สถาบันวิเคราะห์เศรษฐกิจบางแห่งของชาติตะวันตกเริ่มเผยแพร่วาทกรรมอีกครั้งว่า  เศรษฐกิจจีนกำลังเผชิญกับปัญหาใหญ่     

พวกเขาใช้วิธีแบบเดิมๆ คือ  ทำการคาดหวังการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในระดับที่สูงเกินจริง จากนั้น วิจารณ์ในตัวเลขที่ต่ำกว่าการคาดหมาย  ความตั้งใจของพวกเขาไม่เคยเปลี่ยนแปลง นั่นก็คือ อยากเห็นเศรษฐกิจจีนล้มเหลว   แต่พวกเขาจะไม่มีวันสมหวัง

สถาบันเหล่านี้เชื่อมั่นใน “โมเดลเศรษฐกิจที่ออกแบบด้วยตนเอง” จนมากเกินไป แต่มองข้ามเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สมเหตุสมผลที่กำหนดโดยจีนและพื้นฐานเศรษฐกิจของจีน ข้อสรุปใด ๆ ที่พวกเขาทำขึ้นมีแต่อยากทำให้เศรษฐกิจจีนได้รับความเสียหาย และช่วยรักษาผลประโยชน์ของชาติตะวันตกเอง  

“เศรษฐกิจจีนเติบโตขึ้นในระดับหนึ่ง แต่การเติบโตไม่ดีเท่าที่ควร   เศรษฐกิจจีนดีขึ้นเล็กน้อย  แต่ผลที่ได้ไม่มากเท่าที่ควร...” นี่เป็นวิธีการวิพากษ์วิจารณ์ของสถาบันในสหรัฐฯ และชาติตะวันตก โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะบิดเบือนความเป็นจริงของเศรษฐกิจจีน

ข้อมูลเศรษฐกิจในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ที่เผยแพร่โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนระบุว่า เศรษฐกิจจีนยังคงมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยอดค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคทางสังคมเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.1 ในเดือนพฤศจิกายนเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีที่แล้ว และเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.5  เมื่อเทียบกับเดือนตุลาคมที่ผ่านมา  ทั้งนี้แสดงให้เห็นว่านโยบายของรัฐบาลจีนในการขยายอุปสงค์ภายในประเทศและส่งเสริมการบริโภคได้เห็นผลอย่างต่อเนื่องตามที่ต้องการ  

แต่สื่อตะวันตกบางแห่ง รวมถึงเดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัล และสำนักข่าวรอยเตอร์ส กลับระบุว่า ข้อมูลทางเศรษฐกิจดังกล่าว “ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้”  รายงานข่าวของสำนักข่าวรอยเตอร์ส ระบุว่า ข้อมูลทางเศรษฐกิจดังกล่าว “ต่ำกว่าความคาดหวังของนักวิเคราะห์ที่ 12.5 เปอร์เซ็นต์”

ตามตรรกะของสื่อชาติตะวันตกเหล่านี้  ข้อมูลทางเศรษฐกิจในเดือนพฤศจิกายนของจีนต้องสูงกว่าของเดือนตุลาคมอย่างน้อย 5 เปอร์เซ็นต์จึงจะถือว่า “เข้าเกณฑ์”  เหตุผลที่ให้ความคาดหวังไว้สูงเช่นนี้  เป็นเพราะว่า ฐานทางเศรษฐกิจที่ต่ำในปีที่แล้ว

ในช่วงต้นปีนี้ เมื่อจีนเริ่มปรับนโยบายการป้องกันและควบคุมโรคระบาดโควิด-19 สื่อตะวันตกเหล่านี้ก็ได้สร้างวาทกรรมเดียวกันว่า ตลาดผู้บริโภคจีนจะฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็วทันที และเศรษฐกิจจีนจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง  แต่เมื่อข้อมูลเศรษฐกิจไตรมาสสองเปิดเผยออกมา  พวกเขาก็ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่า  เศรษฐกิจจีนไม่ดีเท่าที่ควร และกำลังประสบกับปัญหาใหญ่  

แต่แท้ที่จริงแล้ว นักวิเคราะห์ที่เคารพความเป็นจริงส่วนใหญ่เชื่อว่า ไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ที่จะสนับสนุนความคิดเห็นที่ว่า อัตราการเติบโตของการขายปลีกสินค้าทางสังคมจีนในเดือนพฤศจิกายนจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบเป็นรายปี

นายโกว์ เซิงเสียง (Guo Shengxiang) นักเศรษฐศาสตร์ชาวออสเตรเลียกล่าวว่า การคาดการณ์ของสถาบันวิจัยชาติตะวันตกที่ว่า การขายปลีกสินค้าทางสังคมจีนจะเติบโตขึ้นร้อยละ 12.5 นั้นเหมือนกับเป็นการไตร่ตรองไว้ล่วงหน้า เพื่อช่วยให้บรรลุข้อสรุปที่ว่า “ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้” สถาบันวิจัยเหล่านี้จงใจเลือกโมเดลและวิธีการทางสถิติที่ไม่เอื้ออำนวยต่อเศรษฐกิจจีน  โดยทำข้อสรุปขึ้นก่อน แล้วค่อยมาหาข้อโต้แย้งทีหลัง

นักวิเคราะห์ที่ต่างๆจะมีแหล่งข้อมูล เครื่องมือวิเคราะห์ และทิศทางความสนใจที่แตกต่างกัน จึงเป็นเรื่องปกติที่แต่ละคนจะมีการคาดการณ์ที่แตกต่างกันสำหรับเขตเศรษฐกิจเดียวกัน  สิ่งที่นักลงทุนคาดหวังนั้นไม่มีอะไรมากไปกว่ารายงานที่เป็นกลางและมีความสมดุลด้วยข้อมูลที่หลากหลายและมีเหตุผล   

 สถาบันวิจัยบางแห่งของชาติตะวันตกได้ใช้วาทกรรมที่มีอำนาจเหนือกว่า ปิดกั้นความคิดเห็นที่ขัดแย้งกับความตั้งใจของพวกเขา และจงใจเผยแพร่ข้อมูลแง่ลบที่ไม่เป็นความจริงสำหรับเศรษฐกิจจีน เพื่อทำให้ตลาดเกิดความเข้าใจผิดต่อเศรษฐกิจจีน  

แต่เศรษฐกิจจีนมีความยืดหยุ่นในระดับสูง ในขณะที่จีนกำลังขับเคลื่อนการพัฒนาที่เปิดกว้างและมีคุณภาพสูง จีนก็ได้สร้างโอกาสใหม่ๆ และอัดฉีดความแน่นอนให้กับโลกที่ไม่มั่นคง และส่งเสริมการพัฒนาระดับโลก

ด้วยขนาดตลาดที่ใหญ่ นวัตกรรมทางเทคโนโลยี และความยืดหยุ่นในการพัฒนาที่แข็งแกร่ง จีนจึงสามารถทนต่อแรงกดดันภายนอกและเอาชนะความยากลำบากภายในได้ สรุปได้ว่า  การเร่ขายเรื่องเล่าขานที่หลอกลวงเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีนนั้นจะต้องประสบความล้มเหลวอย่างแน่นอน 

(ying/cai)