สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ ปีนั้นได้เกิดวิกฤตการเงินเอเชีย ราคาวัตถุดิบเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว การขนส่งทางเรือระหว่างประเทศตกต่ำ และตลาดการค้าเรือก็ซบเซา สิ่งที่ตามมาก็คือ การรับคำสั่งซื้อ การต่อเรือ และการส่งมอบเรือเป็นเรื่องที่ยากยิ่งขึ้นไปอีก!

“ในเวลานั้น เจ้าของเรือเข้มงวดกับเรือที่กำลังต่อเป็นพิเศษ การต่อเรือมักวนเวียนอยู่ระหว่าง 'การหาข้อบกพร่อง' กับ 'การทำใหม่' ทำให้มีความคืบหน้าช้า อารมณ์ความรู้สึกของพนักงานก็แย่ลง” นายซู ฉงหยวน ผู้อำนวยการสำนักงานพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำอู่ต่อเรือหมาเหว่ยกล่าวว่า “อุตสาหกรรมการขนส่งอยู่ในภาวะถดถอย ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมจำนวนมากในการจอดเรือที่ท่าเรือ ดังนั้น เจ้าของเรือจึงมักชะลอการรับมอบมากกว่า”

แต่หากไม่ส่งมอบเรือก็จะไม่สามารถเรียกคืนค่าเรือจำนวนมากได้ บวกกับการลงทุนเพื่อยกระดับเทคโนโลยีจำนวน 110 ล้านหยวนก่อนหน้านี้ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเงินกู้จากธนาคาร  อู่ต่อเรือหมาเหว่ยจึงตกอยู่ในภาวะที่มีทรัพย์สินน้อยกว่าหนี้สินแล้ว　

“ในเวลานั้น ไม่เพียงแต่ยากที่จะรักษาผู้มีความสามารถระดับสูงไว้เท่านั้น แต่ยังยากต่อการจ่ายค่าจ้างพนักงานด้วย” นายซู ฉงหยวน กล่าว

เวลานั้น มีหลายคนถึงกับเสนอนายเซี่ย จั้วหมินว่า การปล่อยให้อู่ต่อเรือหมาเหว่ยล้มละลายน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า!

“อู่ต่อเรือหมาเหว่ยเป็นโรงงานเก่าแก่นับศตวรรษ หากมันล้มละลายไปด้วยน้ำมือของพวกเรา เราจะตกเป็นผู้สร้างบาปชั่วนิรันดร์!” นายเซี่ย จั้วหมิน ไม่เห็นด้วยเด็ดขาด

ที่ประชุมสมัชชาผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีนแห่งชาติ ครั้งที่ 15 ซึ่งจัดขึ้นในเดือนกันยายน ค.ศ. 1997 เสนอว่าจะใช้เวลาประมาณสามปีในการทำให้รัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่และขนาดกลางส่วนใหญ่พ้นจากสถานการณ์ที่ยากลำบาก

ด้วยเหตุนี้ “สามปีเพื่อหลุดพ้นจากความยากลำบาก” จึงกลายเป็น “คีย์เวิร์ด” ในการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจของมณฑลฝูเจี้ยนในช่วงเวลาดังกล่าว

ปีนั้น ในขณะที่บริษัทอุตสาหกรรมการต่อเรือมณฑลฝูเจี้ยนเตรียมการก่อตั้งกลุ่มบริษัทนั้น ได้รวมเรื่องการปฏิรูปบริษัทต่อเรือ ซึ่งรวมถึงอู่ต่อเรือหมาเหว่ยและอู่ต่อเรือเซี่ยหมินอยู่ในระเบียบวาระที่สำคัญด้วย

อู่ต่อเรือหม่าเหว่ยจึงได้เริ่มการปฏิรูปโดยมีเป้าหมายเพื่อ“หลุดพ้นจากความยากลำบาก” แต่ความคืบหน้ากลับไม่เป็นที่น่าพอใจมาโดยตลอด

คำบรรยายภาพ : วันที่ 28 กรกฎาคม ค.ศ.2022 ช่างเชื่อมไฟฟ้ากำลังทำงานที่อู่ต่อเรือหมาเหว่ย เกาะชูหลู ตำบลกวนโถว อำเภอเหลียนเจียง มณฑลฝูเจี้ยน (ภาพจากสำนักข่าวซินหัว)

ปมที่เป็น“ปัญหาคอขวด”นั้น ยังคงเป็นปัญหาเกี่ยวกับวิธีการชำระหนี้ธนาคาร!

วันที่ 15 พฤษภาคม ค.ศ. 2001 นายสี จิ้นผิงได้ไปที่อู่ต่อเรือหมาเหว่ยเพื่อตรวจเยี่ยมเกี่ยวกับการปรับโครงสร้าง  นี่เป็นการเยือนอู่ต่อเรือหมาเหว่ยครั้งที่สามของเขาตั้งแต่ไปทำงานในมณฑลฝูเจี้ยน

เขาขึ้นไปบนดาดฟ้าเรือขนาด 35,000 ตันและเยี่ยมชมการต่อเรือคอนเทนเนอร์หมายเลข 1 และหมายเลข 2 ขนาด 700-TEU ที่กำลังต่ออย่างละเอียด ทั้งยังได้ไปที่ท่าเรือเพื่อเยี่ยมชมเรือขนส่งสินค้าแห้งเทกองสองลำขนาด 17,600 ตันที่กำลังต่อเช่นกัน โดยได้ทักทายคนงานที่กำลังยุ่งอยู่กับงานอย่างเป็นกันเอง

ในการรายงานต่อที่ประชุมที่มีขึ้นถัดจากนั้น นายเซี่ย จั้วหมินได้บรรยายสรุปเกี่ยวกับสถานการณ์การพัฒนาอุตสาหกรรมการต่อเรือของทั้งมณฑลฝูเจี้ยน จากนั้นเขาได้เน้นย้ำถึงความยากลำบากที่อู่ต่อเรือหมาเหว่ยกำลังเผชิญ และหวังว่าทางการมณฑลฝูเจี้ยนจะสามารถให้การสนับสนุนและช่วยเหลือได้

นายสี จิ้นผิงได้ให้คำตอบทันที นี่คือสิ่งที่นายเซี่ย จั้วหมินคาดคิดไม่ถึง “ท่านให้กำลังใจแก่พวกเราในที่ประชุม ชื่นชมความสำเร็จในการพัฒนาของพวกเราในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้สรรเสริญจิตใจของทีมผู้นำและคนงาน และยังพูดอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจของทั้งประเทศ ความตั้งใจของมณฑลฝูเจี้ยนที่จะส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมต่อเรือเป็นสำคัญ”

จะอัดฉีดเงินทุนให้กับวิสาหกิจการต่อเรืออย่างไร?

ปัญหาการค้ำประกันสินเชื่อควรแก้ไขอย่างไร?

จะให้ส่วนลดดอกเบี้ยสำหรับการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีแก่วิสาหกิจที่สร้างรายได้เป็นเงินตราต่างประเทศอย่างไร?

นายสี จิ้นผิง ได้อธิบายนโยบายแต่ละเรื่อง โดยแสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่าในอนาคตในแง่ของการจัดหาเงินทุนนั้น มณฑลฝูเจี้ยนจะยังคงลงทุนในอู่ต่อเรือหมาเหว่ยอย่างเหมาะสมต่อไป ขณะเดียวกันก็หวังว่าอู่ต่อเรือหมาเหว่ยจะบุกเบิกช่องทางการลงทุนให้มีความหลากหลาย ระดมทุนจากแหล่งต่างๆ กระทั่งสามารถทดลองเดินหนทางการตั้งเป็นกิจการร่วมค้า

“ท่านได้เสนออย่างชัดเจนว่า อู่ต่อเรือหมาเหว่ยต้องดำเนินการแปลงหนี้ให้เป็นทุน ต้องสลัดภาระออกไปก่อนจึงจะสามารถเข้าสู่สนามแข่งขันได้อย่างเบาตัว และสร้างความรุ่งโรจน์อันยิ่งใหญ่อีกครั้ง” นายเซี่ย จั้วหมินกล่าว

หลังการตรวจเยี่ยมครั้งนี้ การปฏิรูประบบถือหุ้นและการแปลงหนี้เป็นทุนของอู่ต่อเรือหมาเหว่ยก็เดินหน้าเร็วยิ่งขึ้น

หลังการพลิกผันมาหลายครั้ง ในที่สุดหนี้สินของอู่ต่อเรือหมาเหว่ยที่ธนาคาร ICBC เป็นเจ้าหนี้นั้น ก็ได้รับการแก้ไขโดยให้บริษัท บริหารสินทรัพย์หวาหรงแห่งประเทศจีน จำกัดลงทุน 99.25 ล้านหยวนและคิดเป็นร้อยละ 41.29 ของหุ้นทั้งหมด และให้กลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมการต่อเรือมณฑลฝูเจี้ยนลงทุนด้วยสินทรัพย์ถาวร คิดเป็นร้อยละ 55.79ของหุ้นทั้งหมด ส่วนหุ้นที่เหลือลงทุนโดยสามบริษัท ได้แก่ บริษัท อู่ต่อเรือตงหนานมณฑลฝูเจี้ยน  บริษัท การสร้างสรรค์และพัฒนาฝูฉวนมณฑลฝูเจี้ยน และบริษัท ขนส่งทางทะเลกวนโถวมณฑลฝูเจี้ยน

วันที่ 21 ธันวาคมปีเดียวกัน อู่ต่อเรือหมาเหว่ยประสบความสำเร็จในการปรับโครงสร้างใหม่ เป็นอันว่า บริษัทร่วมหุ้นแห่งหนึ่งได้ถือกำเนิดขึ้นหลังผ่านการแปลงหนี้เป็นทุนและแปรสภาพเป็นองค์กรการลงทุนที่หลากหลาย

วันที่ 23 ธันวาคม บริษัท ต่อเรือหมาเหว่ย จำกัดได้เปิดป้ายดำเนินการอย่างเป็นทางการ ซึ่งวันนั้น

บังเอิญตรงกับวันก่อตั้งอู่ต่อเรือหมาเหว่ย ปีที่ 135

IN/LU