บทวิเคราะห์ : พัฒนา “เศรษฐกิจสูงวัย” สร้างจุดเติบโตใหม่ให้เศรษฐกิจจีน

2024-01-24 12:39:18 | CMG
Share with:

การประชุมครั้งแรกของคณะรัฐมนตรีจีนในปี 2024 ที่จัดขึ้นเมื่อต้นเดือนนี้ มุ่งเน้นไปที่การพัฒนา “เศรษฐกิจสูงวัย”หรือ Silver Economy เพื่อให้บรรดาผู้สูงอายุจีนมีความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้น ที่ประชุมย้ำว่า  การพัฒนา “เศรษฐกิจสูงวัย” เป็นมาตรการสําคัญในการรับมือสังคมผู้สูงอายุ  และส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพสูง  ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งปัจจุบันและอนาคต

ต่อจากนั้น  คณะรัฐมนตรีจีนได้ออก “ความคิดเห็นเกี่ยวกับการพัฒนา ‘เศรษฐกิจสูงวัย’ และการปรับปรุงความเป็นอยู่ของผู้สูงอายุให้ดียิ่งขึ้น” โดยตั้งเป้าว่าจะเร่งการพัฒนา “เศรษฐกิจสูงวัย” ให้มีขนาดใหญ่  ได้มาตรฐาน  คลัสเตอร์(clustering)  และสร้างแบรนด์ต่าง ๆ เพื่อให้ผู้สูงอายุเพลิดเพลินกับวัยชราอย่างมีความสุข

เมื่อวันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา  สํานักงานสารนิเทศ คณะรัฐมนตรีจีนได้จัดแถลงข่าว  เพื่ออธิบายอย่างละเอียดเกี่ยวกับ “ความคิดเห็นในการพัฒนา ‘เศรษฐกิจสูงวัย’ และการปรับปรุงความเป็นอยู่ของผู้สูงอายุให้ดียิ่งขึ้น” ในการแถลงข่าวดังกล่าว  นายหลิว หมิง อธิบดีกรมพัฒนาสังคม คณะกรรมการพัฒนาและการปฏิรูปแห่งชาติจีนระบุว่า  “เศรษฐกิจสูงวัย” ประกอบด้วย 2 ส่วน  ได้แก่  “เศรษฐกิจผู้สูงวัยในช่วงวัยชรา” และ “เศรษฐกิจเตรียมความพร้อมสู่วัยชราซึ่งเป็นช่วงก่อนวัยชรา” 

อธิบดีกรมพัฒนาสังคมยังระบุด้วยว่า  “เศรษฐกิจสูงวัย” จัดเป็นอุตสาหกรรมที่มีความหลากหลาย  มีศักยภาพมาก  และมีอนาคตกว้างไกล  ซึ่งเกี่ยวข้องกับห่วงโซ่อุตสาหกรรมต่าง ๆ   ครอบคลุมเกือบทุกสาขาเศรษฐกิจ  และมีความเป็นไปได้ที่จะกลายเป็นส่วนสําคัญของระบบเศรษฐกิจสมัยใหม่

“ความคิดเห็นในการพัฒนา ‘เศรษฐกิจสูงวัย’ และการปรับปรุงความเป็นอยู่ของผู้สูงอายุให้ดียิ่งขึ้น” ดังกล่าว เสนอให้ส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและอุปกรณ์อัจฉริยะรุ่นใหม่แบบบูรณาการ เช่น เทอร์มินัลเคลื่อนที่ อุปกรณ์สวมใส่ และหุ่นยนต์บริการในบ้าน ชุมชน สถาบันบำเหน็จบำนาญ  โดยจะพัฒนาผลิตภัณฑ์อัจฉริยะด้านการบริหารสุขภาพ การดูแลผู้สูงอายุ และการปลอบใจเป็นสำคัญ

สถิติจากกระทรวงกิจการพลเรือนจีนระบุว่า  ปัจจุบัน  จีนมีประชากรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปถึง 280 ล้านคน  คิดเป็นเกือบ 20% ของประชากรทั้งหมด รายงานเกี่ยวกับการพัฒนา “เศรษฐกิจสูงวัย” ของจีนที่เผยแพร่โดยสถาบันผู้สูงอายุของมหาวิทยาลัยฟู่ตั้นนครเซี่ยงไฮ้คาดว่า ถึงปี 2023 ขนาด“เศรษฐกิจสูงวัย” ของจีนจะอยู่ที่ประมาณ 19 ล้านล้านหยวน  คิดเป็น 28% ของการบริโภคทั้งหมดของประเทศ  และคิดเป็น 9.6% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ

ปัจจุบัน  ผู้สูงอายุจีนส่วนใหญ่มีเงิน  มีเวลาว่าง และมีสุขภาพแข็งแรงดี  พวกเขานิยมเดินทางท่องเที่ยว ช้อปปิ้งออนไลน์ บำรุงสุขภาพ การเข้าสังคม การไปเรียนในมหาวิทยาลัยสําหรับผู้สูงอายุ...... ถือเป็นพลังสำคัญในการบริโภคของจีน  ซึ่งได้สร้างโอกาสการพัฒนา “เศรษฐกิจสูงวัย”  อีกทั้งขับเคลื่อนให้อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องของจีนพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ตัวอย่างเช่น  การดูแลผู้สูงอายุแบบอัจฉริยะ การดูแลผู้สูงอายุแบบดิจิทัล แม่บ้านดิจิทัล หุ่นยนต์พยาบาล เป็นต้น

ทั้งนี้  สื่อมวลชนจีนจึงรณรงค์ให้รวมพลังของสังคมในการพัฒนา “เศรษฐกิจสูงวัย”  โดยระบุว่า  ทุกครอบครัวต่างมีผู้สูงอายุ  ไม่ว่าใครล้วนจะมีวันที่แก่ตัวลง  ความต้องการของผู้สูงอายุในปัจจุบันจะเป็นความต้องการในอนาคตของคนหนุ่มสาว การพัฒนา“เศรษฐกิจสูงวัย” ไม่เพียงแต่จะส่งเสริมให้บรรดาอาจารย์  ช่างฝีมือ  และอาสาสมัครที่ปลดเกษียณแล้วมีส่วนร่วม  หากยังต้องการให้คนทุกวัยในสังคมมีส่วนร่วมอีกด้วย 

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ขณะนี้ “เศรษฐกิจสูงวัย” ในจีนยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย  แตกต่างและเป็นส่วนตัวของผู้สูงอายุได้  ด้วยเหตุนี้ ควรเรียนรู้ประสบการณ์และแนวปฏิบัติที่ก้าวหน้าจากต่างประเทศ  โดยนำเข้าทรัพยากรระหว่างประเทศที่มีคุณภาพสูง  เสริมสร้างความร่วมมือกับสถาบันบริการการบําเหน็จบํานาญระหว่างประเทศเพื่อร่วมกันพัฒนาตลาด “เศรษฐกิจสูงวัย” ของจีน  และให้ “เศรษฐกิจสูงวัย” กลายเป็นจุดเติบโตใหม่ของเศรษฐกิจจีน


 (IN/ZHOU)

  • เสียงข่าวประจำวัน (21-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (21-11-2567)

  • เสียงคุยกันวันละประเด็น (21-11-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (20-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (20-11-2567)