ระหว่างวันที่ 25-30 มีนาคมที่ผ่านมา นายดิเนช กุนาวาร์เดนา  นายกรัฐมนตรีศรีลังกา เดินทางเยือนจีนอย่างเป็นทางการ และเข้าร่วมฟอรั่มการประชุมโป๋อ๋าวประจำปี 2024  ระหว่างการเยือน ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนได้พบปะกับนายกรัฐมนตรีดิเนช กุนาวาร์เดนา หารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคี โดยเฉพาะการกระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่างสองประเทศ

ขณะให้สัมภาษณ์พิเศษกับรายการ "High-end Interview" นายกรัฐมนตรีกุนาวาร์เดนากล่าวว่า ระยะเวลา 60 ปีที่ศรีลังกา-จีนได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเป็นต้นมา สองประเทศเป็นหุ้นส่วนที่สนิทและใกล้ชิดในทุกด้าน จีนได้ช่วยเหลือศรีลังกาในการจัดการกับปัญหาความท้าทายต่าง ๆ การพบปะกับประธานาธิบดีสีจิ้นผิงครั้งนี้ ทําให้มั่นใจได้ว่า มิตรภาพและความร่วมมือระหว่างศรีลังกากับจีน จะยังคงเดินหน้าต่อไปแน่นอน ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ยังกล่าวเป็นพิเศษว่า อนาคตของพวกเราเต็มไปด้วยความท้าทายใหม่ ทั่วโลกกําลังเผชิญกับความท้าทายใหม่ ๆ ก้าวย่างแห่งความทันยุคสมัยกําลังรุดไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ศรีลังกาก็หวังที่จะบรรลุซึ่งความทันสมัยในภาคการผลิตและบริการ เพื่อการพัฒนาประเทศไปอย่างรวดเร็ว ข้าพเจ้าได้ปรึกษาหารือในประเด็นดังกล่าวนี้ และได้รับการตอบรับที่ดีจากท่านประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ข้าพเจ้ารู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้พบปะกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะจดจำไว้ในใจตลอดไป

นายกุนาวาร์เดนาชี้ว่า  จีนได้ดำเนินการวิจัยมากมายด้านการเกษตร และมีกำลังการผลิตด้านการเกษตรอย่างสูงยิ่ง เป็นแบบอย่างที่ดีสําหรับเกษตรกรและผู้ประกอบการศรีลังกาในการศึกษาเรียนรู้ พัฒนาการเกษตรที่ให้ผลตอบแทนสูง บุกเบิกพื้นที่การลงทุนใหม่ เพื่อขยายการส่งออกสินค้าเกษตรไปยังประเทศจีนและตลาดต่างประเทศ ขณะเดียวกัน ประเทศจีนมีสถาบันวิจัยทางการเกษตรหลายแห่งสําหรับการวิจัยและพัฒนาพืชพันธุ์ที่มีผลผลิตสูง ซึ่งคณะผู้แทนจากมณฑลยูนนานของจีนได้มาเยือนศรีลังกา และเห็นว่ามีสองจังหวัดของศรีลังกาเหมาะต่อการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ด้านการเกษตร ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างศรีลังกาและจีนย่อมจะส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง มุ่งมั่นที่จะบรรเทาความยากจน ปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของกลุ่มประชากรผู้มีรายได้ต่ำ ช่วยให้ประชาชนจีนหลายร้อยล้านคนพ้นจากความยากจนและมีชีวิตที่ดีขึ้น และยังประกาศด้วยว่า จีนจะแบ่งปันประสบการณ์ด้านการพัฒนาการเกษตรที่มีกำลังการผลิตสูงนี้ด้วย ซึ่งศรีลังกาเป็นหนึ่งในหลายประเทศที่ยินดีร่วมมือกับจีน ย่อมจะสนับสนุนการพัฒนาการเกษตรในประเทศ โดยเฉพาะด้านการเพาะปลูกข้าว ช่วยให้ศรีลังกายกระดับกําลังการผลิต มีรายได้เพิ่มขึ้นขณะที่ต้นทุนลดต่ำลง

（Yim/Zi）