อันดับเมืองแห่งเศรษฐกิจยามค่ำคืนของจีน (1)

2023-12-07 14:12:08 | CRI
Share with:

พร้อมกับเศรษฐกิจท้องที่ต่างๆของจีนฟื้นตัวขึ้น เศรษฐกิจยามค่ำคืนค่อยๆกลายเป็นหนึ่งในมาตรฐานที่ประเมินความคึกคักของเศรษฐกิจท้องถิ่นและความเจริญระดับชีวิตคว ามเป็นอยู่ของท้องที่ต่างๆ สถิติระบุว่า ปี 2022 เศรษฐกิจยามค่ำคืนของจีนมียอดขนาดการพัฒนากว่า 42 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้น 6 ล้านล้านหยวนเมื่อเทียบกับปี 2021

สถิติที่เกี่ยวข้องระบุว่า วิสาหกิจที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ “เศรษฐกิจยามค่ำคืน” ของจีนในปัจจุบันมีกว่า 1,588,000 ราย ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2023 นี้ วิสาหกิจด้านเศรษฐกิจยามค่ำคืนที่จดทะเบียนใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 56,000 ราย ขณะเดียวกัน ธุรกิจที่คึกคักขึ้นจากเศรษฐกิจยามค่ำคืน เช่น ธุรกิจบาร์บีคิว และเบียร์ เป็นต้น ต่างเพิ่มขึ้นกว่า 1 เท่าตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ในจำนวนนี้ วิสาหกิจเกี่ยวกับธุรกิจบาร์บีคิวที่จดทะเบียนใหม่เพิ่มขึ้นประมาณ 140%

การฟื้นตัวของเศรษฐกิจยามค่ำคืนยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสนับสนุนท  างนโยบายจากรัฐบาลอย่างใกล้ชิด ปัจจุบัน ภายใต้การส่งเสริมด้านนโยบายท้องที่ต่างๆ จีนได้สร้างสรรค์แหล่งการบริโภคทางวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวยามค่ำคืนระดับชาติ 243 แห่งแล้ว

เมื่อเร็วๆนี้ สถาบันวิจัยเมือง Ocean Engine เวทีบริการการตลาด ซึ่งสังกัดอยู่ในบริษัทไบต์แดนซ์ (ByteDance) ของจีนประกาศผลการจัดอันดับ “เมืองเศรษฐกิจยามค่ำคืนอันคึกคัก 100 อันดับแรกของจีน ปี 2023” บนพื้นฐานสถิติผู้บริโภคของ “โต่วอิน (ติ๊กต็อก)” โดยประเมินสภาพการใช้บริการของผู้บริโภคในช่วงค่ำคืนและระดับอุปทานด้านบริการของเมืองต่างๆในช่วงค่ำคืน

สถิติที่เกี่ยวข้องยังแสดงว่า สภาพการพัฒนาเศรษฐกิจยามค่ำคืนมีส่วนเกี่ยวข้องกับพื้นฐานเศรษฐกิจท้องถิ่น และสิ่งแวดล้อมทั้งทางธรรมชาติและวัฒนธรรมของแต่ละท้องที่ โดยปรากฏสภาพที่ว่า เศรษฐกิจยามค่ำคืนในเขตที่พัฒนาแล้วมีความคึกคักยิ่ง เช่น มณฑลกว่างตง เหอหนาน เจียงซู ซานตง เจ้อเจียง หยุนหนาน และฝูเจี้ยน มีระดับความเจริญค่อนข้างสูง ในจำนวนนี้ เศรษฐกิจยามค่ำคืนของมณฑลกว่างตงนับว่ามีความคึกคักที่สุดในทั่วประเทศ โดยมีเมือง 15 แห่งของมณฑลอยู่ใน 100 อันดับแรก

ส่วน 10 อันดับแรกเมืองเศรษฐกิจยามค่ำคืนของจีน ได้แก่ กรุงปักกิ่ง เมืองเฉิงตู นครฉงชิ่ง เมืองตงกว่าน เมืองกว่างโจว เมืองหางโจว นครเซี่ยงไฮ้ เมืองเซินเจิ้น เมืองซูโจว และเมืองซีอัน สรุปแล้ว 10 เมืองดังกล่าวล้วนเป็นเมืองที่มีระดับการพัฒนาทางเศรษฐกิจโดยรวมค่อนข้างสูง

สิ่งที่น่าสังเกตคือ เมืองเฉิงตูครองอันดับที่ 2 ซึ่งนำหน้าเมืองใหญ่พิเศษอีกหลายแห่ง ปีหลังๆนี้ เศรษฐกิจเมืองเฉิงตูมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยกลายเป็นเมืองที่มีจีดีพีถึง 2 ล้านล้านหยวนเมืองที่ 7 ของจีน ขณะเดียวกัน ขนาดประชากรและบริการสาธารณะของเมืองเฉิงตูก็มีการคืบหน้าอย่างมาก ปัจจุบัน เฉิงตูได้มีประชากรอาศัยอยู่เป็นประจำถึงจำนวน 21,260,000 คน ทางรถไฟไต้ดินในเมืองได้ครอบคลุมพื้นที่ 519 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเข้า 5 อันดับแรกในทั่วประเทศจีน

เมื่อปี 2019 ทางการเฉิงตูก็ได้ประกาศคำชี้นำเกี่ยวกับการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจยามค่ำคืนและยกระดับการบริโภค เพื่อให้การสนับสนุนด้านนโยบายแก่เศรษฐกิจยามค่ำคืนของเมือง สถิติที่เกี่ยวข้องระบุว่า ช่วงครึ่งแรกปีนี้ ใบสั่งการบริโภคช่วงค่ำคืนของเมืองเฉิงตูเพิ่มขึ้นกว่า 26% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว และกลายเป็นเมืองที่มีการบริโภคมากที่สุดในเมืองใหญ่ที่เจริญขึ้นใหม่ ความคึกคักของเศรษฐกิจยามค่ำคืนยังผลักดันการเติบโตของธุรกิจการท่องเที่ยวและคุณภาพบริการสาธารณะในเมืองอย่างรวดเร็ว

สำหรับเมืองใหญ่พิเศษต่างๆ นอกจากกรุงปักกิ่งและนครเซี่ยงไฮ้แล้ว เมืองกว่างโจวกับเมืองเซินเจิ้นก็ได้เข้า 10 อันดับแรกโดยไม่มีข้อสงสัย กว่างโจวกับเซินเจิ้นเป็นเมืองแกนนำในการพัฒนาเศรษฐกิจของมณฑลกว่างตง หลายปีมานี้ เศรษฐกิจสองเมืองนี้ต่างมีการเติบโตอย่างรวดเร็วในระยะยาว สิ่งที่ต่างกันคือ ทั้งๆที่เมืองเซินเจิ้นมีความแข็งแกร่งด้านเศรษฐกิจ แต่เมืองกว่างโจวมีประวัติศาสตร์อันยาวนานและวัฒนธรรมอันหลากหลายมากกว่า ยกตัวอย่างคือ เมืองกว่างโจวมีพื้นที่เน้นประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมในช่วงค่ำคืนจำนวนมาก รวมถึงถนนคนเดินปักกิ่ง ถนนคนเดินซ่างเซี่ยจิ่ว กว่างโจวทาวเวอร์ และการท่องแม่น้ำจูเจียงยามราตรี เป็นต้น ยังมีตลาดกลางคืนมากมายและอาหารพื้นเมืองชนิดหลากหลาย ปัจจัยเหล่านี้นับว่ามีความสมบูรณ์กว่าเมืองเซินเจิ้น

เมื่อกล่าวถึงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เมืองซูโจวกับเมืองซีอันก็เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเนื่องด้วยประวัติศาสตร์วัฒนธรรมอันยืนยาว ปีหลังๆนี้ ขณะที่ธุรกิจทางอินเตอร์เน็ตของจีนพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง เมืองซูโจวกับเมืองซีอันก็โด่งดังขึ้นมาบนอินเตอร์เน็ตอีก และเข้า 10 อันดับแรกเมืองเศรษฐกิจยามค่ำคืนของจีนด้วย ในจำนวนนี้ “ถนนผิงเจียง” ในเมืองซูโจว และ “วังต้าถังยามราตรี” ในเมืองซีอัน ยังนับเป็นแบบอย่างการพัฒนาเศรษฐกิจยามค่ำคืนในทั่วประเทศจีน

ปัจจุบัน “วังต้าถังยามราตรี” ในเมืองซีอันมีนักท่องเที่ยวถึงจำนวน 102 ล้านคนต่อปี ซึ่งเป็นแกนนำในการพัฒนาเศรษฐกิจยามค่ำคืนของเมืองซีอัน นอกจากนี้ เมืองซีอันยังกำลังใช้ความพยายามบุกเบิกพัฒนาอีกหลายโครงการเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจยามค่ำคืนในเขตอื่นๆของเมือง โดยเฉพาะจัดกิจกรรมการแสดงลักษณะต่างๆ รวมทั้งแบบสืบทอดกันมาและเชิงนวัตกรรมในช่วงค่ำคืน เรียกความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก สถิติระบุว่า เดือนกรกฎาคมปีนี้ ซึ่งตรงกับช่วงปิดเทอมฤดูร้อน จำนวนนักท่องเที่ยวที่ประตูวังโบราณเมืองซีอันเพิ่มขึ้นกว่า 110% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปี 2019 ในจำนวนนี้ มีนักท่องเที่ยวประมาณครึ่งหนึ่งไปเที่ยวชมหลังบ่าย 5 โมง ที่นั่งของสถานที่จัดการแสดงเต็มหมดทุกวัน

สถิติจากโต่วอินยังปรากฏว่า หากพิจารณาจากความเคยชินของผู้ใช้บริการช่วงค่ำคืนในเมืองพบได้ว่า การบริโภคและใช้บริการช่วงค่ำคืนของผู้คนในภูมิภาคดินดอนสามเหลี่ยมแม่น้ำฉางเจียงอยู่ระดับนำหน้าทั่วประเทศ โดยเฉพาะชาวเจียงซู นิยมไปเที่ยวต่างถิ่นมากที่สุด

แม้กลุ่มผู้บริโภคของเศรษฐกิจยามค่ำคืนส่วนใหญ่เป็นชาวท้องถิ่น แต่ปัจจุบันนับวันมีผู้คนร่วมการท่องเที่ยวช่วงค่ำคืนจากต่างถิ่นมากยิ่งขึ้น สถิติจากโต่วอินระบุว่า เขตอ่าวใหญ่กว่างตง-ฮ่องกง-มาเก๊า กลุ่มเมืองในดินดอนสามเหลี่ยมแม่น้ำฉางเจียง และกลุ่มเมืองในคาบสมุทรซานตง เป็นต้น ต่างเรียกความสนใจจากนักท่องเที่ยวต่างถิ่นจำนวนมาก โดยเฉพาะในการบริโภคช่วงค่ำคืน   

     

Yim/Sun

  • เสียงข่าวประจำวัน (21-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (21-11-2567)

  • เสียงคุยกันวันละประเด็น (21-11-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (20-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (20-11-2567)