ภารกิจเยือนต่างประเทศของผู้นำจีนจบลงอย่างงดงาม สานต่อมิตรภาพ เสริมความสามัคคี และเปิดประตูสู่อนาคต

2024-05-11 17:16:19 | CMG
Share with:

ระหว่างวันที่ 5-10 พฤษภาคม นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ได้เยือนประเทศฝรั่งเศส เซอร์เบียและฮังการีอย่างเป็นทางการตามคำเชิญ หลังเสร็จสิ้นการเยือน นายหวัง อี้ กรรมการกรมการเมือง คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนได้แถลงสรุปผลการเยือนครั้งนี้ว่า ได้กระชับความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับฝรั่งเศส ทวีความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับเซอร์เบีย ยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับฮังการีให้สูงขึ้น ความร่วมมือระหว่างจีนกับยุโรปมีจุดเริ่มต้นใหม่ เป็นการเยือนที่สืบทอดมิตรภาพ เพิ่มพูนความไว้วางใจ ฟื้นฟูความมั่นใจและเปิดอนาคต

นายหวัง อี้กล่าวว่า การเยือนฝรั่งเศสของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงครั้งนี้ เป็นวาระสำคัญในการฉลองจีนกับฝรั่งเศสสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตครบรอบ 60 ปี นายสี จิ้นผิง ได้เสนอให้ยืนหยัดความเด็ดเดี่ยวแน่วแน่และเป็นเอกราช ร่วมกันป้องกันไม่ให้เกิดสงครามเย็นรอบใหม่หรือตั้งตัวเป็นปรปักษ์กัน ต้องเข้าใจกัน ร่วมกันส่งเสริมโลกที่มีความหลากหลายและอยู่ด้วยกันอย่างปรองดอง ต้องมองการณ์ไกล ร่วมกันผลักดันให้โลกมีความหลากหลายและมีความเสมอภาค ต้องยืนหยัดอำนวยประโยชน์แก่กันและรับผลประโยชน์ด้วยกัน ร่วมกันต่อต้านการตัดความสัมพันธ์

ประธานาธิบดีมาครงกล่าวว่า โลกปัจจุบันเผชิญกับการท้าทายอย่างเร่งด่วน ทั้งสองฝ่ายต้องเคารพซึ่งกันและกัน มองการณ์ไกล กระชับความร่วมมือ แสดงบทบาทสำคัญในทางบวกเพื่อรับมือกับการท้าทายของโลก หลีกเลี่ยงการตั้งตัวเป็นปรปักษ์กันแบบจับกลุ่ม

ทั้งสองฝ่ายประกาศแถลงการณ์ร่วม 4 ฉบับเกี่ยวกับสถานการณ์ตะวันออกกลาง, เอไอกับการบริหารโลก, ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตและทะเล, การแลกเปลี่ยนความร่วมมือทางด้านการเกษตร นอกจากนี้ ยังได้ลงนามในข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมืออีกประมาณ 20 ฉบับ

นายหวัง อี้กล่าวว่า ประธานาธิบดีเซอร์เบียเชิญชวนหลายครั้ง ฉะนั้น ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จึงเยือนเซอร์เบียอีกครั้งตามคำเชิญ ผู้นำสองประเทศเห็นพ้องกันที่จะสร้างประชาคมร่วมชะตาเดียวกันระหว่างจีนกับเซอร์เบียในยุคสมัยใหม่ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงยังประกาศมาตรการของจีนในการสนับสนุนเซอร์เบียร่วมสร้างประชาคมร่วมชะตาเดียวกัน แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจและความจริงใจของจีนในการยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้เป็นยุทธศาสตร์แบบหุ้นส่วน

ประธานาธิบดีเซอร์เบียกล่าวครั้งแล้วครั้งเล่าว่า ประชาชนจีนสนับสนุนจีนพิทักษ์ผลประโยชน์สำคัญอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ ร่วมมือกับจีนอย่างใกล้ชิด ร่วมกันคัดค้านมหาอำนาจ พิทักษ์ความเที่ยงธรรมและยุติธรรมของโลก

นายหวัง อี้กล่าวว่า ฮังการีเป็นหนึ่งในประเทศต้นๆที่ได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีน ปีนี้ครบรอบ 75 ปี ฮังการีให้ความสำคัญกับการเยือนครั้งนี้ของนายสี จิ้นผิง ซึ่งนายสี จิ้นผิงได้ชื่นชมนายกรัฐมนตรีออร์บันสนับสนุนผลประโยชน์แกนนำของจีนอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ จีนยินดีกระชับความร่วมมือกับฮังการีในด้านยุทธศาสตร์ เสนอให้โลกมีความหลากหลายและเสมอภาค พัฒนาเศรษฐกิจให้เป็นแบบโลกาภิวัตน์ที่มีความยอมรับกัน ผลักดันโลกให้มีระบบบริหารที่เที่ยงธรรมและสมเหตุสมผล

ทั้งประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีฮังการีต่างชื่นชมข้อริเริ่มเกี่ยวกับโลกที่เสนอโดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ไม่ว่าอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคต ฮังการียืนหยัดหลักการจีนเดียว ความมั่นใจในการกระชับความร่วมมือกับจีนไม่เคยเปลี่ยนแปลง หวังจะกระชับความร่วมมือตามโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง เต็มไปด้วยความหวังต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับฮังการีในอนาคต ทางฮังการียังระบุ จะถือโอกาสเป็นประเทศประธานของสหภาพยุโรปในครึ่งหลังปีนี้ ผลักดันความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับยุโรปพัฒนาไปด้วยความมั่นคง แสดงบทบาทให้การส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศยุโรปกับจีน

นายหวัง อี้กล่าวว่า ยุโรปเป็นส่วนสำคัญในโลก เป็นหุ้นส่วนสำคัญของจีนทั้งทางการทูตและบรรลุความทันสมัยแบบจีน

นอกจากนี้ นายสี จิ้นผิงยังได้เจรจาทวิภาคีกับประธานาธิบดีมาครงและประธานสหภาพยุโรป นายสี จิ้นผิงกล่าวว่า จีนกับยุโรปควรยืนหยัดความสัมพันธ์ที่เป็นมิตร ยืนหยัดความร่วมมือ กระชับการประสานงาน เพิ่มความไว้ใจกันทางยุทธศาสตร์ ระดมกำลังและความรับรู้ร่วมกันเพื่อดำเนินความร่วมมือ ผลักดันให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายพัฒนาไปด้วยดี สร้างคุณูปการใหม่แก่สันติภาพและการพัฒนาของโลก

นายหวัง อี้กล่าวว่า ระหว่างการเยือนครั้งนี้ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงยังได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับวิกฤตยูเครน การปะทะระหว่างปาเลสไตน์กับอิสราเอล ตลอดจนปัญหาประเด็นร้อนระดับโลกและส่วนภูมิภาค


Yim/Ping/Cai

  • เสียงข่าวประจำวัน (26-07-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (26-07-2567)

  • เสียงคุยกันวันละประเด็น (26-07-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (25-07-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (25-07-2567)