ข้อมูลล่าสุดของทางการจีนที่เปิดเผยเมื่อวันที่ 12 เมษายน แสดงให้เห็นว่า การนำเข้าและส่งออกสินค้าของจีนในไตรมาสแรกของปี 2024 ขยายตัวร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีที่แล้ว สร้างสถิติใหม่ทั้งในด้านขนาดและอัตราการเติบโต  

ตามข้อมูลของสำนักงานศุลกากรแห่งชาติจีน ตั้งแต่เดือนมกราคม -มีนาคมที่ผ่านมา  ยอดมูลค่าการนำเข้าและส่งออกสินค้าของจีนอยู่ที่ 10.17 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 1.43 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ)  โดยการส่งออกขยายตัว 4.9% มีมูลค่า 5.74 ล้านล้านหยวน ขณะที่การนำเข้าเพิ่มขึ้น 5% แตะ 4.43 ล้านล้านหยวน 

นายหวัง หลิงจุน รองผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรแห่งชาติจีน กล่าวในงานแถลงข่าวว่า  นับเป็นครั้งแรกที่ขนาดการค้าต่างประเทศของจีนในไตรมาสแรกมีมูลค่าเกิน 10 ล้านล้านหยวน ในขณะที่อัตราการเติบโตแตะระดับสูงสุดใน 6 ไตรมาสที่ผ่านมา  

ในไตรมาสแรกปีนี้ อัตราการเติบโตของการค้าระหว่างจีนกับประเทศที่เข้าร่วมโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางและกลุ่มประเทศบริกส์ (BRICS)  สูงกว่าอัตราการเติบโตโดยรวม 

ข้อมูลระบุว่า การค้าระหว่างจีนกับประเทศที่เข้าร่วมโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง มีมูลค่า 4.82 ล้านล้านหยวน  เพิ่มขึ้น 5.5%  คิดเป็น 47.4% ของปริมาณการค้าทั้งหมดของจีน  ขณะที่การค้าระหว่างจีนกับสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา สาธารณรัฐเกาหลี และญี่ปุ่น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 33.4 ของการค้าทั้งหมดของจีน 

การค้าระหว่างจีนกับประเทศละตินอเมริกาและห้าประเทศในเอเชียกลางเติบโตเป็นเลขสองหลัก การค้าระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ซึ่งเป็นตลาดดั้งเดิมของจีน เริ่มฟื้นตัว  

ด้านโครงสร้างการนำเข้าและส่งออก  การส่งออกเครื่องจักรและอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ต้องใช้แรงงานจำนวนมากมีแนวโน้มการขยายตัวที่ดี   ซึ่งแสดงให้เห็นว่า สินค้าเหล่านี้สามารถแข่งขันในตลาดโลกอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การนำเข้าสินค้าเทกองและสินค้าอุปโภคบริโภคขยายตัวอย่างต่อเนื่อง  บ่งชี้ถึงอุปสงค์ในประเทศที่แข็งแกร่งและกำลังเติบโต  

นายหวัง หลิงจุน รองผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรแห่งชาติจีนยังกล่าวว่า ขณะนี้ สภาพแวดล้อมระหว่างประเทศกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้ง  และการพัฒนาเศรษฐกิจโลกต้องเผชิญกับความท้าทายร้ายแรงหลายประการ ทำให้การค้าต่างประเทศของจีนต้องเผชิญกับบททดสอบที่หนักมาก  อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางแรงกดดันจากภายนอก เศรษฐกิจจีนยังคงมีความแข็งแกร่งและยั่งยืน ทำให้การพัฒนาการค้าต่างประเทศของจีนมีรากฐานที่มั่นคง   คาดว่าการนำเข้าและส่งออกของจีนในไตรมาสที่สองของปีนี้จะยังคงขยายตัวต่อไป 

(yim/cai)