เมื่อวันที่ 25 มกราคม จีนและสิงคโปร์ได้ลงนามข้อตกลงการยกเว้นวีซ่าร่วมกัน ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ พลเมืองจีนและสิงคโปร์ที่ถือหนังสือเดินทางธรรมดาจะได้รับอนุญาตให้เข้าและอยู่ในประเทศของอีกฝ่ายนานถึง 30 วันโดยไม่ต้องขอวีซ่า
การขยายขอบเขตนโยบายปลอดวีซ่าจะช่วยอำนวยความสะดวกมากขึ้นในการแลกเปลี่ยนบุคลากร และส่งเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนความร่วมมือระหว่างจีนและประเทศที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจและการเปิดกว้างของจีนอย่างชัดเจน
จนถึงขณะนี้ จีนได้ลงนามข้อตกลงยกเว้นวีซ่าที่ครอบคลุมหนังสือเดินทางประเภทต่างๆร่วมกับ 157 ประเทศ บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการลดขั้นตอนการขอวีซ่ากับ 44 ประเทศ ตลอดจนร่วมกันยกเว้นวีซ่าทุกประเภทกับ 22 ประเทศ รวมถึงสิงคโปร์ มัลดีฟส์ คาซัคสถาน และอื่นๆ นอกจากนี้ กว่า 60ประเทศและภูมิภาคใช้นโยบายปลอดวีซ่าหรือให้วีซ่าที่หน้าด่าน (visa-on-arrival) สำหรับพลเมืองจีน
ปัจจุบัน หนังสือเดินทางจีนมี “มูลค่า”สูงขึ้นอย่างมาก ชาวจีนมีความสะดวกมากขึ้นในการเดินทางออกนอกประเทศ ในขณะเดียวกัน จีนได้ปรับปรุงนโยบายวีซ่าอย่างต่อเนื่อง เพื่ออำนวยความสะดวกมากขึ้นกับชาวต่างชาติในการเดินทาง ทำงาน เรียนหนังสือ และใช้ชีวิตในประเทศจีน
การที่จีนปรับปรุงนโยบายวีซ่าอย่างต่อเนื่องนั้นทำให้ทั่วโลกเห็นถึงแนวทางเปิดกว้าง ความมั่นใจ และความแข็งแกร่งของจีน
ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2023 จีนทดลองใช้นโยบายปลอดวีซ่าโดยฝ่ายเดียวสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาของฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี เนเธอร์แลนด์ สเปน และมาเลเซีย ต่อมา จีนประกาศว่า จะใช้นโยบายปลอดวีซ่าโดยฝ่ายเดียวกับสวิตเซอร์แลนด์และไอร์แลนด์ จนถึงเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว จีนได้ขยายขอบเขตนโยบายปลอดวีซ่าการเดินทาง 72/144 ชั่วโมงแก่ 54 ประเทศ
ตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคม 2023 สถานทูตและสถานกงสุลจีนในประเทศต่างๆทั่วโลกได้ดำเนินมาตรการชั่วคราว เพื่อลดค่าธรรมเนียมวีซ่าสำหรับชาวต่างชาติ และตั้งแต่วันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแห่งชาติจีนได้ดำเนินมาตรการ 5 มาตรการอย่างเป็นทางการ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ชาวต่างชาติในการเดินทางเข้ามาในจีน
มาตรการเหล่านี้ได้อำนวยความสะดวกที่เป็นรูปธรรมในการแลกเปลี่ยนบุคลากร ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้า และการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างจีนกับต่างประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของจีนในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประชาชน และขับเคลื่อนการแลกเปลี่ยน การเรียนรู้ร่วมกันระหว่างอารยธรรม
การปรับนโยบายวีซ่าอย่างต่อเนื่องของจีนได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางจากประชาคมระหว่างประเทศ และการตอบรับเชิงบวกจากประเทศที่เกี่ยวข้อง สื่อต่างชาติหลายสำนักชื่นชมจีนที่ออกนโยบายวีซ่าที่อำนวยความสะดวกแก่ชาวต่างชาติ โดยกล่าวว่า นี่เป็นสัญญาณสำคัญในการส่งเสริมการท่องเที่ยวและการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจ
ในขณะเดียวกัน มาเลเซียตัดสินใจใช้นโยบายให้คนสัญชาติจีนเข้าประเทศได้ 30 วันโดยไม่ต้องขอวีซ่า รัฐบาลฝรั่งเศสประกาศว่า ผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทจากประเทศจีนที่มีประสบการณ์การศึกษาในฝรั่งเศสสามารถขอวีซ่า 5 ปีได้ สวิตเซอร์แลนด์จะอำนวยความสะดวกในการขอวีซ่ามากขึ้นสำหรับพลเมืองจีนและบริษัทจีนที่ลงทุนในสวิตเซอร์แลนด์ ไอร์แลนด์แสดงว่า จะอำนวยความสะดวกมากขึ้นให้กับพลเมืองจีนที่เดินทางไปเยือนไอร์แลนด์ และยินดีให้บริษัทจีนเข้าไปลงทุนและทำธุรกิจในไอร์แลนด์มากขึ้น
การขยายขอบเขตนโยบายวีซ่าที่อำนวยประโยชน์แก่กันจะช่วยส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระหว่างจีนและประเทศที่เกี่ยวข้องอย่างมีประสิทธิภาพ และส่งเสริมความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกันระหว่างทั้งสองฝ่าย
การปรับนโยบายวีซ่าอย่างต่อเนื่องของจีนและการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนระหว่างจีนและต่างประเทศ ถือเป็นมาตรการสำคัญของจีน เพื่อรองรับการพัฒนาคุณภาพสูงและการเปิดกว้างในระดับสูง และยังจะเพิ่มความมั่นใจและแรงผลักดันในการพัฒนาร่วมกันของทุกประเทศทั่วโลก
หลังจากดำเนินการปฏิรูปและเปิดประเทศมาเป็นเวลา 45 ปี จีนประจักษ์ชัดว่า ยิ่งประเทศเปิดกว้างมากเท่าไร ก็ยิ่งพัฒนาและมีความมั่นใจมากขึ้นเท่านั้น และยิ่งสามารถมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาร่วมกันของทุกประเทศทั่วโลก
จีนมุ่งมั่นที่จะเปิดประเทศให้กว้างขึ้น เพื่อส่งเสริมความร่วมมือและอำนวยประโยชน์แก่กัน สนับสนุนการเรียนรู้ซึ่งกันและกันระหว่างอารยธรรมที่แตกต่างกัน การอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน และทำงานร่วมกับทุกฝ่าย เพื่อสร้างประชาคมมนุษย์ที่มีอนาคตร่วมกัน
(IN/cai)