เมื่อบริษัทใหม่เริ่ม“เดินหน้า” สิ่งแรกที่ต้องทำคือต่อเรือทั้ง 8 ลำที่เลื่อนเวลาการส่งมอบออกไปในช่วงก่อนหน้านี้ให้สำเร็จโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้
หนึ่งปีครึ่งต่อมา ได้สะสางคำสั่งซื้อเก่าเรียบร้อยและได้รับคำสั่งซื้อใหม่ อู่ต่อเรือหมาเหว่ยกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
ตั้งแต่นั้นมา ควบคู่ไปกับการค่อยๆฟื้นตัวของตลาดการขนส่งทางเรือ ห่วงโซ่เงินทุนก็ดำเนินอย่างราบรื่นมากขึ้น บุคลากรผู้มากความสามารถที่ลาออกไปก่อนหน้านี้ก็พากันกลับมาด้วย
“ก่อนการแปลงหนี้เป็นทุนเราต่อเรือได้ปีละ 2-3 ลำ หลังการปรับโครงสร้างแล้ว อู่ต่อเรือ 2 อู่ของเราต่อเรือได้มากถึงปีละ 7-8 ลำ อัตราส่วนหนี้สินลดลงและสภาพคล่องค่อยๆดีขึ้น นอกจากนี้ หลังการปรับโครงสร้าง องค์กรที่มีบางส่วนทับซ้อนกันถูกลดขนาดลง แนวคิดด้านการใช้แรงงานของพนักงานกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างช้าๆ และความกระตือรือร้นในการผลิตก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ” นายซู ฉงหยวน ผู้อำนวยการสำนักงานปรับโครงสร้างของบริษัทในขณะนั้นกล่าว .
อู่ต่อเรือหมาเหว่ยได้ “ฟื้นคืนชีพ” แล้ว แต่นายสี จิ้นผิง มีข้อเรียกร้องใหม่เกี่ยวกับการพัฒนา “อู่ต่อเรือที่มีอายุนับศตวรรษ”แห่งนี้
ในวันอาทิตย์หนึ่งของเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2002 อู่ต่อเรือหมาเหว่ยกำลังจะส่งมอบเรือคอนเทนเนอร์ขนาด 700-TEU ไปยังเยอรมนี นายเซี่ย จั้วหมิน ได้เชิญนายสี จิ้นผิง ให้ไปเยี่ยมชมเป็นพิเศษ
นายสี จิ้นผิงก็ตอบตกลงทันที
คำบรรยายภาพ : บริษัท ต่อเรือหมาเหว่ยมณฑลฝูเจี้ยน จำกัด เป็นวิสาหกิจต่อเรือที่ใหญ่ที่สุดในมณฑลฝูเจี้ยนและเป็นฐานการต่อเรือที่สำคัญทางตอนใต้ของประเทศจีน
ตอนเช้าวันนั้น นายสี จิ้นผิง เดินทางมาถึงอย่างเรียบง่าย เขาเดินดูอย่างละเอียดตั้งแต่ท้องเรือไปจนถึงห้องบังคับการเรือ รวมถึงห้องนอนของกัปตันด้วย
“สัดส่วนของ (ชิ้นส่วน)ที่ผลิตในประเทศ (ของเรือลำนี้) คือเท่าไร?” นายสี จิ้นผิง ถามนายเซี่ย จั้วหมิน
“อุปกรณ์หลักและระบบนำทางยังคงพึ่งพาการนำเข้าอยู่”
“การจะพัฒนาอุตสาหกรรมต่อเรือของเราให้ดีอย่างแท้จริงนั้น จะต้องมุ่งเน้นไปที่การยกระดับเทคโนโลยี อย่าได้ทำแต่'งานที่ใช้แรงงานมาก'อยู่เสมอ เราต้องมุ่งเน้นไปที่เทคโนโลยีขั้นสูง พยายามผลิตให้ได้ภายในประเทศ เพื่อกุมความได้เปรียบไว้” นายสี จิ้นผิง กล่าว
ในมุมมองของนายเซี่ย จั้วหมิน ผู้คนยังไม่เข้าใจ“โรคเรื้อรัง”ในระบบของอู่ต่อเรือหมาเหว่ยซึ่งเพิ่งประสบกับความเสี่ยงของการล้มละลายและการปรับโครงสร้างด้วยการแปลงหนี้เป็นทุน คำพูดของนายสี จิ้นผิงดังกล่าวได้ค้นพบรากเหง้าของ “ปมปัญหา” ทั้งยังได้เสนอ“วิธีการแก้ไขปัญหาที่ถูกต้อง” ในปีที่สอง บริษัทเริ่มปฏิรูปรูปแบบการต่อเรือและได้เสนอแนวคิดเกี่ยวกับแนวทางการผลิต การดำเนินธุรกิจ และการบริหารจัดการอันได้แก่ “ถือการบริหารจัดการทางการเงินเป็นศูนย์กลาง บนพื้นฐานความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและยกระดับการบริหารจัดการของบริษัทในทุกด้าน” ทั้งยังได้ถือโอกาสนี้เป็นจุดเริ่มต้นในการจัดองค์กรใหม่ ปรับลดจำนวนคนและองค์กรให้มีขนาดพอเหมาะพอควรแต่ทรงประสิทธิภาพ สร้างระบบการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพตามกฎหมายบริษัท สร้างมาตรฐานขั้นตอนการทำงาน และใช้กลไกใหม่ด้านเงินเดือนเพื่อสร้างแรงจูงใจ
ความกระตือรือร้นของพนักงานในการผลิตสูงขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน ประสิทธิภาพการทำงานได้ยกระดับสูงขึ้นอย่างมาก บริษัทได้เข้าสู่“ทางด่วน”แห่งการพัฒนาอย่างไม่เป็นพิษเป็นภัย
คณะผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีนและทางการเขตปกครองตนเองชนเผ่าหุยหนิงเซี่ย และคณะผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีนและทางการมณฑลเจียงซีได้เดินทางมาที่ฝูเจี้ยนเพื่อศึกษาดูงาน ในวันที่ 4 สิงหาคม และ 15 สิงหาคม ค.ศ.2002 ตามลำดับ นายสี จิ้นผิง ได้นำพาพวกเขาไปที่อู่ต่อเรือหมาเหว่ยเป็นพิเศษเพื่อแนะนำประวัติการพัฒนาของอู่ต่อเรือแห่งนี้ให้พวกเขาได้ทราบ
ปี 2006 ที่งานนิทรรศการการเดินเรือนานาชาติเมืองฮัมบูร์กประเทศเยอรมนี ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นงาน“ออสการ์”ของแวดวงอุตสาหกรรมเรือนั้น เรือลำเลียงขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์(Container Feeder)ที่ผลิตโดยอู่ต่อเรือหมาเหว่ยได้รับการจัดอันดับให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐานสูง
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ด้วยการลงทุนอย่างต่อเนื่องในการวิจัยและพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี บริษัทได้ขยายไปสู่สาขาเรือวิศวกรรมพิเศษทางทะเล สิ่งอำนวยความสะดวกการประมงนอกชายฝั่ง โครงสร้างเหล็กกล้าทางวิศวกรรม ฯลฯ ได้บรรลุซึ่งความก้าวหน้าแบบคู่ขนานทั้งกิจการต่อเรือและที่ไม่ใช่กิจการต่อเรือ ได้ค่อยๆ ค้นพบหนทางการพัฒนาอย่างเข้มแข็งและเจริญรุ่งเรือง
IN/LU