ยุคดิจิทัลในปัจจุบัน มีกลุ่มประชากรกลุ่มหนึ่งที่เจริญเติบโตพร้อมกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีหุ่นยนต์ตั้งแต่เกิด และเป็นที่รู้จักกันในฐานะดิจิทัลเนทีฟ(digital native)นั่นก็คือ “เด็กรุ่นอัลฟ่า” หรือ “เด็กเจนอัลฟ่า” ที่เกิดระหว่างปี 2010 - 2024
เด็กเจนอัลฟ่า หรือ “Generation α” โดย “α” เป็นอักษรตัวแรกของภาษากรีก หมายถึง “จุดเริ่มต้น” ส่วนคําว่า “อัลฟ่า(Alpha)”หมายถึงคนรุ่นแรกสุดในสาขาหนึ่งหรือช่วงเวลาเฉพาะ “เจนอัลฟ่า”หมายถึงรุ่นแรกที่เกิดขึ้นพร้อมกับการแพร่หลายของอินเทอร์เน็ตและอุปกรณ์มือถือ
มีรายงานว่า ทุกสัปดาห์ทั่วโลกจะมีทารกแรกเกิดประมาณ 28 ล้านคนเข้าร่วม “เหล่าเด็กเจนอัลฟ่า” คาดว่าถึงปี 2025 ประชากรที่เป็นเด็กเจนอัลฟ่าจะสูงถึง 2,000 ล้านคน ถึงกลางทศวรรษ 2030 เจนอัลฟ่าก็จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ และจะกลายเป็นกลุ่มประชากรที่มีจำนวนมากที่สุดในโลก
การเลี้ยงดู ความคิด ค่านิยม และความบันเทิงของเด็กเจนนี้แตกต่างจากเจนก่อนๆมาก ตั้งแต่อายุยังน้อยพวกเขาก็สามารถใช้ปลายนิ้วปัดหน้าจอ และชอบโพสต์รูปภาพและแบ่งปันอุปกรณ์เล่นเกมที่ล้ำสมัยผ่านสื่อสังคมออนไลน์ พวกเขาคุ้นเคยกับการเรียนออนไลน์ และการเขียนโค้ดได้กลายเป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้
เด็กเจนอัลฟ่าของจีนใช้ชีวิตอยู่ในยุคแห่งความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี พวกเขาไม่เพียงแต่ร่ำรวยทางวัตถุเท่านั้น แต่ยังมีเอกลักษณ์ทางเจตคติและวัฒนธรรม
ย้อนไปเมื่อปี 2010 จีนเข้าสู่ยุคอินเทอร์เน็ตเคลื่อนที่ หนึ่งปีให้หลัง WeChat ซอฟต์แวร์โซเชียลเพื่อส่งข้อความโต้ตอบแบบทันทีเริ่มแพร่หลายในจีน ถึงปี 2012 เครือข่าย 4G เริ่มให้บริการในจีน ในปี 2014 อาลีบาบาซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่ครอบคลุมการให้บริการทางอินเทอร์เน็ตของจีนได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ปี 2015 อุตสาหกรรมสตรีมมิงซึ่งก็คือการถ่ายทอดสด หรือที่เรียกกันว่า Live (ไลฟ์) เริ่มเฟื่องฟูในจีน ปี 2016 แพลตฟอร์มโซเชียลวิดีโอสั้น Douyin เปิดตัวและมีคนใช้บริการอย่างล้นหลาม ต่อมาถึงปี 2019 เทคโนโลยี 5G เริ่มให้บริการในจีน ในช่วงที่โควิด-19 แพร่ระบาด การทํางานแบบทางไกลและการเรียนการสอนออนไลน์กลายเป็นเรื่องปกติ และในเดือนเมษายน ปี 2023 “เทียนกง” โมเดลภาษาขนาดใหญ่รุ่นแรกของจีนที่เทียบเท่า ChatGPT เริ่มใช้งาน.....
เมื่อเร็ว ๆ นี้ WIETOP RESERCH บริษัทวิจัยตลาดของจีน ได้ทำรายงานการวิจัยเกี่ยวกับประชากรเจนอัลฟ่าปี 2024 โดยระบุว่า อายุเฉลี่ยของเด็กเจนนี้ในจีนที่เริ่มใช้อินเตอร์เน็ตคือ 4.8 ปี และจํานวนการถือครองอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เฉลี่ยต่อคนคือ 3.9 เครื่อง ซึ่งรวมถึงโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต โทรทัศน์อัจฉริยะ นาฬิกาข้อมืออิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
เด็กเจนอัลฟ่าคุ้นเคยกับเทคโนโลยีอัจฉริยะ มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม และสัมผัสกับ“จักรวาลที่อยู่เหนือจินตนาการ” (metaverse)มาโดยตลอด ซึ่งส่งเสริมให้พวกเขามีจิตสำนึกตัวตนเสมือน (virtual self) พวกเขาสามารถนําเสนอตัวเองในรูปแบบที่แตกต่างออกไปในพื้นที่ภายใต้การควบคุมของพวกเขา และใช้ข้อมูลประจําตัวดิจิทัลเพื่อเคลื่อนไหวอย่างอิสระและเสรีในโลกดิจิทัล
แน่นอน เด็กเจนอัลฟ่าจะมีภาษา กฎ และแบบแผนใหม่ อีกทั้งจะเปิดกว้างและมีความคิดสร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น แต่ก็จะเผชิญกับความท้าทายและปัญหาจากชีวิตดิจิทัล จึงต้องให้การศึกษา การสนับสนุน และความเข้าใจมากยิ่งขึ้น
(IN/ZHOU)