ประชาชนและชีวิตของพวกเขาต้องมาก่อน (1)

2023-11-08 14:42:13 | CRI
Share with:

ยินดีต้อนรับสู่รายการ “Stories of Xi Jinping”  รายการที่แบ่งปันประสบการณ์การทำงานของ สี จิ้นผิง ในรัฐบาลระดับต่าง ๆ ทั่วประเทศเป็นเวลาหลายทศวรรษที่ผ่านมา เพื่อค้นหาคำตอบว่า ความเป็นผู้นำและความคิดของสี จิ้นผิงในการบริหารปกครองประเทศค่อย ๆ พัฒนาขึ้นมาได้อย่างไร 

ในเดือนมกราคม ปี 2023  เนื่องจากสถานการณ์ป้องกันโควิด-19 ในจีนได้เข้าสู่ภาวะปกติ  การเดินทางครั้งใหญ่สุดในโลกระหว่างเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ หรือที่ชาวจีนเรียกว่า “ชุนยุ่น” ได้กลับมาอีกครั้ง  โดยประชาชนจำนวนมากในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศได้เดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนกับคนในครอบครัว หรือเดินทางไปท่องเที่ยวเมืองอื่น บรรยากาศคึกคักมีชีวิตชีวาในสังคมก็เริ่มกลับมาเช่นกัน  การบริโภคฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว   ประชาชนทั่วไปสามารถใช้ชีวิตตามปกติ   

จีนมีสุภาษิตว่า  คุณไม่มีทางรู้ถึงความท้าทายของงานจนกว่าคุณได้ลงมือทำด้วยตัวเอง  ทุกย่างก้าวของจีนในการต่อสู้กับโควิด-19 เป็นบททดสอบสติปัญญาและความกล้าหาญของสี จิ้นผิง ผู้นำสูงสุดของประเทศที่มีประชากรกว่า 1,400 ล้านคน   

เมื่อปี 2003 ช่วงที่สี จิ้นผิงดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการประจำมณฑลเจ้อเจียงของพรรคคอมมิวนิสต์จีน เขาก็เคยได้แสดงออกถึงความเด็ดขาดในการกำหนดนโยบาย เพื่อนำประชาชนทั่วทั้งมณฑลชนะการต่อสู้กับโรคซาร์ส  

เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2002 โรคชนิดใหม่ที่เรียกว่าโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรงหรือซาร์สถูกพบครั้งแรกในมณฑลกวางตุ้งทางตอนใต้ของจีน ไวรัสชนิดนี้ได้แพร่กระจายไปทั่วประเทศจีนอย่างรวดเร็วภายในช่วงเวลาเพียงไม่กี่เดือน

ค่ำวันที่ 19 เมษายน ปี 2003 มีฝนตกหนักที่เมืองหางโจว เมืองเอกของมณฑลเจ้อเจียง  คืนนั้น หน่วยงานสาธารณสุขมณฑลนี้ได้รับรายงานว่า พบผู้ป่วยต้องสงสัยเป็นโรคซาร์ส 3 รายที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองหางโจว  ต่อมา ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ในมณฑลเจ้อเจียงได้ยืนยันว่า ผู้ป่วย 3 รายนี้เป็นผู้ป่วยโรคซาร์ส 3 รายแรกในมณฑลเจ้อเจียง หลังมีการวินิจฉัยอย่างเร่งด่วนและละเอียด

คืนนั้นเวลา 22.00 น. เหตุการณ์สำคัญนี้ถูกรายงานไปยังสี จิ้นผิง ที่ขณะนั้นดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการประจำมณฑลเจ้อเจียงของพรรคคอมมิวนิสต์จีนทันที  

จะรับมือกับเหตุฉุกเฉินนี้ด้วยวิธีการใดนั้นเป็นการทดสอบถึงความเด็ดขาดของผู้นำ   เมื่อเวลาประมาณ 22:30 น. หลังรับฟังรายงานจากผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข  สี จิ้นผิง ชี้ว่า ภารกิจเร่งด่วนที่สุดในขณะนี้คือ ต้องควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอย่างเคร่งครัด   เขายังได้เสนอแผนรับมือที่ครอบคลุมเกี่ยวกับการรับมือกับสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคซาร์สในมณฑลเจ้อเจียง   แผนดังกล่าวรวมถึงแนวทางปฏิบัติงานในด้านต่างๆ เช่น การแยกผู้ป่วยยืนยันอย่างรวดเร็ว ใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ในการรักษาผู้ป่วย  ใช้มาตรการฆ่าเชื้อและกักกันที่เข้มงวด  ตลอดจนเริ่มปฏิบัติตามแผนฉุกเฉินที่เตรียมไว้ล่วงหน้า และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารล่าสุดให้ประชาชนทั่วไปรับทราบโดยเร็ว  หลังจากนั้น  ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเริ่มดำเนินการแข่งกับเวลา      

เวลา 00.20 น.ของวันที่ 20 เมษายน ปี 2003  หน่วยงานสาธารณสุขของมณฑลเจ้อเจียง ได้รายงานเหตุการณ์ดังกล่าวต่อกระทรวงสาธารณสุขแห่งชาติจีน

เวลา 01.00 น. เมืองหางโจวได้ประกาศแผนฉุกเฉินในการรับมือกับโรคซาร์ส 

เวลา 03.00 น. มีการออกประกาศครั้งแรกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคซาร์สในมณฑลเจ้อเจียง ในขณะเดียวกัน รถพยาบาลที่ติดตั้งอุปกรณ์พิเศษได้นำผู้ป่วยโรคซาร์สทั้งสามรายไปรักษาที่โรงพยาบาลเฉพาะ

ก่อนเวลา 05.00 น. 425 ครอบครัวที่เคยสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยในเมืองหางโจวถูกแยกออก ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและรักษาโรคติดต่อ

ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ของวันที่ 20  สถานีวิทยุและโทรทัศน์ในเมืองหางโจวได้รายงานสถานการณ์ล่าสุดเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคซาร์สและอัปเดตข้อมูลทุก ๆ 5 นาที      

แม้เวลาจะผ่านพ้นไป 20 ปีแล้ว  แต่หากมองย้อนกลับไป เรายังคงสามารถนึกถึงสภาพที่เร่งด่วนในสิบกว่าชั่วโมงนั้นได้ การตัดสินใจที่ถูกต้องและรวดเร็วของสี จิ้นผิง ทำให้มณฑลเจ้อเจียงสามารถใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโรคได้อย่างทันท่วงที  และในที่สุดก็ไม่พบผู้ติดเชื้อซาร์สรุ่นที่สองในมณฑลเจ้อเจียงแม้แต่รายเดียว      

17 ปีต่อมาในปี 2020 เมื่อเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างกะทันหัน สี จิ้นผิงได้วางแผนรับมือกับสถานการณ์และบัญชาการด้วยตนเอง เขาเสนอให้ใช้มาตรการพิเศษในการรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่ปกติ    และใช้ความพยายามในทุกวิถีทาง เพื่อให้ผู้ป่วยโควิด-19 ทุกคนได้รับการดูแลรักษาด้วยดี  

วันที่ 20 มกราคม ปี 2020 สี จิ้นผิงได้สั่งการเกี่ยวกับการควบคุมโควิด-19 ว่า ต้องใช้มาตรการที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมการระบาดของโควิด-19  และเน้นย้ำว่า ความปลอดภัยและสุขภาพของประชาชนต้องมาก่อน

วันที่ 22 มกราคม สี จิ้นผิงสั่งการให้ควบคุมการจราจรในเมืองอู่ฮั่นและมณฑลหูเป่ยอย่างเข้มงวดทันที เนื่องจากไวรัสโควิด-19ได้แพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว   เขากล่าวว่า  การตัดสินใจเช่นนี้ต้องใช้ความกล้าหาญทางการเมืองอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เราต้องลงมือทำเมื่อถึงเวลาต้องทำ  หากลังเลใจในยามที่ต้องตัดสินใจ เราก็มีแต่จะประสบความเสียหายมากขึ้น

วันที่ 23 มกราคม ปี 2020  เมืองอู่ฮั่น เมืองเอกของมณฑลหูเป่ย ประกาศปิดเมือง ซึ่งมีบทบาทเชิงชี้ขาดในการควบคุมไม่ให้ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ  

วันที่ 2 กุมภาพันธ์ ปี 2020 โรงพยาบาลฉุกเฉิน “หั่วเสินซาน” ในเมืองอู่ฮั่นถูกส่งมอบอย่างเป็นทางการ หลังจากใช้เวลาก่อสร้างไม่ถึงสิบวัน โรงพยาบาลสนามประเภทต่าง ๆ ก็ทยอยกันเปิดใช้งาน  

เมื่อเผชิญกับเหตุฉุกเฉินด้านสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องกับไวรัสที่ร้ายแรงและแพร่ระบาดในวงกว้าง สี จิ้นผิงได้ตัดสินใจอย่างเฉียบขาดและประสานงานกับหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องอย่างทันท่วงที นำทุกฝ่ายรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน  โดยพยายามควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส และปกป้องความปลอดภัยด้านชีวิตของประชาชน

จีนใช้มาตรการที่เข้มงวดในช่วงเริ่มต้นการแพร่ระบาดของโควิด-19  ซึ่งได้ช่วยให้ประเทศต่างๆ ทั่วโลกมีเวลาเตรียมรับมือกับโควิด-19 ผู้เชี่ยวชาญระดับโลกหลายคนกล่าวชื่นชมจีนที่ได้ใช้มาตรการป้องกันอย่างเฉียบขาด และมีประสิทธิภาพ   

นาย Richard Horton หัวหน้ากองบรรณาธิการของนิตยสารเดอะแลนเซต(The Lancet) ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2020 ว่า  จีนตัดสินใจปิดเมืองอู่ฮั่นนั้นแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลจีนดำเนินการอย่างเด็ดขาดเมื่อเผชิญกับสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุข ซึ่งช่วยให้ประเทศต่างๆทั่วโลกมีเวลาเตรียมรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 

ในช่วงเวลาที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19   สี จิ้นผิงได้ให้คำชี้นำที่สำคัญหลายครั้ง เพื่อปรับปรุงมาตรการในการรับมือโควิด-19 ให้สอดคล้องกับสถานการณ์มากขึ้น  ทำให้นโยบายป้องกันและควบคุมการระบาดของโควิด-19 มีความถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์ สามารถตอบโจทย์ได้  และมีประสิทธิภาพมากขึ้น      


(YIM/cai)

 

   

  • เสียงข่าวประจำวัน (21-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (21-11-2567)

  • เสียงคุยกันวันละประเด็น (21-11-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (20-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (20-11-2567)