุ่งชนเผ่าอี๋ชื่อเพลง “กู่โม่อาจือ” เมื่อขับร้องเนื้อเพลงท่อนที่ว่า “คุณเคยเห็นคุณแม่ที่กำลังถักทออยู่ไหม คุณเคยเห็นน้องชายที่ขี่ม้าสูงไหม คุณเคยเห็นน้องสาวที่ไปเลี้ยงวัวเลี้ยงแพะตามทุ่งหญ้าไหม” หนีหลี่จินจือร้องไห้แบบสุดจะอั้นไว้ได้

เธอกล่าวว่า เพลงนี้ทำให้ฉันคิดถึงคุณพ่อคุณแม่ บ้านเกิด อาจารย์และทุกคนที่เคยให้ความช่วยเหลือกับฉัน

และเพลงนี้ทำให้เหล่าอาจารย์ในห้องสอบซาบซึ้งใจและประทับใจมากๆ

วันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา หลังไปรายงานตัวที่มหาวิทยาลัยเรียบร้อย หนีหลี่จินจือได้เปิดเผยความหวังใหม่ของเธอกับผู้สื่อข่าวว่า “ตั้งแต่เข้ามัธยมปลายจนถึงปัจจุบัน ฉันได้บรรลุความฝันทางดนตรีด้วยการรับทุนการศึกษาของประเทศ และความช่วยเหลือจากบุคคลในสังคมต่างๆ แต่ที่บ้านเกิดของฉัน ยังมีเด็กจำนวนไม่น้อยที่มีเสียงลูกคอดี ร้องเพลงเพราะน่าฟัง แต่พวกเขาส่วนใหญ่ไม่สามารถก้าวออกจากหมู่บ้านที่อยู่ในเขตภูเขาได้เหมือนกับฉัน ช่วงปิดเทอมฤดูหนาว ฉันจะกลับไปสอนความรู้ทางดนตรีให้กับเด็กๆ ท้องถิ่น และหวังว่า จะสามารถนำพาเด็กเหล่านี้ไปร่วมการแสดงบนเวทีฉลองวันครบรอบ 100 ปีการจัดตั้งสถาบันดนตรีเซี่ยงไฮ้”ได้

หนีหลี่จินจือกล่าวอีกว่า “ฉันชอบเพลงชนเผ่าอี๋เพลงหนึ่งชื่อ ‘อย่ากลัว’ ฉันจะใช้เพลงนี้เป็นพลังกระตุ้นให้ตนเองเรียนรู้ทางดนตรีมากยิ่งขึ้น สักวันหนึ่ง ฉันจะนำดนตรีนำเพลงที่เป็นของชนเผ่าอี๋ไปขึ้นเวทีใหญ่ยิ่งขึ้น”