“การให้ความสำคัญกับการศึกษาและการส่งเสริมการเรียนรู้เป็นรากฐานของการสร้างประเทศ การปลูกฝังบุคลากรให้มีความสามารถเป็นภารกิจสำคัญอันดับแรกในการบริหารบ้านเมือง” ไม่ว่าจะดำรงตำแหน่งใดก็ตาม การศึกษาเป็นประเด็นสำคัญที่นายสี จิ้นผิงใส่ใจมาโดยตลอด
วันที่ 4 กรกฎาคม ค.ศ. 1992 น้ำท่วมครั้งใหญ่ได้สร้างความเสียหายอย่างมากแก่หมู่บ้านหรูโจว ตำบลจ้ายหลี่ อำเภอกวางเจ๋อ เขตหนานผิง มณฑลฝูเจี้ยน ทำให้โรงเรียนประถมศึกษาหรูโจวซึ่งเป็นโรงเรียนประถมแห่งเดียวในหมู่บ้านนี้ถูกน้ำซัดจนพังทลาย หมู่บ้านเล็กๆที่ยากจนแห่งนี้ไม่มีเงินเพียงพอที่จะสร้างโรงเรียนใหม่ให้กับเด็กๆ ได้ นักเรียน 231 คนจึงถูกจัดให้ไปเรียนหนังสือเป็นการชั่วคราวในบ้านที่เรียบง่ายหลังหนึ่งของคณะกรรมการหมู่บ้าน
ข่าวแพร่กระจายไปยังเมืองฝูโจว “ความยากลำบากของหมู่บ้านหรูโจวก็คือความยากลำบากของเรา!” นายสี จิ้นผิง เลขาธิการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิวสต์จีนประจำเมืองฝูโจวในขณะนั้น เสนอให้บริจาคเงินให้กับหมู่บ้านหรูโจวเป็นน้ำใจจากประชาชนฝูโจวเพื่อการศึกษาในพื้นที่ภูเขา เงินทุนที่จำเป็นในการสร้างโรงเรียนใหม่ก็พร้อมใช้ในไม่ช้า
เนื่องในโอกาสพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารเรียนหลังใหม่ นายสี จิ้นผิงได้ส่งจดหมายแสดงความยินดีซึ่งระบุว่า มนุษย์มีน้ำใจต่างกับน้ำท่วมซึ่งไร้ความปรานี ยามเผชิญกับซากปรักหักพังที่เหลือจากภัยพิบัติน้ำท่วม พวกคุณได้ดำเนินการต่อสู้กับภัยพิบัติและช่วยเหลือตนเองด้วยความกล้าหาญเพื่อฟื้นฟูการดำรงชีวิตและการเล่าเรียนที่สงบสุขโดยเร็วที่สุดและเพื่ออนาคตของเด็กๆ ในเวลาเพียงไม่กี่เดือน อาคารเรียนที่สว่างและสะอาดก็ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ จิตวิญญาณแห่งการทำงานหนักและฟันฝ่าต่อสู้ไม่ยอมแพ้ต่อความยากลำบากนั้นเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมน่านับถือ
สำหรับจดหมายฉบับนี้คณะครูของโรงเรียนได้เสนอว่าควรแกะสลักเนื้อหาในจดหมายแสดงความยินดีไว้ที่ผนังอาคารเรียนหลังใหม่
คำบรรยายภาพ : ระหว่างวันที่ 1-2 พฤศจิกายน ค.ศ.2014 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ตรวจเยี่ยมมณฑลฝูเจี้ยน นี่คือภาพถ่ายในตอนเย็นของวันที่ 1 ขณะนายสี จิ้นผิงกำลังพูดคุยอย่างสนิทสนมกับเด็กๆที่กำลังทำกิจกรรมเผยแพร่ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ภายใต้การแนะนำของครูในชุมชนจุนเหมิน เมืองฝูโจว (ภาพจากสำนักข่าวซินหัว)
หลังผู้คนทั้งหมู่บ้านทำงานอย่างหนักมากว่า 240 วัน อาคารเรียนที่สวยงามก็สร้างเสร็จสมบูรณ์ในเดือนมีนาคมของปีถัดไป ครั้งแรกที่บรรดาครูและนักเรียนเดินเข้าไปในห้องเรียนใหม่ที่ทั้งสว่างและกว้างใหญ่ พวกเขาต่างไม่อาจเก็บความปลื้มปิติไว้ในใจเท่านั้น จึงพากันได้เลือกตัวแทนนักเรียน 13 คน และช่วยกันเขียนจดหมายขอบคุณนายสี จิ้นผิงโดยระบุว่า “เราต่างรู้สึกถึงความหนือกว่าของสังคมนิยมและความอบอุ่นของพรรคท่วมทวี...” ชาวหรูโจวที่เห็นคุณค่าของมิตรภาพยังได้ตัดสินใจเปลี่ยนชื่อโรงเรียนประถมศึกษาหรูโจวเป็น “โรงเรียนประถมศึกษาฝูโจวอำเภอกวางเจ๋อ”ด้วย
ปี 2007 โรงเรียนประถมศึกษาฝูโจวอำเภอกวางเจ๋อผ่านการรับรองมาตรฐานโรงเรียนระดับมณฑล กลายเป็นโรงเรียนประถมศึกษาระดับหมู่บ้านแห่งแรกในเมืองหนานผิงที่ได้มาตรฐาน ในช่วงเวลานั้นโรงเรียนประถมในชนบทห่างไกลหลายแห่งได้ถูกยุบรวมกัน แต่โรงเรียนประถมศึกษาแห่งนี้กลับมีจำนวนครูและนักเรียนเพิ่มมากขึ้นแทนที่จะลดลงและมีความเจริญรุ่งเรืองมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้เป็นเพราะการเรียนการสอนมีประสิทธิภาพและสภาพแวดล้อมที่ดี จดหมายแสดงความยินดีของนายสี จิ้นผิง ยังคงสลักอยู่ที่ผนังอาคารเรียน
วันที่ 26 กันยายน ค.ศ. 2000 นายสี จิ้นผิง ซึ่งขณะนั้นเป็นผู้ว่าการมณฑลฝูเจี้ยน ได้เดินทางไปยังโรงเรียนประถมสาธิตเจิ้งเหอ เมืองหนานผิง เพื่อสำรวจสภาพความเป็นจริงประกอบการวิจัย ที่สนามกีฬาโรงเรียน เว่ย ชวี่ฟาง ครูใหญ่ เดินพร้อมรายงานสภาพความเป็นจริงของโรงเรียนไปด้วย เวลานั้นโรงเรียนมีนักเรียนมากกว่า 1,900 คน มี 31 ห้องเรียน ห้องเรียนที่ใหญ่ที่สุดมีนักเรียนมากถึง 74 คน เนื่องจากพื้นที่มีขนาดเล็กเกินไป อีกสองชั้นเรียนจึงจำเป็นต้องยืมห้องใน“วังเด็ก”ซึ่งเป็นศูนย์การเรียนรู้สำหรับเด็กประจำอำเภอใช้เป็นที่เรียน
“สำหรับการพัฒนาของท้องถิ่นใดก็ตาม รากฐานคือการศึกษา พลังขับเคลื่อนในภายหลังก็คือการศึกษาเช่นกัน” คำพูดของนายสี จิ้นผิงยังคงอยู่ในความทรงจำของ เว่ย ชวี่ฟางเสมอ
ต่อมาไม่ถึงเดือน โรงเรียนได้รับการจัดสรรเงิน 800,000 หยวนจากกองทุนผู้ว่าการมณฑล และอีก 200,000 หยวนในปีถัดมา “หากไม่มีเงินสนับสนุน 1 ล้านหยวนนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มขยายโรงเรียนได้เมื่อไร” เว่ย ชวี่ฟางกล่าวด้วยความซาบซึ้งใจ
ในช่วงครึ่งแรกของปี ค.ศ. 2002 โครงการขยายโรงเรียนประถมสาธิตเจิ้งเหอเสร็จสมบูรณ์ สภาพการเรียนการสอนได้รับการปรับปรุงดีขึ้นเป็นอย่างมาก ต่อมา โรงเรียนได้รับการจัดอันดับให้เป็น “โรงเรียนอารยธรรมระดับมณฑล”
เนื่องจากปัจจัยทางประวัติศาสตร์ เงื่อนไขทางธรรมชาติ ฯลฯ ระดับการศึกษาของชนผ่าเซออยู่ในระดับต่ำมาเป็นเวลานาน นายสี จิ้นผิงใส่ใจเป็นพิเศษกับการศึกษาของชนกลุ่มน้อยมาโดยตลอด
ในระหว่างที่นายสี จิ้นผิง ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการมณฑลฝูเจี้ยนนั้น การสนับสนุนด้านการศึกษาของชนกลุ่มน้อยได้ก่อรูปขึ้นเป็นระบบแล้ว ปี ค.ศ. 2002 มณฑลฝูเจี้ยนได้ออก “ความคิดเห็นว่าด้วยการดำเนินการปฏิรูปเชิงลึกเพื่อเร่งพัฒนาการศึกษาชนกลุ่มน้อย”โดยเฉพาะ เพื่อส่งเสริมให้การศึกษาชนกลุ่มน้อยได้รับการพัฒนาในลำดับต้นๆ ตั้งแต่ปีเดียวกันนั้น ฝ่ายการเงินของมณฑลได้จัดสรรเงินทุนพิเศษสำหรับการศึกษาชนกลุ่มน้อยทุกปี โดยมุ่งเน้นที่การสนับสนุนอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกของโรงเรียนชนกลุ่มน้อย เพื่อปรับปรุงสภาพการดำเนินงานของโรงเรียน
IN/LU