อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของจีนที่เริ่มจากศูนย์ กำลังสำรวจเส้นทางที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งได้รับคำชมจากผู้เชี่ยวชาญบางคนว่า ไม่เพียงแต่นำพาจีนไปสู่การเป็นประเทศสีเขียว แต่ยังนำพาโลกไปด้วย

ยอดการผลิตและจำหน่ายยานยนต์ไฟฟ้าของจีนคิดเป็นมากกว่า 60% ของปริมาณทั้งหมดของโลก และครองอันดับหนึ่งของโลกติดต่อกันเป็นเวลาเก้าปี

อุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วนี้ดึงดูดผู้เชี่ยวชาญจำนวนมาก เช่น กู้ เสี่ยวอวี๋ เข้าร่วมการพัฒนาการผลิตแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์

หลังจากจบการศึกษาในปี 2016 คุณกู้ได้เข้าร่วมศูนย์วิจัยของกลุ่มบริษัท GAC และตั้งแต่ปี 2021 เธอมีส่วนร่วมในงานพัฒนาแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนสามชั้น NCM ของ GAC Aion

เธอและทีมของศาสตราจารย์กู้ได้คิดค้นแบตเตอรี่ซิลิกอนขั้วลบแบบฟองน้ำเป็นครั้งแรก และนำมาใช้ในการผลิตแบตเตอรี่พลังงานขนาดใหญ่ในเชิงพาณิชย์

“แบตเตอรี่ซิลิกอนขั้วลบแบบฟองน้ำ แบตเตอรี่ตลับ และแบตเตอรี่ชาร์จเร็วกราฟีนของเราได้ถูกนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์แล้ว ซึ่งช่วยบรรเทาความกังวลของผู้บริโภคเกี่ยวกับระยะการใช้งาน ความปลอดภัย และความสะดวกในการชาร์จของแบตเตอรี่ได้อย่างมาก” กู้กล่าว

ในฐานะประเทศผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก จนถึงเดือนมิถุนายน จีนมีจำนวนยานยนต์ไฟฟ้าประมาณ 25 ล้านคัน คิดเป็นมากกว่าครึ่งหนึ่งของปริมาณทั้งหมดของโลก

สำหรับประเทศที่เคยมีชื่อเสียงในเรื่องการใช้จักรยาน การเดินทางครั้งนี้สามารถย้อนกลับไปได้ถึงปี 1995 เมื่อจีนเปิดตัวรถบัสไฟฟ้าคันแรกชื่อ Yuanwang ประเทศได้สนับสนุนการวิจัยและพัฒนาขีดความสามารถอย่างต่อเนื่องในอีกไม่กี่ปีถัดมา

ในปี 2012 รัฐบาลจีนได้ดำเนินนโยบายและมาตรการจูงใจทางการเงินที่หลากหลาย ตั้งเป้าหมายยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไฮบริดปลั๊กอินรวมกันที่ 500,000 คันภายในปี 2015 และ 5 ล้านคันภายในปี 2020

โจว หลิงคุน ที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมยานยนต์กล่าวว่า เมื่อมองย้อนกลับไปถึงการพัฒนาของอุตสาหกรรมพลังงานใหม่ของจีนในช่วงสิบปีที่ผ่านมา รัฐบาลจีนมีบทบาทสำคัญในการนำทางและสนับสนุน

“เมื่อมองย้อนกลับไปถึงการพัฒนาของยานยนต์ไฟฟ้าของจีนในช่วงสิบปีที่ผ่านมา รัฐบาลจีนมีบทบาทสำคัญในการนำทางและสนับสนุนอุตสาหกรรม การขยายการเปิดรับของอุตสาหกรรมและให้การสนับสนุนนโยบายอย่างทันท่วงที เราควรใช้ประโยชน์จากตลาดและภาคธุรกิจอย่างเต็มที่” โจวกล่าว

สิบปีก่อน เทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้ายังไม่พัฒนาเต็มที่ และมีความท้าทายมากมาย เช่น ปัญหาความปลอดภัยของแบตเตอรี่ กู้กล่าวว่า บริษัทของเธอได้ทำความก้าวหน้าที่น่าทึ่งในการเอาชนะความยากลำบากและความท้าทายเหล่านี้

“เทคโนโลยีระบบความปลอดภัยของแบตเตอรี่ตลับของเราได้ติดตั้งในรถยนต์ที่ผลิตโดย AION จำนวน 1 ล้านคัน และสร้างสถิติไม่มีการเกิดไฟลุกไหม้เอง” กู้กล่าว

ในฐานะผู้ผลิตรถยนต์จีนรายแรกๆ ที่เปิดตัวแพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้า GAC Aion กล่าวว่าหลังจากที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนในปี 2014 ได้เรียกร้องให้อุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานใหม่เป็นจุดเติบโตใหม่และผลักดันการเปลี่ยนแปลงของจีนจากประเทศผู้ผลิตรถยนต์ขนาดใหญ่ GAC Aion ได้ผลักดันนวัตกรรมด้วยตนเองอย่างมาก และกลายเป็นหนึ่งในผู้แข็งแกร่งในตลาด

“กลุ่มบริษัท GAC ยึดมั่นในแนวคิดชี้นำของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เร่งก้าวสู่การสร้างนวัตกรรม และก่อตั้งสวนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะเน็ตเวิร์ก GAC เพื่อมุ่งเน้นการพัฒนาการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า” กู้กล่าว

ในปี 2023 การลดการปล่อยก๊าซสะสมของยานยนต์พลังงานใหม่ในจีนเกิน 80 ล้านตัน และคาดว่าในปี 2024 จะทะลุ 100 ล้านตัน

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า การก่อสร้างพลังงานใหม่เหล่านี้เกิดจากนโยบายสีเขียวของจีน โดยมีเป้าหมายที่จะถึงจุดสูงสุดของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ก่อนปี 2030 และบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนก่อนปี 2060 นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นปัญหาระดับโลก และนวัตกรรมของจีนสามารถช่วยประเทศอื่นๆ ลดการปล่อยก๊าซได้

“เนื่องจากจีนสร้างข้อได้เปรียบทางเทคโนโลยีในห่วงโซ่อุปทานรถยนต์ไฟฟ้าและมีความสามารถด้านต้นทุน จีนสามารถมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้สหภาพยุโรปบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2050” โจว หลิงคุน กล่าว

เพื่อเจาะตลาดโลก บริษัทชั้นนำของจีนเช่น BYD, Nio, และ GAC Aion กำลังแสวงหาความร่วมมือที่ใกล้ชิดกับพันธมิตรระดับนานาชาติโดยการแบ่งปันเทคโนโลยีขั้นสูง ผนวกรวมห่วงโซ่อุปทาน สร้างงาน และฝึกอบรมบุคลากรต่างชาติ

แม้กระนั้น รถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในจีนเมื่อไม่นานมานี้ก็ยังได้รับผลกระทบจากการขึ้นภาษีของสหภาพยุโรปที่สูงถึง 37.6% เนื่องจากการกล่าวหาว่ามีการให้เงินสนับสนุนที่ไม่เป็นธรรมและกำลังการผลิตเกิน