เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2024 ที่ผ่านมา นายหวังอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และกรรมการกรมการเมืองแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้เป็นเจ้าภาพการประชุมระหว่างผู้นำชาวปาเลสไตน์ 14 กลุ่ม รวมถึง นายมาซา อบู มาร์ซุค เจ้าหน้าที่ระดับสูงของฮามาส และ นายมาห์มุด อัล อาลูล ทูตฟาตาห์ เพื่อหารือร่วมกันในการที่จะตั้ง “รัฐบาลปรองดองแห่งชาติเฉพาะกาล” เพื่อปกครองกาซาหลังสงคราม
การหารือครั้งสำคัญนี้ เกิดขึ้นหลังจากสงครามในกาซายืดเยื้อนานกว่าเก้าเดือน ชนวนเหตุจากฮามาสโจมตีตอนใต้ของอิสราเอลในเดือนตุลาคม 2023 ซึ่งอิสราเอลรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิต 1,197 คน ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน ถูกฮามาสจับไปเป็นตัวประกันอีก 251 คน ในจำนวนนี้ยังอยู่ในกาซา 116 คน เสียชีวิตแล้ว 44 คน ทางกองทัพอิสราเอลจึงโจมตีตอบโต้ ส่งผลให้ข้อมูลกระทรวงสาธารณสุขกาซาที่บริหารโดยฮามาส ระบุว่ามีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตกว่า 39,000 คน ส่วนใหญ่เป็นพลเรือนเช่นกัน
ที่น่ากังวลคือ อิสราเอลประกาศว่าจะสู้ต่อไปจนกว่ากำจัดฮามาสให้สิ้นซาก ทำให้การสู้รบรอบนี้จึงยิ่งฉุดรั้งกาซาเข้าสู่วิกฤติมนุษยธรรมอย่างรุนแรง จากความขัดแย้งที่ซับซ้อนมาก เพราะบนความเป็นจริง ฮามาสและฟาตาห์เป็นคู่ขัดแย้งกันมาตั้งแต่นักรบฮามาสขจัดฟาตาห์พ้นฉนวนกาซา หลังการเลือกตั้งปี 2006 ที่ฮามาสคว้าชัยชนะอย่างถล่มทลายแล้วเกิดการปะทะนองเลือดตามมา สุดท้ายขบวนการนิยมอิสลามฮามาสปกครองกาซาตั้งแต่ปี 2007 ขณะที่กลุ่มฟาตาห์ ซึ่งเป็นขบวนการสายฆราวาสควบคุมองค์การปาเลสไตน์ (พีเอ)บริหารเขตยึดครองเวสต์แบงก์บางส่วน ซึ่งความขัดแย้งยังคงมีจนถึงปัจจุบัน
เพราะไฟสงครามจากความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในลักษณะที่ยืดเยื้อนี่เอง จึงทำให้จีนตัดสินใจเปิดพื้นที่ ณ กรุงปักกิ่ง ให้ตัวแทนชาวปาเลสไตน์ 14 กลุ่ม หารือกันเพื่อที่จะสร้างเอกภาพร่วมปกครองกาซาเมื่อสงครามยุติ จึงถือเป็นอีกครั้งที่จีนเข้ามาแสดงบทบาทต่อสันติภาพในตะวันออกกลาง ซึ่งต้องยอมรับว่าสามารถสร้างความสำเร็จได้ในระดับที่น่าพึงพอใจ
โดยเมื่อการประชุมจบลงในวันที่ 23 กรกฎาคม 2024 นายหวังอี้ กล่าวว่า กลุ่มตัวแทนปาเลสไตน์มุ่งมั่น “ปรองดอง” โดยจุดเน้นสำคัญที่สุดคือ “ข้อตกลงตั้งรัฐบาลปรองดองแห่งชาติเฉพาะการเพื่อปกครองกาซาหลังสงคราม”
“ความปรองดองเป็นเรื่องภายในของชาวปาเลสไตน์ฝักฝ่ายต่างๆ แต่ในเวลาเดียวกันความปรองดองนี้ไม่สามารถบรรลุได้ถ้าไม่มีการสนับสนุนจากประชาคมนานาชาติ”
และในวันนี้เอง นายหวังอี้ ได้ร่วมพิธีปิดการเสวนาเพื่อความปรองดองระหว่างกลุ่มปาเลสไตน์ และเป็นสักขีพยานการลงนามปฏิญญาปักกิ่งว่าด้วยการยุติการแบ่งแยกและเสริมสร้างเอกภาพกลุ่มปาเลสไตน์ (Beijing Declaration on Ending Division and Strengthening Palestinian National Unity)
อันนำมาซึ่งการที่รัฐบาลจีนได้มีการเรียกร้อง ให้มีการหยุดยิงอย่างครอบคลุม ถาวร และยั่งยืน รวมทั้งพยายามส่งเสริมการปกครองตนเองของชาวปาเลสไตน์ และยอมรับรัฐปาเลสไตน์อย่างเต็มที่ในสหประชาชาติ
อย่างไรก็ตาม ปฏิญญาปักกิ่ง เพื่อจัดตั้ง “รัฐบาลปรองดองแห่งชาติเฉพาะกาล” เพื่อปกครองกาซาหลังสงคราม ยังคงมีคำถามถึงความสำเร็จขั้นสุดท้าย เพราะแม้ว่าข้อตกลงดังกล่าวซึ่งลงนามโดยกลุ่มการเมืองปาเลสไตน์ 14 กลุ่ม มีเป้าหมายเพื่อหาจุดร่วมสำหรับสถาบันทางการเมืองของปาเลสไตน์ในอนาคต แต่ปัจจุบัน รัฐบาลปาเลสไตน์ของพรรคฟาตาห์ ซึ่งมีฐานที่มั่นอยู่ในเขตเวสต์แบงก์ กับ กลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา ยังคงมีภาพของคู่ขัดแย้งอยู่ และที่ผ่านๆมา กลุ่มต่างๆของปาเลสไตน์ มีประวัติศาสตร์อันยาวนานของความล้มเหลวในการสร้างความปรองดองมาโดยตลอด ด้วยเหตุนี้เองข้อตกลงริเริ่มจากจีนในครั้งนี้ จึงถูกมองว่าจะประสบความสำเร็จเพียงใด และบทบาทที่แท้จริงของจีนคือการเป็นผู้ไกล่เกลี่ย หรือเป็นเพียงคนกลาง
เพราะสุดท้ายต้องไม่ลืมว่า ยังคงมีการคัดค้านอย่างแน่วแน่ของอิสราเอล ต่อบทบาทในอนาคตของกลุ่มฮามาส ซึ่งถือเป็นประเด็นหนักหนาสาหัสที่สุดในการสร้างสันติภาพ ยิ่งอิสราเอลมีภาพชัดเจนว่าได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกา แนวทางแก้ปัญหาตามข้อริเริ่มจากจีนจึงไม่สามารถที่จะมองข้ามเรื่องผลที่จะเกิดขึ้นตามมาในที่สุดระหว่างจีนกับสหรัฐฯได้ โดยเฉพาะในแง่ของภาพลักษณ์ต่อสันติภาพโลกของมหาอำนาจทั้ง 2 ประเทศ
อย่างไรก็ตาม กล่าวสำหรับบทบาทของจีน ในเวทีระหว่างประเทศเพื่อการสร้างสันติภาพให้เกิดกับประชาคมโลกนั้น ต้องยอมรับว่าจีนมีบทบาทและจุดยืนที่ชัดเจนมาตลอด อย่างเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2023 สหประชาชาติได้จัดการประชุมเพื่อรำลึก “วันสากลว่าด้วยความเป็นปึกแผ่นกับชาวปาเลสไตน์” นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ได้ส่งสารแสดงความยินดีต่อที่ประชุม โดยระบุว่า
ปัญหาปาเลสไตน์เป็นปัญหาหลักในตะวันออกกลาง และเกี่ยวข้องกับความยุติธรรมระหว่างประเทศ ประชาคมโลกต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน และคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติควรรับผิดชอบหน้าที่ พยายามใช้ทุกวิถีทางเพื่อส่งเสริมการหยุดยิง ปกป้องพลเรือน และป้องกันภัยพิบัติด้านมนุษยธรรม เพื่อฟื้นฟูการเจรจาเพื่อสันติภาพระหว่างปาเลสไตน์-อิสราเอลโดยเร็ววัน พยายามบรรลุสิทธิของชาวปาเลสไตน์ในการก่อตั้งรัฐ การมีชีวิตรอด และการกลับมาโดยเร็วที่สุด
ซึ่งจีนสนับสนุนภารกิจของชาวปาเลสไตน์ในการฟื้นฟูสิทธิอันชอบธรรมมาโดยตลอด ความต้องการทางเศรษฐกิจและการดำรงชีวิตของปาเลสไตน์ควรได้รับการปกป้อง และประชาคมโลกควรเพิ่มความช่วยเหลือด้านการพัฒนาและความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ปาเลสไตน์
“เราต้องปฏิบัติตามทิศทางที่ถูกต้องของการเจรจาสันติภาพ และจัดการประชุมเพื่อสันติภาพระหว่างประเทศที่น่าเชื่อถือมากขึ้นโดยเร็วที่สุด จีนจะรักษาความยุติธรรมและความยุติธรรมในปัญหาปาเลสไตน์ ส่งเสริมสันติภาพและส่งเสริมให้จัดการเจรจาอย่างแข็งขัน และให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการพัฒนาแก่ปาเลสไตน์ตลอด ในฐานะสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ จีนจะร่วมมือกับประชาคมโลกเพื่อสร้างฉันทามติในการส่งเสริมสันติภาพระหว่างประเทศ และผลักดันให้ปัญหาปาเลสไตน์กลับไปสู่แนวทางที่ถูกต้องของ “แผนการสองรัฐ” เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างรอบด้าน ยุติธรรมและจะปฏิบัติอย่างยั่งยืนได้”ประธานาธิบดีจีน ระบุ
ด้วยเหตุนี้เอง ในการประชุมรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับอิสราเอลยึดครองดินแดนของปาเลสไตน์ ที่จัดขึ้นโดยศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ( International Court of Justice ) ของสหประชาชาติ เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2024 ผู้แทนของจีน ได้กล่าวคำปราศรัยในขั้นตอนการแสดงความเห็นที่เป็นคำปรึกษาแก่ศาลเกี่ยวกับปัญหาดินแดนปาไลสไตน์ถูกอิสราเอลยึดครอง โดยแสดงความเห็นว่า จีนสนับสนุนภารกิจที่เป็นธรรมเพื่อฟื้นฟูสิทธิประโยชน์ที่ถูกต้องตามกฎหมายของประชาชนปาเลสไตน์
แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า การแก้ไขปัญหาปาเลสไตน์นั้น ต้องการให้ปาเลสไตน์กับอิสราเอลใช้ความพยายามร่วมกัน นับเป็นครั้งที่ 2 ที่จีนมีส่วนร่วมในขั้นตอนให้คำปรึกษาแก่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา หลังจากที่เคยแสดงความเห็นเพื่อให้คำปรึกษาแก่ศาลเกี่ยวกับปัญหาการเป็นเอกราชของโคโซโว (Kosovo) เมื่อค.ศ.2009
หรือกรณีเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2024 นายหลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน เป็นประธานในการแถลงข่าว ตอบคำถามกรณีกลุ่มฟาตาห์และกลุ่มฮามาส ของปาเลสไตน์ได้จัดการหารือกันในกรุงปักกิ่ง เกี่ยวกับการปรองดองภายในปาเลสไตน์ ว่า ตามคําเชิญของจีน ผู้แทนกลุ่มฟาตาห์และกลุ่มฮามาส ได้เดินทางมายังกรุงปักกิ่ง เพื่อหารือเกี่ยวกับการส่งเสริมความปรองดองภายในปาเลสไตน์ ทั้งสองฝ่ายได้แสดงเจตจํานงทางการเมืองอย่างเต็มที่เพื่อบรรลุการปรองดองผ่านการเจรจาและการปรึกษาหารือ หารือในประเด็นเฉพาะมากมาย และมีความคืบหน้าในเชิงบวก และตกลงที่จะดําเนินกระบวนการเจรจานี้ต่อไป เพื่อมุ่งมั่นที่จะบรรลุความสามัคคีและความเป็นเอกภาพของปาเลสไตน์โดยเร็วที่สุด
และอีกท่าทีสำคัญของจีนต่อปาเลสไตน์ ก็คือ เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2024 ในการประชุมพิเศษครั้งที่ 10 ของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ได้มีมติด้วยคะแนนเสียงเห็นชอบ 143 เสียง ไม่เห็นด้วย 9 เสียง และงดออกเสียง 25 เสียง สรุปยืนยันว่าปาเลสไตน์มีคุณสมบัติครบถ้วนในการขอเป็นสมาชิกของสหประชาชาติตามข้อกำหนดกฎบัตรสหประชาชาติ และขอให้คณะมนตรีความมั่นคงฯ พิจารณาคำขอของปาเลสไตน์อีกครั้ง ซึ่งจีนนั้นลงมติเห็นชอบกับการลงคะแนนเสียงและมีส่วนร่วมในการเสนอมติ
นายวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า การสถาปนาเอกราชเป็นความปรารถนาของชาวปาเลสไตน์ที่มีมาอย่างยาวนาน และการเข้าร่วมเป็นสมาชิกสหประชาชาติอย่างเป็นทางการถือเป็นก้าวสำคัญในกระบวนการทางประวัติศาสตร์ การสนับสนุนและส่งเสริมกระบวนการสถาปนาความเป็นเอกราชของชาวปาเลสไตน์ และการให้หลักประกันที่แข็งแกร่งสำหรับการดำเนินการตาม“แผนการสองรัฐ” และการบรรลุสันติภาพที่ยั่งยืนในตะวันออกกลาง ถือเป็นเสียงเรียกต้องจากประชาคมโลก และเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของฝ่ายต่างๆ
“ประชาชนปาเลสไตน์มีสิทธิในการตัดสินใจด้วยตนเอง รวมถึงมีสิทธิในการสถาปนาเอกราช และยืนยันว่าปาเลสไตน์มีสิทธิ์ที่จะได้เป็นสมาชิกโดยสมบูรณ์ของสหประชาชาติ เราหวังว่าปาเลสไตน์จะกลายเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการของสหประชาชาติโดยเร็ว และได้รับสิทธิอย่างเต็มที่และเท่าเทียมกันเช่นเดียวกับประเทศสมาชิกอื่นๆ”
บทบาทของจีนในเวทีระหว่างประเทศ ในการดูแลสันติภาพและเสถียรภาพในตะวันออกกลาง จึงเป็นก้าวสำคัญอย่างยิ่งในสายตาของประชาคมโลก
โดย นายภูวนารถ ณ สงขลา
ที่ปรึกษา คณะอนุกรรมการการค้าชายแดนและข้ามแดน ด้านจีนตอนใต้ หอการค้าไทย และ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
บรรณาธิการบริหาร สำนักข่าว Bangkok Wealth & Biz และ สำนักข่าว บางกอกทูเดย์