เมื่อเร็วๆ นี้ การเดินทางไปซานฟรานซิสโกเป็นเวลาสี่วันของนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาพิเศษ มีนัยสำคัญอันหลากหลาย มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง จึงเป็นที่สนใจของทั่วโลก ตั้งแต่การพบหารือระหว่างประมุขจีนกับสหรัฐอเมริกาไปจนถึงการประชุมสุดยอดเอเปก กิจกรรมทวิภาคีและพหุภาคีมีขึ้นถี่ยิบ ตั้งแต่การชี้นำทางยุทธศาสตร์ผ่าน “การทูตประมุข”ไปจนถึงการกล่าวสุนทรพจน์ถึงประชาชนชาวอเมริกัน ปฏิบัติการทางการทูตสำคัญฯเดินหน้าอย่างบูรณาการ จาก “จีนและสหรัฐอเมริกาควรมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน” สู่ “จีน ต่อไปก็ยังคงเป็นจีน” เสียงของจีนนั้นทั้งจริงใจและหนักแน่น จะเข้าใจทริปซานฟรานซิสโกของผู้นำจีนครั้งนี้ได้อย่างไร? สถานีวิทยุและโทรทัศน์กลางของจีนขอถอดรหัสให้เข้าใจจากสี่มิติดังต่อไป
มิติที่ 2 : ข้อเสนอเหล่านี้ชี้นำทิศทาง
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเดินทางไปยังซานฟรานซิสโกในครั้งนี้พร้อมด้วยความคิดที่ลึกซึ้งและความเข้าใจอย่างถ่องแท้ ในการแลกเปลี่ยนอย่างตรงไปตรงมาครั้งแล้วครั้งเล่า นายสี จิ้นผิงได้แสดงถึงแนวทางและข้อเสนอของจีนอย่างชัดเจน
ในการพบหารือระหว่างประมุขจีนและสหรัฐอเมริกาในครั้งนี้ นายสี จิ้นผิงได้อรรถาธิบายอีกครั้งถึงหลักการพื้นฐานของจีนในการบริหารจัดการความสัมพันธ์กับสหรัฐอเมริกาอันได้แก่ หลักการ 3 ประการ คือ "การเคารพซึ่งกันและกัน การอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ร่วมมือกันและได้ชัยชนะด้วยกัน" โดยย้ำว่าการพบหารือที่ซานฟรานซิสโกครั้งนี้จีนและสหรัฐอเมริกาควรมีวิสัยทัศน์ใหม่ ใช้ความพยายามร่วมกันเพื่อสร้าง “เสาหลัก 5 เสา”สำหรับความสัมพันธ์จีน-สหรัฐอเมริกา ซึ่งประกอบด้วยการร่วมกันสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ร่วมกันควบคุมความขัดแย้งอย่างมีประสิทธิภาพ ร่วมกันส่งเสริมความร่วมมือที่เป็นประโยชน์แก่กัน ร่วมกันแบกรับความรับผิดชอบในฐานะประเทศมหาอำนาจ และร่วมกันส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม "การร่วมกัน 5 ประการ" นี้ก่อรูปขึ้นเป็น "วิสัยทัศน์ซานฟรานซิสโก" ที่มุ่งสู่อนาคต
“การทูตประมุข”ถือเป็น "เข็มทิศ" และ "ดาวแรกบนตาชั่งจีน" สำหรับความสัมพันธ์จีน-สหรัฐอเมริกา "ประมุขทั้งสองประเทศตกลงที่จะส่งเสริมและเสริมสร้างการเจรจาและความร่วมมือในด้านต่างๆระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา" "ประมุขทั้งสองประเทศตกลงที่จะรักษาการติดต่ออย่างสม่ำเสมอต่อไป" "ซานฟรานซิสโกควรกลายเป็นจุดเริ่มต้นใหม่สำหรับการรักษาเสถียรภาพความสัมพันธ์จีน-สหรัฐอเมริกา".........ประชาคมระหว่างประเทศมีความเห็นโดยทั่วไปว่า การพบหารือครั้งนี้มีผลเชิงบวก ครอบคลุม และสร้างสรรค์ ซึ่งได้ชี้ให้เห็นทิศทางในการปรับพัฒนาความสัมพันธ์จีน-สหรัฐอเมริกา
นับตั้งแต่เดินทางไปเกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซียเมื่อปี ค.ศ. 2013 เพื่อร่วมการประชุมผู้นำเอเปก ครั้งที่ 21 เป็นต้นมา นายสี จิ้นผิงได้ร่วมการประชุมเอเปกและกล่าวสุนทรพจน์ที่สำคัญทุกครั้ง
การประชุมเอเปกในปีนี้ถือเป็นครั้งที่ 30 ที่ผู้นำเอเปกมารวมกันซึ่งมีนัยสำคัญเป็นพิเศษ ณ ซานฟรานซิสโก นายสี จิ้นผิง ได้ร่วมกิจกรรม 3 กิจกรรมของการประชุมเอเปกโดยแต่ละกิจกรรมนายสี จิ้นผิงมุ่งเน้นไปที่ประเด็นสำคัญและได้เสนอข้อเสนอที่สำคัญ
ในสุนทรพจน์ที่เป็นลายลักษณ์อักษรของเขาต่อที่ประชุมสุดยอดผู้นำธุรกิจเอเปก นายสี จิ้นผิง เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการยึดมั่นปณิธานเริ่มแรกของเอเปก และส่งเสริมให้ความร่วมมือเอเชียแปซิฟิกเริ่มต้นการเดินทางใหม่อีกครั้ง โดยได้เสนอข้อเสนอสามประการ
ขณะร่วมการแลกเปลี่ยนอย่างไม่เป็นทางการและงานเลี้ยงอาหารกลางวันผู้นำเอเปก นายสี จิ้นผิงชี้ให้เห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องสร้างฉันทามติและโฟกัสไปที่การดำเนินการ อัดฉีดแรงผลักดันมากยิ่งขึ้นเพื่อภารกิจการพัฒนาที่ยั่งยืนของโลก โดยได้อรรถาธิบายถึงงานสำคัญสามประการ
ในการประชุมผู้นำเอเปก ครั้งที่ 30 นายสี จิ้นผิง กล่าวสุนทรพจน์หัวข้อ "ยึดมั่นปณิธานเริ่มแรก สามัคคีและร่วมมือกัน ร่วมกันส่งเสริมการเติบโตอย่างมีคุณภาพสูงของเอเชียแปซิฟิก" โดยให้ข้อเสนอแนะสี่ประการ คือ ยึดมั่นในการพัฒนาที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ยึดมั่นในแนวทางที่เปิดกว้าง ยึดมั่นในการพัฒนาสีเขียว และยึดมั่นในการแบ่งปันที่ครอบคลุมทุกด้าน
ร่วมการประชุมเอเปก 10 ครั้งติดต่อกัน นายสี จิ้นผิงส่งเสริมการสร้างประชาคมเอเชียแปซิฟิกที่มีอนาคตร่วมกันโดยตลอด ชี้นำทิศทางความร่วมมือเอเชียแปซิฟิกอย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมการประชุมเอเปกให้มุ่งเน้นไปที่ประเด็นหลักและขับเคลื่อนวาระสำคัญ ๆมาโดยตลอด สุนทรพจน์เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมาถือเป็นภาพสะท้อนที่ชัดเจน
เมื่อปี ค.ศ. 2014 ที่ประชุมผู้นำเอเปกกรุงปักกิ่งได้ผลักดันการเริ่มต้นกระบวนการสร้างเขตการค้าเสรีเอเชียแปซิฟิก ในการประชุมเอเปกครั้งนี้ นายสี จิ้นผิงเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการส่งเสริมการรวมตัวทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคอย่างแน่วแน่ และเร่งขับเคลื่อนกระบวนการสร้างเขตการค้าเสรีเอเชียแปซิฟิก "การผลักดันให้วาระเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก" ได้รับการบันทึกลงไว้ใน “ปฏิญญาซานฟรานซิสโก”ซึ่งได้ผ่านการรับรองจากที่ประชุม
เมื่อปี ค.ศ. 2020 การประชุมเอเปกที่มีมาเลเซียเป็นเจ้าภาพได้รับรอง "วิสัยทัศน์ปุตราจายา" ครั้งนี้ที่ซานฟรานซิสโก นายสี จิ้นผิงได้กล่าวถึงวิสัยทัศน์นี้หลายครั้ง เขาชี้ให้เห็นว่าวิสัยทัศน์ปุตราจายาเสนออย่างชัดเจนให้มีการจัดตั้งประชาคมเอเชียแปซิฟิกในปี ค.ศ. 2040 ซึ่งได้ชี้ให้เห็นทิศทางสำหรับความร่วมมือเอเชียแปซิฟิก จำเป็นต้องปฏิบัติตามวิสัยทัศน์ปุตราจายาอย่างรอบด้าน
“สัจธรรมยู่ที่ไหน ข้าพเจ้าก็ต้องไปที่นั่นแม้จะถูกคนนับหมื่นขัดขวางก็ตาม” ในสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมเอเปกเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นายสี จิ้นผิง อ้างอิงสุภาษิตจีนโบราณนี้เพื่อแสดงความมุ่งมั่นตั้งใจในการ “สร้างประชาคมเอเชียแปซิฟิกที่มีอนาคตร่วมกัน เปิดกว้าง มีชีวิตชีวา เข้มแข็งและสงบสุข”
IN/LU