“กำลังการผลิตจีน ล้นเกิน?”

2024-06-10 10:09:48 | CMG
Share with:

ดร.ฐณยศ โล่ห์พัฒนานนท์

ศูนย์แม่โขงศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา กำลังการผลิตรถยนต์พลังงานใหม่ของจีนกลายเป็นประเด็นวิพากษ์โดยเฉพาะในประเทศฝั่งตะวันตก สารัตถะของคำวิพากษ์คือผู้ผลิตของจีนมีมากราย แต่ละรายแข่งขันกันในเชิงปริมาณจนทำให้เกิดภาวะผลิตภัณฑ์ล้นตลาดและตัดราคาผู้ผลิตรายอื่น ยังไม่นับความสุ่มเสี่ยงที่จะขาดทุนในภาพรวม

ข้อมูลส่วนหนึ่งมาจากบริษัท Tesla ซึ่งเป็นผู้นำด้านรถยนต์พลังงานใหม่ในสหรัฐฯ Tesla กล่าวว่า ส่วนแบ่งตลาดของบริษัทในหมู่ผู้ซื้อชาวจีนลดลงจาก 10.5% ในไตรมาสที่หนึ่งเหลือเพียง 6.7% ในไตรมาสที่สี่ ส่วนแบ่งส่วนใหญ่เป็นของบริษัท BYD ของจีนเองซึ่งเป็นผู้เล่นอันดับหนึ่ง

นอกจากนี้ยังมีรายงานข่าวว่าด้วยความล้มเหลวของผู้ผลิตบางรายในประเทศจีน เช่น ผู้เล่นในประเทศจีนรวมกัน 50 รายสร้างส่วนเกินทางการตลาดแตะ 20 ล้านคัน ผู้ผลิตรายเล็กต้องปิดกิจการด้วยแพ้สงครามราคา กระทั่งอาจมีความพยายามระบายรถสู่ตลาดต่างประเทศราว 3.5 ล้านคัน

หากมองอย่างระมัดระวัง ประเด็นวิพากษ์ดังกล่าวสะท้อนความกลัวของผู้ผลิตรถยนต์รายเดิมในต่างประเทศไม่มากก็น้อย โดยคำว่า "การผลิตล้น" ในบริบทของข่าวจำกัดวงในประเทศจีน แต่สิ่งที่ข่าวพยายามจะสื่อคือความกังวลว่า สินค้าส่วนเกินจะถูกส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ แล้วให้ราคาแก่ผู้ซื้อด้วยตัวเลขที่ต่ำจนกระทบยอดขายของบริษัทอื่น

คาดการณ์กันว่า ภายในปี 2573 ความต้องการรถยนต์พลังงานใหม่จะแตะ 39 ล้านคันทั่วโลก เพราะฉะนั้นแต่ละบริษัทย่อมคำนวณศักยภาพการขายสูงสุดและคิดหายุทธวิธีสู่เป้าหมาย และเมื่อ 39 ล้านคันเป็นเป้าใหญ่ จึงไม่น่าสงสัยว่า ทำไมข่าวเชิงลบเกี่ยวกับยานยนต์พลังงานใหม่ของจีนปรากฏในสื่อกระแสหลักดังอธิบายข้างต้น ทั้งยังมาในรูปรายงานที่สอดคล้องกัน

สิ่งที่ต้องเข้าใจเป็นอันดับแรกในเรื่องนี้คือภาพลักษณ์สินค้า หากภาพลักษณ์สำหรับผู้บริโภคขาดความแข็งแกร่ง โอกาสที่ผู้บริโภคจะไปยื้อแย่งสินค้าของคู่แข่งจะสูงขึ้นโดยธรรมชาติ ภาพยานยนต์พลังงานใหม่ของจีนจึงถูกสร้างให้ดูเป็นสินค้ารอการระบายในช่วงการขยายตัวของตลาดรถยนต์กลุ่มนี้เพื่อสกัดความต้องการทางการตลาด และนี่อาจเป็นที่มาของการขยับย่างในทุกสมรภูมิที่มีทั้งภาคการเมือง ภาคธุรกิจ และภาคการสื่อสาร ทุกฝ่ายร่วมสร้างวาทกรรมสกัดยานยนต์จีนซึ่งมีพัฒนาการล้ำหน้า ยิ่งผู้ผลิตและรัฐบาลจีนให้ความทุ่มเทแก่การพัฒนาแบตเตอรี่แบบ solid-state ซึ่งชาร์จได้เร็วกว่าแบบปัจจุบันถึง 6 เท่าและทนทานกว่า ยิ่งเป็นที่กังวลในหมู่ผู้ผลิตรายเดิมมากขึ้น

จริง ๆ แล้วการผลิตสินค้าต่าง ๆ ไม่เฉพาะแค่รถยนต์ ต้องอาศัยจุดแข็งของสินค้าเป็นเครื่องมือ แบ่งเป็นจุดแข็งด้านคุณภาพกับราคา ในระยะที่ผ่านมายานยนต์พลังงานใหม่ของจีนมีคุณภาพทัดเทียมการผลิตในโลกตะวันตกและญี่ปุ่น รถแต่ละคันวิ่งได้ระยะไกล เครื่องยนต์เงียบและยังมีแนวโน้มการขยายตัวของบริการชาร์จพลังงาน รวมทั้งงานบำรุงรักษาเครื่องยนต์ ยานยนต์ของจีนสามารถนำเสนอแก่ลูกค้าด้วยราคาสำหรับชนชั้นกลางและล่าง ต่างจากรถยนต์ตามขนบที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิลและมีราคาสูง ถ้ามองบริบททางเศรษฐกิจทุกวันนี้ การบริโภครถยนต์พลังงานใหม่ของจีนมีโอกาสนำหน้าบริษัทอื่นอย่างไม่เห็นฝุ่น

ไม่เพียงเท่านี้ สุขภาวะจากการใช้ยานยนต์พลังงานใหม่ก็เป็นอีกสิ่งที่หลายคนให้ความสำคัญ ความลังเลในปัจจุบันมีเพียงแค่การรอคอยพัฒนาการให้สูงกว่าที่เป็นอยู่ ผู้ผลิตของจีนเองก็ทราบดี จึงได้พยายามหาแนวทางยกระดับให้การใช้ยานยนต์พลังงานใหม่ไม่ใช่เรื่องยากลำบากอย่างที่กังวล

ตราบใดที่ความสามารถในการพัฒนารวมทั้งความกระตือรือร้นที่จะปรับสินค้าให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคของผู้เล่นรายเดิมช้ากว่าผู้ผลิตจีน การออกข่าวลดความน่าเชื่อถือก็อาจจะเผยให้เห็นไปอีกนาน


  • เสียงข่าวประจำวัน (17-10-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (17-10-2567)

  • เสียงคุยกันวันละประเด็น (17-10-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (16-10-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (16-10-2567)