เวลา 22.00 น. ของวันที่ 23 มิถุนายน ค.ศ. 2002 พายุไต้ฝุ่นลูกที่ 2 "เฟยย่าน" ขึ้นฝั่งที่เมืองฝูโจว โดยมีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางที่ระดับ 12

ในช่วงเวลาหนึ่ง มีลมแรงพัดกระหน่ำที่ท่าเรือหมาเหว่ยในเมืองฝูโจว และมีฝนตกอย่างหนัก

เรือส่งออกขนาด 1.76 ตันจำนวน 2 ลำซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการต่อในอู่ต่อเรือหมาเหว่ยโยกไปโยกมาอย่างแรงจากแรงกระหน่ำของพายุใต้ฝุ่น จนทำให้สายเคเบิลผูกเรือขาดเนื่องจากลมแรงมาก ทำให้ตัวเรือถูกแรงลมพัดลอยออกไปใจกลางแม่น้ำอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ถูกพายุที่พัดมาจากทางทิศใต้พัดกลับและเกยตื้นที่บริเวณเขื่อนหมาเหว่ยในถนนเจียงปิน ขณะที่เครนขนาด 200 ตันในอู่ต่อเรือก็ไม่อาจต้านความแรงของลมล้มลงกับพื้นในที่สุด------

นายสี จิ้นผิง ผู้ว่าการมณฑลฝูเจี้ยนในขณะนั้นได้ดำเนินการวางแผนรับมือกับภัยพิบัติและกู้ภัยตั้งแต่คืนเกิดเหตุ

นายเซี่ย จั้วหมิน ซึ่งขณะนั้นเป็นผู้จัดการใหญ่กลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมต่อเรือมณฑลฝูเจี้ยน ในคืนที่เกิดเหตุนั้นเขาอยู่ระหว่างการเดินทางไปทำธุรกิจที่อู่ต่อเรือเซี่ยหมิน เมื่อทราบข่าวก็รีบกลับไปยังเมืองฝูโจวทันที และเดินทางถึงอู่ต่อเรือหม่าเหว่ยเมื่อเวลา 04.00 น.

พายุไต้ฝุ่นลูกนี้ก่อให้เกิดความเสียหายในระดับที่แตกต่างกันต่อทั้งเรือที่อยู่ระหว่างการต่อ อุปกรณ์การผลิต และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในอู่ต่อเรือหมาเหว่ย

เคลียร์เครนที่ล้มและเสียหาย วางแผนกู้เรือที่เกยตื้น และตรวจสอบความเสียหายที่เกิดกับเรือ ท่าเรือและอื่นๆ ------ นายเซี่ย จั้วหมินและพนักงานอู่ต่อเรือทุกคนต่างไม่ได้หลับไม่ได้นอนทั้งคืน

ก่อนรุ่งสาง นายสี จิ้นผิงก็ได้โทรหานายเซี่ย จั้วหมิน สอบถามด้วยความกังวลเกี่ยวกับสภาพความเสียหายของอู่ต่อเรือ และได้กำชับซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้ใส่ใจเรื่องความปลอดภัย

ตอนเที่ยง เมื่อลมพายุทุเลาลง ทีมซ่อมฉุกเฉินก็รีบไปที่ถนนเจียงปิน พวกเขาได้ลากเรือขนาดยักษ์ 10,000 ตัน 2 ลำที่เกยตื้นออกจากชายฝั่งด้วยเรือลากจูงโดยใช้โอกาสที่น้ำทะเลหนุนสูงสุดในช่วงเวลาตอนเที่ยง

คำบรรยายภาพ : เดือนธันวาคม ค.ศ.2016 เนื่องในโอกาสครบรอบ 150 ปีการก่อตั้งอู่ต่อเรือหมาเหว่ย บริษัท หุ้นส่วนต่อเรือหมาเหว่ยมณฑลฝูเจี้ยน จำกัด ได้ย้ายจากพื้นที่ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมการต่อเรือหลักไปยังเกาะชัวลู๋ อำเภอเหลียนเจียง (ภาพโดยสำนักข่าวซินหัว)

พายุใต้ฝุ่น"เฟยย่าน" ไร้ความปราณี จนกระทั่งหลายเดือนต่อมางานซ่อมแซมเรือที่อยู่ระหว่างการต่อและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการผลิตในโรงงานของอู่ต่อเรือหมาเหว่ยถึงเสร็จสมบูรณ์โดยพื้นฐาน อย่างไรก็ตาม การวางแผนรับมือกับภัยพิบัติอย่างทันท่วงทีครั้งหนึ่ง โทรศัพท์ที่สร้างความอบอุ่นใจครั้งหนึ่ง และพนักงานกลุ่มหนึ่งที่ถืออู่ต่อเรือเป็นบ้านและฟันฝ่าต่อสู้ด้วยความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันนั้น ทำให้นายเซี่ย จั้วหมินเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า "อู่ต่อเรืออายุนับศตวรรษ"แห่งนี้จะไม่มีวันล้มลงเพราะพายุครั้งนี้อย่างเด็ดขาด

ซึ่งก็เช่นเดียวกับเมื่อครั้งกว่าหนึ่งปีที่แล้ว ด้วยการสนับสนุนอย่างเต็มที่ของนายสี จิ้นผิง อู่ต่อเรือหมาเหว่ยก็สามารถต้านทาน "พายุ" ที่เคยทำให้จวนจะล้มละลายได้

บางคนกล่าวว่าประวัติศาสตร์ของอู่ต่อเรือหมาเหว่ยนั้น ก็คือ“ภาพย่อประวัติศาสตร์”เกี่ยวกับอุตสาหกรรมยุคใกล้ของจีนซึ่งมีทั้งขาขึ้นและขาลง

ในปีที่ห้าของรัชสมัยของจักรพรรดิถงจื้อแห่งราชวงศ์ชิง (ค.ศ. 1866) นายจั่ว จงถัง ได้ก่อตั้งอุตสาหกรรมการต่อเรือในบริเวณหมาเหว่ย เมืองฝูโจว โดยได้สร้างอู่ต่อเรือ เรือรบ และโรงเรียนบนที่ดินที่เกือบว่างเปล่าสำหรับอุตสาหกรรมยุคใกล้ของจีน ซึ่งได้ก่อรูปขึ้นเป็นฐานอู่ต่อเรือที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคตะวันออกไกลในขณะนั้น ทั้งยังได้บ่มเพาะความฝันของชาวจีนในการพัฒนาประเทศให้เจริญรุ่งเรืองด้วยอุตสาหกรรม

หลังสาธารณรัฐประชาชนจีนสถาปนาขึ้น ฝูเจี้ยนในฐานะแนวหน้าสำหรับการเตรียมการทำสงคราม อุตสาหกรรมขาดเงินลงทุน การพัฒนาอู่ต่อเรือหมาเหว่ยก็เคยหยุดชะงักลงเป็นเระยะเวลาหนึ่ง นอกจากนี้ อุตสาหกรรมการต่อเรือของจีนยังแบ่งออกเป็นสองส่วน ได้แก่ อู่ต่อเรือส่วนกลางและส่วนท้องถิ่น อู่ต่อเรือในท้องถิ่นถูกจำกัดในแง่ของการจัดสรรวัสดุและคำสั่งซื้อการผลิต อู่ต่อเรือหมาเหว่ยจึงถูกอู่ต่อเรืออื่นๆตามทันและแซงหน้าอย่างรวดเร็ว

ถึงกระนั้นก็ตาม จนถึงช่วงทศวรรษ 1990 แห่งศตวรรษที่ 20 อู่ต่อเรือหมาเหว่ยก็ยังคงเป็นพลังที่ไม่สามารถมองข้ามได้ในอุตสาหกรรมการต่อเรือของจีน

ตั้งแต่ปี 1991 เนื่องด้วยอุปสรรคในการขยายตลาดภายในประเทศ อู่ต่อเรือหมาเหว่ยจึงเริ่มหันมาสนใจตลาดต่างประเทศ แม้ว่าขนาดจะเล็ก แต่เนื่องจากมีรากฐานที่ดี อู่ต่อเรือหมาเหว่ยได้ผ่านการตรวจสอบ"การเข้าเกณฑ์มาตรฐาน" ของสมาคมการจำแนกประเภทเรือระดับโลกและได้รับ "ตั๋วผ่านประตู" ในการส่งออกไปยังยุโรป

ด้วยการใช้โอกาสนี้ อู่ต่อเรือหมาเหว่ยจึงค่อย ๆ เข้ามาดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้างเรือคอนเทนเนอร์สำหรับตลาดยุโรป โดยมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้ อู่ต่อเรือยังได้ใช้ความพยายามอย่างมากในการยกระดับเทคโนโลยี  เมื่อปี 1997 บริษัทได้ลงทุน 110 ล้านหยวนเพื่อปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ต่อเรือบางส่วน

IN/LU