“ผมเป็นชาวฝูเจี้ยนครึ่งหนึ่งและอีกครึ่งเป็นชาวหนิงเซี่ย ปีที่ดีที่สุดของชีวิตผมล้วนอยู่ที่หนิงเซี่ย ที่นี่คือบ้านเกิดแห่งที่ 2 ของผม” นายเคอ หยุ่นจุน นักธุรกิจชาวฝูเจี้ยนวัย 63 ปี ปีหนึ่งใช้เวลาประมาณ 80% อยู่ในเขตหนิงเซี่ย เผลอแป๊บเดียวเวลาก็ล่วงเลยมาถึง 24 ปีแล้ว
ระหว่างการเยือนเขตหนิงเซี่ยเมื่อค.ศ. 1997 นายสี จิ้นผิงยังได้เชิญชวนนักธุรกิจชาวฝูเจี้ยนหลายคนให้ร่วมเดินทางไปกับเขาเป็นพิเศษด้วย โดยหวังว่าบรรดานักธุรกิจจะได้ไปหาตลาด ดำเนินการบุกเบิกพัฒนา รวมถึงสร้างพันธมิตรเพื่อการพัฒนาร่วมกันที่นั่น
นายเคอ หยุ่นจุน เป็นประธานกรรมการบริษัทอุตสาหกรรมไฮเทคริเซิ่งหนิงเซี่ย จำกัด เมื่อปี 1997 ในฐานะหนึ่งในตัวแทนนักธุรกิจ 11 คนของมณฑลฝูเจี้ยน เขาได้ร่วมการประชุมร่วมว่าด้วยความร่วมมือเพื่อบรรเทาความยากจนแบบจับคู่ระหว่างมณฑลฝูเจี้ยนกับเขตหนิงเซี่ย ครั้งที่สอง
“นายสี จิ้นผิง หวังว่าเราจะนำแนวคิดก้าวหน้าและโครงการคุณภาพสูงของฝูเจี้ยนมายังหนิงเซี่ย และสนับสนุนให้นักธุรกิจชาวฝูเจี้ยนมาลงทุนและพัฒนาในหนิงเซี่ยมากขึ้น" ทุกวันนี้นายเคอ หยุ่นจุนก็ยังคงจำคำกำชับของนายสี จิ้นผิง ในปีนั้นได้อันได้แก่ “จงทำจิตใจให้มั่นคงสงบนิ่งและทุ่มเททำงาน” หลังการประชุมครั้งนั้น นายเคอ หยุ่นจุน ตัดสินใจที่จะให้น้ำหนักธุรกิจของตนไปที่หนิงเซี่ยเป็นหลัก เขาได้จ้างคนออกแบบประติมากรรมสแตนเลสที่เป็นสัญลักษณ์“ความร่วมมือระหว่างภูมิภาคตะวันออกกับภูมิภาคตะวันตก นำมาซึ่งจุดประกาย” เพื่อตั้งไว้หน้าประตูบริษัทของเขาที่หนิงเซี่ย
เช่นเดียวกัน ในการประชุมว่าด้วยความร่วมมือเพื่อบรรเทาความยากจนแบบจับคู่ระหว่างมณฑลฝูเจี้ยนกับเขตหนิงเซี่ยครั้งที่สอง เทคโนโลยีหญ้าจวินเฉ่าของนายหลิน จ้านซี ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยหญ้าจวินเฉ่าแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ฝูเจี้ยน ก็ถูกจัดให้อยู่ในโครงการความร่วมมือเพื่อบรรเทาความยากจนแบบจับคู่ระหว่างมณฑลฝูเจี้ยนกับเขตหนิงเซี่ยด้วย
“ทันทีที่ผมได้รับมอบหมายภารกิจ ก็ได้พาทีมงานพร้อมเมล็ดพันธุ์หญ้าหกกล่องตรงไปยังอำเภอเผิงหยางในพื้นที่ซีไห่กู้ของเขตหนิงเซี่ย” นายหลิน จ้านซี กล่าวว่าจากการสำรวจพบว่าสภาพแวดล้อม สภาพภูมิอากาศ น้ำ และสภาพความร้อนที่นี่แตกต่างจากฝูเจี้ยนมาก “การเพาะเห็ดที่กินได้โดยใช้หญ้าแทนการใช้ไม้”จึงจำเป็นต้องเริ่มใหม่หมดเลย
คำบรรยายภาพ : นายหลิน จ้านซี (กลาง)กำลังสำรวจการเจริญเติบโตของหญ้าจวินเฉ่าในโรงเรือนของนายหลิว ชางฟู่ ชาวนาตำบลหมิ่นหนิง อำเภอหย่งหนิง เมืองหยินชวน เขตหนิงเซี่ย (ภาพโดยสำนักข่าวซินหัวเมื่อวันที่ 29 มีนาคม ค.ศ.2021 )
ครึ่งปีต่อมา เห็ดชุดแรกออกจากเรือนกระจก รายได้เฉลี่ยของ 27 ครัวเรือนที่ร่วมนำร่องการเพาะเห็ดเกิน 2,000 หยวน ขณะที่ “คนในท้องถิ่นจำนวนมากมีรายได้ไม่ถึง 300 หยวนจากการทำเกษตรกรรมตลอดทั้งปี ในปีที่สองจำนวนเกษตรกรผู้ร่วมเพาะเห็ดได้เพิ่มขึ้นกว่าหนึ่งเท่า” นายหลิน จ้านซี กล่าว
เดือนตุลาคม ค.ศ. 1998 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ฝูเจี้ยนได้ยื่น“รายงานว่าด้วยการบริหารจัดการสภาพแวดล้อมและระบบนิเวศแหล่งต้นน้ำขนาดเล็กในหนิงเซี่ยทุกด้าน” ไปยังมณฑลฝูเจี้ยน นายสี จิ้นผิง ได้ให้คำแนะนำเป็นพิเศษโดยระบุอย่างชัดเจนว่า “หญ้าจวินเฉ่าเป็นข้อได้เปรียบของมณฑลเรา” และเรียกร้องให้ “ใช้ประโยชน์จากจุดแข็งและหลีกเลี่ยงจุดอ่อน” และ “ทำในสิ่งที่ตนเองถนัด”
แน่นอนว่าความร่วมมือเพื่อบรรเทาความยากจนแบบจับคู่ระหว่างมณฑลฝูเจี้ยนกับเขตหนิงเซี่ยนั้น ไม่เพียงแต่ให้ความช่วยเหลือในยามจำเป็นเท่านั้น แต่ยังมุ่งไปที่การกระตุ้นพลังขับเคลื่อนจากภายใน จากการถ่ายเลือดสู่การสร้างเม็ดเลือด
ในการประชุมร่วมว่าด้วยความร่วมมือเพื่อบรรเทาความยากจนแบบจับคู่ระหว่างมณฑลฝูเจี้ยนกับเขตหนิงเซี่ยครั้งที่สามซึ่งจัดขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1998 นายสี จิ้นผิงเน้นย้ำว่าความร่วมมือเพื่อบรรเทาความยากจนแบบจับคู่ระหว่างฝูเจี้ยนกับหนิงเซี่ยนั้น ต้องมุ่งเน้นไปที่การแก้ไขปัญหาพื้นฐานด้านอาหารและเครื่องนุ่งห่มของคนยากจนโดยอาศัยความร่วมมือทางอุตสาหกรรมและยกระดับขนาดและความเข้มข้นในความร่วมมือเพื่อบรรเทาความยากจนของบรรดาวิสาหกิจและสังคม และดำเนินความร่วมมือด้านการศึกษา วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และบุคลากรเพื่อบรรเทาความยากจนอย่างมีประสิทธิภาพ
ในการประชุมร่วมว่าด้วยความร่วมมือเพื่อบรรเทาความยากจนแบบจับคู่ระหว่างมณฑลฝูเจี้ยนกับเขตหนิงเซี่ยครั้งที่หก ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2002 นายสี จิ้นผิงได้เสนอเพิ่มเติมว่า จากพื้นฐานความสำเร็จในการบรรเทาความยากจนที่มีอยู่แล้วและพิจารณาจากลักษณะพิเศษของการพัฒนาเพื่อบรรเทาความยากจนในยุคใหม่ เราต้องระดมสรรพกำลังทุกฝ่าย สร้างสรรค์กลไกการให้ความช่วยเหลือ ขยายขนาดความร่วมมือ ยกระดับการให้ความช่วยเหลือ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในการบรรเทาความยากจนแบบจับคู่ระหว่างฝูเจี้ยนกับหนิงเซี่ยให้ขึ้นสู่ระดับใหม่
ในช่วงกว่า 20 ปี ฝูเจี้ยนกับหนิงเซี่ยทั้งสองฝ่ายได้ค้นพบกลไกความร่วมมือในการบรรเทาความยากจนอันได้แก่ “ร่วมกันขับเคลื่อน การช่วยเหลือแบบจับคู่ ส่งเสริมด้วยอุตสาหกรรม เรียนรู้และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โดยสังคมเข้ามามีส่วนร่วม” จนถึงปี 2020 มณฑลฝูเจี้ยนมีมากกว่า 30 อำเภอ (เมือง เขต) ได้จับคู่เพื่อให้ความช่วยเหลือกับ 9 อำเภอ (เขต)ที่ยากจนในหนิงเซี่ย ทั้งยังได้มีการจับคู่เพื่อให้ความช่วยเหลือในระดับต่างๆ เช่น ตำบล 105 คู่ หมู่บ้าน 134 คู่ วิสาหกิจชนบท 114 คู่ โรงเรียน 62 คู่ และโรงพยาบาล 28 คู่ ได้สร้าง (ขยาย) โรงเรียนใหม่ 236 แห่ง โดยได้ให้การสนับสนุนนักเรียนที่ยากจนกว่า 90,000 คน และได้ช่วยสร้างโครงการด้านสุขอนามัย 323 โครงการ เช่น สถานีอนามัยแม่และเด็ก และศูนย์ฝึกอบรมทางการแพทย์และการพยาบาล ฝูเจี้ยนได้คัดเลือกเจ้าหน้าที่ไปทำงานที่หนิงเซี่ยเป็นการชั่วคราวทั้งหมด 11 รุ่นรวม 183 คน มีบริษัทฝูเจี้ยนมากกว่า 5,700 บริษัท และชาวฝูเจี้ยนมากกว่า 80,000 คนทำงานและใช้ชีวิตในหนิงเซี่ย เขตปกครองตนเองชนเผ่าหุยหนิงเซี่ยได้คัดเลือกเจ้าหน้าที่ไปทำงานที่ฝูเจี้ยนเป็นการชั่วคราวทั้งหมด 19 รุ่นรวม 325 คน มีชาวหนิงเซี่ยที่เข้ามารับจ้างทำงานประจำที่ฝูเจี้ยนกว่า 50,000 คน มีรายได้จากการให้บริการแรงงานปีละกว่า 1,500 ล้านหยวน
วันที่ 3 กรกฎาคม ค.ศ. 2020 “กลุ่มคนที่ให้ความช่วยเหลือแก่หนิงเซี่ยในโครงการความร่วมมือเพื่อบรรเทาความยากจนแบบจับคู่ระหว่างฝูเจี้ยนกับหนิงเซี่ย”ได้รับรางวัลเกียรติยศ“ต้นแบบแห่งยุคสมัย”จากฝ่ายประชาสัมพันธ์คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน
IN/LU