ระหว่างการตรวจเยี่ยมเชิงลึกครั้งนี้ สิ่งที่มีความหมายสำคัญที่สุดและส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งและยาวไกลที่สุดคือโครงการ“อพยพทั้งหมู่บ้าน”ที่วางแผนและขับเคลื่อนโดยนายสี จิ้นผิง

นาย   สี จิ้นผิง ยืนอยู่ที่ทะเลทรายโกบีในอำเภอหย่งหนิงซึ่งอยู่นอกเมืองหยินชวน ที่นั่นเป็นแหล่งกำเนิดของหมู่บ้านหมิ่นหนิง(หมู่บ้านฝูเจี้ยน-หนิงเซี่ย) นายสี จิ้นผิงเชื่อมั่นว่าพื้นที่ทะเลทรายอันแห้งแล้งในปัจจุบันจะต้องกลายเป็น “ทะเลทรายทอง”ในวันพรุ่งนี้

หลายปีต่อมา ทะเลทรายโกบีที่ซึ่ง “ไม่มีนกบินอยู่บนท้องฟ้า ไม่มีหญ้าขึ้นบนพื้น และลมพัดกรวดไปทั่วทุกแห่งหน”ได้เปลี่ยนวิถีใหม่อย่างแท้จริง

จะอยู่กับที่หรือย้ายถิ่นฐานเพื่อการพัฒนา?การดำเนินความร่วมมือระหว่างฝูเจี้ยนกับหนิงเซี่ยจำเป็นต้องตกผลึกวิถีที่ขัดแย้งกันดังกล่าว ในช่วงเวลาหลายพันปีที่ผ่านมา ที่ราบสูงดินเหลืองเป็นสักขีพยานของความสัมพันธ์ที่แนบแน่นที่สุดระหว่างเกษตรกรกับที่ดิน หากกล่าวในอีกแง่หนึ่ง การอพยพเพื่อ“ขจัดความยากจน”จึงถือเป็นการต่อสู้กับความสัมพันธ์ดังกล่าว

ในการประชุมร่วมว่าด้วยความร่วมมือเพื่อบรรเทาความยากจนแบบจับคู่ครั้งที่สองระหว่างฝูเจี้ยนกับหนิงเซี่ย นายสี จิ้นผิงเสนอให้ตั้งเขตอพยพแห่งหนึ่งที่ตั้งชื่อตามชื่อย่อของมณฑลฝูเจี้ยนและเขตหนิงเซี่ย ขณะสำรวจข้อมูลเพื่อประกอบการวิจัยที่อี้ว์ฉวนอิ๋งซึ่งเป็นพื้นที่รองรับการย้ายถิ่นฐานทั้งหมู่บ้านจากอำเภอซีจี๋นั้น นายสี จิ้นผิงได้เสนอแนวคิดเกี่ยวกับการสร้างหมู่บ้านหมิ่นหนิงอันได้แก่ รวบรวมสรรพกำลังและเงินทุนเพื่อสร้างหมู่บ้านสาธิตที่เป็นตัวอย่างความร่วมมือระหว่างฝูเจี้ยนกับหนิงเซี่ย เพื่อให้ผู้อพยพจากที่อยู่เดิมมีชีวิตที่มั่นคงในหมู่บ้านใหม่ และสามารถมีชีวิตที่ร่ำรวยขึ้นได้

เดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2016 นายสี จิ้นผิง เดินทางไปยังเขตหนิงเซี่ยอีกครั้ง เขาบอกกับบรรดาชาวบ้านว่าเคยไปที่นั่นในปี 1997  รู้สึกตกใจมากเมื่อเห็นสภาพความยากจนที่นั่น จึงตัดสินใจอย่างแน่วแน่ที่จะดำเนินการตามนโยบายและแผนงานที่กำหนดขึ้นโดยคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ส่งเสริมการให้ความช่วยเหลือแบบจับคู่ระหว่างฝูเจี้ยนกับหนิงเซี่ย ในเวลานั้นที่สำคัญได้ดำเนินโครงการ “อพยพทั้งหมู่บ้าน”เพื่อให้ผู้ที่อาศัยอยู่ในสถานที่ซึ่ง“ปัจจัยในท้องถิ่นไม่สามารถเลี้ยงชีพชาวบ้านได้”สามารถย้ายไปยังสถานที่ที่เหมาะสำหรับการผลิตและการดำรงชีวิตได้ และได้สร้างหมู่บ้านหมิ่นหนิง

คำบรรยายภาพ : เดือนเมษายน ปี 1997 นายสี จิ้นผิง รองเลขาธิการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำมณฑลฝูเจี้ยนในขณะนั้นกำลังตรวจเยี่ยมอำเภอหลงเต๋อ เขตหนิงเซี่ย รับฟังรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์การสูบน้ำสู่พื้นที่เพาะปลูก (ภาพจากแฟ้มภาพ)

หมู่บ้านหมิ่นหนิงซึ่งมีจุดอพยพทั้งหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในพื้นที่หวงหยางทันเขตพัฒนาอี้ว์ฉวนอิ๋งเป็นหลัก ทำให้พื้นที่ทะเลทรายอันแห้งแล้งซึ่งเดิมไร้ชีวิตชีวาในเชิงเขาด้านตะวันออกของภูเขาเฮ่อหลานซานเริ่มคึกคักขึ้น

ชะตากรรมของนายเซี่ย ซิงชางก็พลิกผันในปีนี้เช่นกัน ในฐานะเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำหมู่บ้านหงไท่ ตำบลหวังหมิน อำเภอซีจี๋ เขตหนิงเซี่ย เขามุ่งมั่นที่จะนำชาวบ้านออกไปจากดินแดนที่แห้งแล้งแห่งนี้ นายเซี่ย ซิงชางเคยนำสองครอบครัวเดินทางไกลเป็นเวลาสามวัน พวกเขาเดินไปถึงพื้นที่ฉางซานโถวในอำเภอจงหนิง พื้นที่ต้าอู๋โข่วในเมืองสือจุ่ยซาน และพื้นที่เจิ้นเป๋ยเป่าในเมืองหยินชวน  และในที่สุดก็ได้หยุดที่หมู่บ้านหมิ่นหนิง

“ผมได้ไปดูที่ดินสองผืน ข้าวโพดและข้าวเกาเหลียงต่างเติบโตได้ดีมาก”  นายเซี่ย ซิงชางกล่าวกับชาวบ้านว่า “ถึงแม้ตอนนี้จะเป็นผืนทะเลทรายที่แห้งแล้ง แต่ทางมณฑลฝูเจี้ยนก็ยังมาลงทุนที่นี่ ขอเพียงมีน้ำไหลมาจากแม่น้ำหวงเหอหรือแม่น้ำเหลืองเท่านั้น ที่นั่นจะกลายเป็นแหล่งที่ดีแน่นอน”

วันที่ 15 กรกฎาคม  ค.ศ.1997 นายเซี่ย ซิงชางซึ่งมีร่างค่อนข้างผอมได้ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีวางฐานรากของหมู่บ้านหมิ่นหนิงที่ทะเลทรายอันแห้งแล้งผืนนี้  เขาพยายามเดินเบียดไปยังด้านหน้าของพิธีและกล่าวว่า “ทุกคนต่างก็รู้ว่าฝูเจี้ยนมีรองเลขาธิการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำมณฑลที่ชื่อนายสี จิ้นผิง ขอมาร่วมฟังการอ่านจดหมายแสดงความยินดีจากท่าน” จดหมายแสดงความยินดีดังกล่าวระบุว่า “การก่อสร้างหมู่บ้านหมิ่นหนิงอย่างเป็นทางการ ถือเป็นผลสำเร็จชิ้นสำคัญของความร่วมมือเพื่อบรรเทาความยากจนแบบจับคู่ระหว่างมณฑลฝูเจี้ยนกับเขตหนิงเซี่ย”

วันที่ 7 ธันวาคม ค.ศ. 2001 ด้วยความเห็นชอบของรัฐบาลประชาชนเขตปกครองตนเองชนเผ่าหุยหนิงเซี่ย ได้มีการยกระดับหมู่บ้านหมิ่นหนิงเป็นตำบลหมิ่นหนิง ปัจจุบันที่นี่ได้เติบโตจากหมู่บ้านผู้อพยพยากจนที่มีประชากรเพียง 8,000 กว่าคนมาเป็นตำบลหมิ่นหนิงที่มีประชากร 66,000 คน  เมื่อปี 2019 รายได้เฉลี่ยต่อหัวของทั้งตำบลอยู่ที่ 13,970 หยวน

วันที่ 19 กรกฎาคม ค.ศ. 2016 นายสี จิ้นผิงได้ไปตรวจเยี่ยมตำบลหมิ่นหนิง และเห็นว่าด้วยความช่วยเหลือแบบจับคู่มาเป็นเวลา 20 ปี บรรดาชาวบ้านต่างก็มีชีวิตที่ดี “รู้สึกดีใจจากก้นบึ้งของหัวใจ” ระหว่างการพูดคุยแลกเปลี่ยนกับตัวแทนชาวบ้าน นายสี จิ้นผิงกล่าวว่า “ตำบลหมิ่นหนิงได้ค้นพบหนทางสู่ความเจริญรุ่งเรือง พวกเราต้องเผยแพร่ประสบการณ์อันมีค่านี้ไปยังทั่วประเทศ”

ปัจจุบัน หนิงเซี่ยได้ “บ่มเพาะ”หมู่บ้านสาธิตหมิ่นหนิงมากกว่า 160 แห่ง และได้สร้างตำบลและหมู่บ้านสาธิตการย้ายถิ่นฐานเชิงนิเวศหลายแห่ง เช่น ตำบลหมิ่นหนิงและสือซือ หมู่บ้านฮุ่ยอาน หนานย่วน หนานอาน  ถวนเจี๋ย และหวงฝู่ เป็นต้น

IN/LU