รายงานการละเมิดสิทธิมนุษยชนของสหรัฐอเมริกาประจำปี 2023

2024-05-29 20:04:27 | CMG
Share with:

วันที่ 29 พฤษภาคม ค.ศ.2024 สำนักงานสารนิเทศ คณะรัฐมนตรีจีนประกาศ “รายงานการละเมิดสิทธิมนุษยชนของสหรัฐอเมริกาประจำปี 2023” โดยมีเนื้อหาสำคัญดังต่อไปนี้

 

ปี 2023 สถานการณ์สิทธิมนุษยชนของสหรัฐอเมริกาเลยร้ายยิ่งขึ้น ที่สหรัฐอเมริกา สิทธิมนุษยชนพัฒนาไปสู่ทิศทางที่แบ่งแยกเป็นสองกลุ่ม เมื่อเทียบกับจำนวนคนส่วนน้อยที่มีอำนาจในทางการเมือง เศรษฐกิจและสังคม ชาวบ้านส่วนใหญ่ตกอยู่ในฐานะที่ต่ำด้อยอ่อนแอ สิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานถูกมองข้าม

 

ปัญหาการใช้กำลังรุนแรงจากอาวุธปืนยังคงยากที่จะแก้ไข ปี 2023 สหรัฐอเมริกาได้เกิดเหตุการณ์ยิงกราดอย่างน้อย 654 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 43,000 คน เฉลี่ยวันละ 117 คน ภายใต้สภาพที่การต่อสู้ระหว่างพรรคการเมืองดุเดือดยิ่งขึ้น และการกดขี่จากกลุ่มที่ได้รับประโยชน์ มลรัฐจำนวนมากขึ้นพากันใช้กระบวนการนิติบัญญัติเพื่อให้ชาวบ้านมีสิทธิ์ซื้อและพกพาอาวุธ ปี 2023 มีอย่างน้อย 27 รัฐสามารถพกพาอาวุธปืนโดยไม่ต้องมีใบอนุญาต  

 

รัฐบาลใช้อำนาจอย่างพร่ำเพรื่อในการตรวจสอบและละเมิดความเป็นส่วนตัวของชาวบ้าน เสรีภาพในการพูดและแสดงความคิดเห็นถูกปิดกั้น เอฟบีไอสหรัฐอเมริกาใช้มาตราที่ 702 ของ “กฎหมายว่าด้วยการตรวจสอบข่าวกรองที่เกี่ยวข้องกับต่างประเทศ”ในการควบคุมตรวจสอบภายในประเทศ เพื่อควบคุมและตรวจสอบการสื่อสารของสมาชิกรัฐสภา ผู้ให้เงินบริจาคแก่กิจกรรมเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภา ตลอดจนผู้ประท้วงคัดค้านลัทธิชนเผ่า มีรัฐจำนวนมากขึ้นได้บัญญติกฎหมายห้ามโรงเรียนของรัฐใช้ตำราเรียนที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อพิเศษ อาทิ ชนเผ่าและประวัติศาสตร์ ในมหาวิทยาลัยต่างๆ จำนวนอาจารย์ที่ถูกลงโทษหรือเลิกจ้างเนื่องจากคำพูดที่แสดงความคิดเห็นนั้น สร้างสถิติใหม่ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา

 

จำนวนผู้เสียชีวิตเนื่องจากการใช้กำลังรุนแรงของตำรวจก็สูงมากขึ้นโดยตลอด ระบบการสืบสวนความรับผิดชอบของตำรวจดูเหมือนไม่มีเลย หน่วยงานกิจการภายในของตำรวจมักจะช่วยให้พ้นจากความผิด แต่จะไม่ดำเนินการสืบสวนคดี ทำให้ตำรวจที่มีการกระทำผิดร้ายแรงนั้น ไม่ถูกสืบสวนเอาความผิด สถิติการเสียชีวิตของศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคสหรัฐอเมริกาแสดงให้เห็นว่า เหตุตำรวจฆ่าคนอย่างน้อยครึ่งหนึ่งถูกระบุว่าเป็นการฆาตกรรมทั่วไปหรือการฆ่าตัวตาย  

 

 

สหรัฐอเมริกามีปัญหาการคุมขังและการบังคับใช้แรงงานขนานใหญ่ เป็น “ประเทศที่เป็นเรือนจำ”ที่แท้จริง ประชากรของสหรัฐอเมริกา ไม่ถึงร้อยละ 5ของทั่วโลก แต่นักโทษที่ถูกคุมขังอยู่ในคุกในปัจจุบันคิดเป็นร้อยละ 25ของทั่วโลก เป็นประเทศที่อัตราการจำคุกและจำนวนคนติดคุกสูงที่สุดในโลก เรือนจำของสหรัฐอเมริกาบังคับให้นักโทษทำงานแบบไม่มีค่าจ้างหรือค่าจ้างต่ำและไม่มีสวัสดิการ ทั้งๆ ที่พวกเขาได้ผลิตสินค้าและให้บริการคิดเป็นหลายพันล้านเหรียญสหรัฐต่อปี   

 

การต่อสู่อย่างดุเดือดระหว่างพรรคการเมืองรุนแรงยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง รัฐสภาสหรัฐอเมริกา ชุดที่ 118 เกิดสภาพ“ไม่สามารถเลือกตั้งประธานสภาผู้แทนราษฏร”ได้ถึงสองครั้ง ปี 2023 ประสิทธิภาพในการนิติบัญญัติของรัฐสภาต่ำที่สุดหลังสงครามกลางเมืองเป็นต้นมา สองพรรคการเมืองใหญ่ต่างเล่นเล่ห์เพทุบายในการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ บิดเบือนมติประชาชนทั่วไปเพื่อผลประโยชน์ของพรรคเอง การแบ่งเขตเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาของ 16 รัฐนั้น มีการเล่นเล่ห์เพทุบายอย่างชัดเจน ในจำนวนนี้ มี 12 รัฐที่เข้าข่ายร้ายแรง ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ รู้สึกผิดหวังต่อรัฐบาลระดับต่างๆ เป็นอย่างยิ่ง ชาวอเมริกันร้อยละ 76 เห็นว่าประเทศของตนกำลังอยู่ในทิศทางการพัฒนาที่ผิด

 

ชนกลุ่มน้อยกำลังเผชิญกับการเหยียดเชื้อชาติอย่างเป็นระบบ ปัญหาลัทธิเชื้อชาติยังคงหนักมาก ความเป็นไปได้ที่ชนเชื้อสายแอฟริกันจะถูกตำรวจฆ่าเสียชีวิตมากเป็น 3 เท่าของชาวผิวขาว ความเป็นไปได้ที่จะถูกจับเข้าคุกมากเป็น 4.5 เท่าของชาวผิวขาว ชาวอเมริกันเชื้อสายจีนเกือบ 3 ใน 4 เคยถูกการเหยียดเชื้อชาติในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ชาวอเมริกันเชื้อสายจีนร้อยละ 55 เป็นห่วงอาชญากรรมที่เกิดจากความแค้นหรือการรบกวนที่เป็นอันตรายต่อความปลอดภัยส่วนบุคคล ชาวอินเดียนแดงที่เป็นชนพื้นเมืองของสหรัฐอเมริกา ยังคงใช้ชีวิตภายใต้การกดขี่ทางวัฒนธรรมโดยตลอด ความเชื่อถือทางศาสนาและประเพณีดั้งเดิมถูกทำลายอย่างหนัก จิตสำนึกลัทธิเชื้อชาติแพร่หลายในสหรัฐอเมริกา และขยายไปสู่ต่างประเทศด้วย

 

ความไม่เสมอภาคทางเศรษฐกิจและสังคมนับวันร้ายแรงยิ่งขึ้น ชาวบ้านชั้นรากหญ้าใช้ชีวิตอย่างลำบาก สหรัฐอเมริกาไม่ให้ความเห็นชอบ “กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม”มาโดยตลอด การออกแบบระบอบที่เอาเปรียบคนจน ให้การอุดหนุนคนรวยและการแบ่งแยกชนชั้น ส่งผลกระทบทำให้ช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนในสหรัฐอเมริกาขยายตัวถึงขั้นร้ายแรงที่สุดหลังจากวิกฤติเศรษฐกิจปี 1929 เป็นต้นมา “คนจนที่ยังทำงานอยู่”นั้นขาดแคลนโอกาสขาดความเสมอภาค และยากที่จะขึ้นไปชั้นบน จำนวนคนไร้บ้านเกินกว่า 650,000 คน นับเป็นสถิติสูงสุดตั้งแต่ปี 2007 เป็นต้นมา ปัญหาการใช้ยาเสพติดและการใช้ยาชนิดต่างๆ อย่างพร่ำเพรื่อร้ายแรงยิ่งขึ้น อัตราการฆ่าตัวตายสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

  

 

จนถึงปัจจุบัน สหรัฐฯ ยังมิได้ให้ความเห็นชอบ“อนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเหยียดสตรีในทุกรูปแบบ” นับเป็นประเทศเดียวในบรรดาสมาชิกสหประชาชาติที่ยังไม่ได้ให้ความเห็นชอบ “อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก” รัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริกายังไม่มีบทบัญญัติห้ามการเหยียดเพศ ทั้งเป็นประเทศเดียวในโลกที่มีกฎหมายเกี่ยวกับการตัดสินให้เด็กถูกจำคุกตลอดชีวิตโดยไม่มีทัณฑ์บน ช่วง 20 ปีที่ผ่านมา การเสียชีวิตของหญิงตั้งครรภ์ในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว มีจำนวนกว่า  2.2 ล้านคน ผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ไม่สามารถได้รับการดูแลทางสูติศาสตร์ได้ อย่างน้อย 21 รัฐมีคำสั่งห้ามหรือจำกัดการทำแท้งอย่างเข้มงวด แต่ละปี มีผู้หญิงประมาณ 54,000 คนตกงานเนื่องจากการตั้งครรภ์  มีเด็กจำนวนหลายล้านคนถูกตัดสิทธิได้รับเงินอุดหนุนหลักประกันสุขภาพ ในแต่ละปีมีเด็กในสถานสงเคราะห์หลายพันคนหายไปและจากการตรวจสอบพบว่า 46 รัฐปกปิดคดีการหายตัวไปของเด็กเหล่านี้ประมาณ 34,800 คน

    

วิกฤตด้านมนุษยธรรมในพื้นที่ชายแดนทวีความรุนแรงขึ้น สถานการณ์ที่น่าเศร้าของผู้อพยพเป็นที่สะเทือนใจ ชายแดนภาคใต้ของสหรัฐอเมริกาถูกจัดให้เป็นเส้นทางผู้อพยพทางบกที่อันตรายที่สุดในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน ในช่วง 12 เดือนจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2023 มีผู้อพยพเสียชีวิต 149 คนในเขตลาดตระเวนชายแดนเอลปาโซเพียงแห่งเดียว ในปีงบประมาณ 2023 จํานวนผู้อพยพที่ถูกจับกุมหรือเนรเทศที่ชายแดนทางใต้ของสหรัฐอเมริกามีมากกว่า 2.4 ล้านคน ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ผู้อพยพเข้าแดนถูกทรมานและการปฏิบัติที่ไร้มนุษยธรรมอื่น ๆ นโยบายชายแดนทำให้ปัญหาการค้ามนุษย์ร้ายแรงยิ่งขึ้น นับเป็นการส่งเสริมระบบทาสในยุคใหม่ เด็กข้ามชาติต้องทนทุกข์ทรมานจากการบังคับใช้แรงงานที่โหดร้ายและการเอารัดเอาเปรียบ

 

ยึดลัทธิความเป็นเจ้าโลก ลัทธิลำพังฝ่ายเดียวและการเมืองที่ใช้แต่อำนาจบาตรใหญ่มาเป็นเวลายาวนาน สร้างวิกฤตด้านมนุษยธรรม หลังเหตุการณ์ 11 กันยา ในสงครามต่างประเทศที่สหรัฐอเมริกาได้ก่อสงครามต่อต้านการก่อการร้ายนั้น มีผู้เสียชีวิตรวมอย่างน้อย 4.5 ล้านถึง 4.7 ล้านคน กองทัพสหรัฐอเมริกา ได้ดําเนิน “โครงการตัวแทนต่างประเทศ” ในกว่าสิบประเทศ ละเมิดอธิปไตยและสิทธิมนุษยชนของประเทศอื่น ๆ และมีการสนองอาวุธยุทโธปกรณ์เข้าไปในพื้นที่ที่มีการปะทะอย่างต่อเนื่อง จนนำไปสู่การบาดเจ็บล้มตายของพลเรือนผู้บริสุทธิ์จำนวนมาก เรือนจํากวนตานาโมที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงยังคงดําเนินการอยู่จนถึงปัจจุบัน การคว่ําบาตรโดยลำพังฝ่ายเดียวเป็นเวลานาน จํานวนการคว่ําบาตรมากเป็นอันดับหนึ่งของโลก ก่อให้เกิดผลกระทบด้านมนุษยธรรมที่ร้ายแรง

  

ปัญหาสิทธิมนุษยชนทุกประเภทที่มีอยู่ในสหรัฐอเมริกานั้น ไม่เพียงแต่ทําให้สิทธิมนุษยชนในสหรัฐอเมริกากลายเป็นสิทธิพิเศษของผู้คนส่วนน้อยเท่านั้น แต่ยังเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรง  และขัดขวางการพัฒนาที่เป็นปกติของสิทธิมนุษยชนของโลก 

  • เกาะกระแสจีน (07-09-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (07-09-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (06-09-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (06-09-2567)

  • เสียงคุยกันวันละประเด็น (06-09-2567)