วันที่ 20 กันยายนปีที่แล้ว ป๊อป มาร์ท (Pop Mart) ได้เปิดร้านค้าออฟไลน์เป็นสาขาแห่งแรกในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ จนถึงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ป๊อป มาร์ทประสบความสําเร็จในการเปิดร้านค้าออฟไลน์แห่งที่ 5 ในประเทศไทย ช่วงปีหลัง ๆ มานี้ บริษัทป๊อป มาร์ท ให้ความสำคัญกับการลงทุนเปิดร้านในต่างประเทศ โดยตั้งเป้าหมายบุกเบิกตลาดของประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ประเทศไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย เป็นต้น กำลังเป็นการตลาดต่างประเทศที่สำคัญของ ป๊อป มาร์ท ตามที่รายงานทางการเงินประจำปี 2023 ของบริษัทป๊อป มาร์ท ระบุว่าปีที่แล้วรายได้ของธุรกิจในเขตฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน และต่างประเทศของป๊อป มาร์ท ทะลุ 1,000 ล้านหยวนเป็นครั้งแรก เพิ่มขึ้น 134.9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เมื่อเทียบเป็นสัดส่วนรายได้ทั้งหมดของป๊อป มาร์ทอยู่ที่ 16.9% และจํานวนร้านค้าออฟไลน์ในต่างประเทศเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าเมื่อเทียบกับปี 2022
ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นหนึ่งในภูมิภาคที่เติบโตเร็วที่สุดของธุรกิจป๊อป มาร์ท จนถึงปลายปีที่แล้ว มีจํานวนร้านค้าออฟไลน์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 15 แห่ง โดยเฉพาะประเทศไทยซึ่งเติบโตอย่างรวดเร็วในปีค.ศ. 2023 ที่ผ่านมา ผู้รับผิดชอบป๊อป มาร์ทที่เกี่ยวข้องเปิดเผยว่าความสําเร็จต่าง ๆ ทําให้ป๊อป มาร์ทมั่นใจในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น โดยในปี 2024 ทางป๊อป มาร์ทได้วางแผนที่จะเข้าสู่ตลาดของประเทศอินโดนีเซีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ เป็นต้น เพื่อขยายอาณาเขตอาร์ททอยป๊อป มาร์ทในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
อันที่จริงแล้วความสําเร็จของป๊อป มาร์ทในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่ได้เกิดขึ้นด้วยบังเอิญ นอกจากเสน่ห์ของคาแรคเตอร์ไอเท็มและผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงแล้ว ป๊อป มาร์ทเน้นการหลอมรวมเข้ากับสภาพที่เป็นจริงของท้องถิ่น ทำความรู้จักกับวัฒนธรรม พฤติกรรมการบริโภค และสภาพแวดล้อมการตลาด เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทั้งหลาย โดยยุทธศาสตร์ธุรกิจที่ “ลงพื้นที่” จริง ๆ ของป๊อป มาร์ท เป็นที่ชื่นชมและยอมรับจากผู้บริโภคในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างรวดเร็ว
นอกจากตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว ปีนี้ ป๊อป มาร์ทยังมีแผนที่จะเปิดแฟล็กชิปสโตร์ต่างชาติให้มากขึ้น เช่น ประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศส สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ฯลฯ
(Bo/Zi)