ดึงดูดคนระดับมันสมองมาช่วยพัฒนาท้องถิ่น (1)

2024-08-14 17:21:15 | CRI
Share with:

ยินดีต้อนรับสู่รายการ “Stories of Xi Jinping”  รายการที่แบ่งปันประสบการณ์การทำงานของ สี จิ้นผิง ในรัฐบาลระดับต่าง ๆ ทั่วประเทศเป็นเวลาหลายทศวรรษที่ผ่านมา เพื่อค้นหาคำตอบว่า ความเป็นผู้นำและความคิดของสี จิ้นผิงในการบริหารปกครองประเทศค่อย ๆ พัฒนาขึ้นมาได้อย่างไร 

คนแบบไหนถือว่าเก่ง? ในมุมมองของสี จิ้นผิง คำว่า “คนเก่ง” มีขอบเขตกว้างมาก รวมถึงผู้ที่มีความรู้ความสามารถและมีความรับผิดชอบสูง ตลอดจนผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในเฉพาะด้านด้วย

สี จิ้นผิงย้ำหลายครั้งถึงความสำคัญในการเพิ่มจำนวนบุคลากร และให้คนกลุ่มนี้มีโอกาสแสดงบทบาทของตน  

ย้อนกลับไปในฤดูหนาวปี 1983 ที่อำเภอเจิ้งติ้ง มณฑลเหอเป่ย  ฟาร์มไก่ที่ทรุดโทรมแห่งหนึ่งทำให้ดูแล้วรู้สึกหดหู่    โรงเรือนเลี้ยงไก่เชิงพาณิชย์ที่มีห้องกว่า 300 หลังถูกปล่อยทิ้ง   เล้าไก่ล้วนขึ้นสนิมหมด   วัชพืชแห้งรอบ ๆ โรงเรือนเลี้ยงไก่สูงเท่าหัวเข่าคน   

ท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเหน็บ สี จิ้นผิง ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการคณะกรรมการประจำอำเภอเจิ้งติงของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ลุยวัชพืชเข้าไปยังฟาร์มเลี้ยงไก่  เขารู้สึกหนักใจ และขมวดคิ้ว   เพราะไม่เข้าใจว่า ทำไมฟาร์มเลี้ยงไก่ที่ทันสมัยแห่งนี้ต้องตกอยู่ในภาวะขาดทุนอย่างหนัก  ทั้งๆที่โรงเรือนเลี้ยงไก่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยดีและใช้ระบบอัตโนมัติในการดูแลไก่ทุกขั้นตอน เช่น การให้อาหารและการเก็บไข่

หลังจากการลงพื้นที่สำรวจ สี จิ้นผิงตระหนักว่า ปัญหาที่นี่เกิดจากการขาดบุคลากรที่ดี   หากมีผู้เชี่ยวชาญมาช่วยดูแลฟาร์มไก่แห่งนี้ ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาขาดทุนได้อย่างแน่นอน  และผู้เชี่ยวชาญที่ สี จิ้นผิงจะเชิญมาช่วยแก้ไขปัญหาคือ  หลิว เฉิงหย่ง  เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ที่มีชื่อเสียงในอำเภอเจิ้งติ้ง

เมื่อสามปีที่แล้ว   หลิว เฉิงหย่ง ได้ก่อตั้งสหกรณ์เพาะพันธุ์ไก่ พันธุ์ไก่จากสหกรณ์แห่งนี้ได้รับความนิยมจากตลาด จึงมียอดขายถล่มทลาย ภายในระยะเวลาสามปี  สหกรณ์เพาะพันธุ์ไก่แห่งนี้ได้เติบโตขึ้นจาก 12 ครัวเรือนมาเป็น 43 ครัวเรือน  และได้ฝึกอบรมผู้เพาะพันธุ์ไก่ที่มีความเชี่ยวชาญกว่า 30 ราย   ทำให้หลิว เฉิงหย่งมีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วในแวดวงเลี้ยงไก่ในอำเภอเจิ้งติ้ง

วันหนึ่งก่อนถึงเทศกาลฤดูใบไม้ผลิในปี 1984 หลิว เฉิงหย่งได้ยินเสียงเคาะประตู ขณะเขากำลังดูแลไก่ 25 ตัวที่เลี้ยงไว้ที่บ้าน

หลิว เฉิงหย่ง เปิดประตู เห็นสี จิ้นผิง ยืนอยู่ท่ามกลางลมหนาว และยื่นมือออกไปเพื่อจับมือกันด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า   

ทั้งสองคนคุยกันในห้อง    สี จิ้นผิง สนับสนุนให้หลิว เฉิงหย่ง มาบริหารฟาร์มไก่ของอำเภอ  โดยบอกหลิว เฉิงหย่งว่า  ทราบมานานแล้วว่า ในอำเภอเจิ้งติ้ง มีแต่แม่ไก่ที่เขาเลี้ยงไว้เท่านั้นยังคงวางไข่ได้ในสภาพอากาศหนาวจัด    

สี จิ้นผิง ยังให้กำลังใจหลิว เฉิงหย่งว่า  หากฟาร์มไก่สามารถทำกำไรได้เพียงหนึ่งบาทในปีที่เขาเริ่มมาบริหาร   ก็ถือได้ว่า เขาประสบความสำเร็จ 

ด้วยการสนับสนุนจากสี จิ้นผิง    หลิว เฉิงหย่ง ยอมรับภารกิจนี้และให้คำมั่นสัญญาว่า จะทำกำไรให้ได้ 5,000 หยวนก่อนสิ้นปีนั้น  

สี จิ้นผิง จะเชิญผู้เชี่ยวชาญเพาะพันธุ์ไก่มาเป็นผู้บริหารรัฐวิสาหกิจที่ใกล้จะล้มละลาย   แต่บางคนมองว่า   นี่เป็นเรื่องไร้สาระจริง ๆ ที่ให้เกษตรกรเลี้ยงไก่คนหนึ่งมาเป็นผู้นำของรัฐวิสาหกิจ  หลายคนไม่เชื่อว่า  ฟาร์มเลี้ยงไก่จะพ้นจากภาวะขาดทุนได้ภายใต้การบริหารของหลิว เฉิงหย่ง

อย่างไรก็ตาม สี จิ้นผิง ยืนยันสนับสนุนให้หลิว เฉิงหย่ง ทำการปฏิรูปและนวัตกรรม   หัวหน้าคนใหม่ของฟาร์มเลี้ยงไก่ได้เลิกจ้างคนงานที่ไม่ค่อยมีความรู้เลี้ยงไก่กว่า 70 คน เหลือมืออาชีพเพียงสิบกว่าคน  พร้อมทั้งปรับปรุงเล้าไก่ตามมาตรฐานใหม่ และทำการฆ่าเชื้อโรงเรือนเลี้ยงไก่  ตลอดจนนำเข้าเทคโนโลยีการฟักไข่ไก่ที่ทันสมัยมาใช้

ไม่กี่เดือนต่อมา ลูกไก่ในกรงก็ฟักตัวออกจากเปลือก ก่อนสิ้นปีนั้น อัตราการผลิตไข่ของฟาร์มเลี้ยงไก่แห่งนี้สูงถึง 80% ฟาร์มเลี้ยงไก่ที่ขาดทุน 780,000 หยวนก่อนหน้านั้น ได้ทำกำไรมากกว่า 60,000 หยวนในปีนั้น  ผลปรากฏว่า หลิว เฉิงหย่งที่สี จิ้นผิง เชิญมาบริหารฟาร์มไก่ได้ประสบความสำเร็จในการช่วยให้รัฐวิสาหกิจแห่งนี้พ้นจากภาวะขาดทุนอย่างหนัก

สี จิ้นผิงมีมุมมองของตนในการใช้ประโยชน์บุคลากร และการให้บุคลากรแสดงบทบาทเชิงนวัตกรรม   เขาเสนอว่า  ควรใช้นโยบายพิเศษสำหรับผู้เชี่ยวชาญที่มีความจำเป็นอย่างเร่งด่วน      และให้บุคลากรเหล่านี้มีโอกาสใช้ประโยชน์ความรู้ความสามารถของตนอย่างแท้จริง  แทนที่จะเรียกร้องความสมบูรณ์แบบของบุคลากรหรือพิจารณาแต่ปัจจัยความเป็นอาวุโสหรือเกณฑ์การประเมินชุดเดิมๆ   

ช่วงทำงานในอำเภอเจิ้งติง สี จิ้นผิงยังได้เดินทางไปเยี่ยม นักเขียน-เจี่ย  ต้าซาน , ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องจักร-หลิว อี้ว์จ้ง และผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องสำอาง-อู่ เป่าซิ่น ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญด้านอื่น ๆ อีกมากมาย  สี จิ้นผิงเชิญชวนผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ช่วยอัดฉีดพลังขับเคลื่อนใหม่ให้กับการพัฒนาเศรษฐกิจของอำเภอเจิ้งติ้ง 

สี จิ้นผิง เคยกล่าวไว้ว่า ใครก็ตามที่สามารถส่งเสริมและดึงดูดบุคลากรได้ ก็จะมีความได้เปรียบในการแข่งขัน 

ในช่วงต้นปี 1984 สี จิ้นผิง เขียนจดหมายไปยังผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการที่มีชื่อเสียงกว่า 100 รายทั่วประเทศจีน โดยลงท้ายแทนตัวด้วยคำว่า  “ลูกศิษย์สี จิ้นผิง”   เพื่อเชิญผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการเหล่านี้มาเป็นที่ปรึกษาของอำเภอเจิ้งติ้ง  

ด้วยความประทับใจในความจริงใจของสี จิ้นผิง  ผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่าง ๆ ได้ตอบรับคำเชิญดังกล่าวด้วยดี   พวกเขารวมถึงนักคณิตศาสตร์-หว้า  โหลเกิง,  นักเศรษฐศาสตร์-อี๋ว์ กวางหย่วน และผู้เชี่ยวชาญในด้านอื่น เช่น เครื่องยนต์สันดาปภายในและวิศวกรรมยานยนต์ เคมีและวิศวกรรมเคมี และเกษตรกรรม   ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ได้เป็นที่ปรึกษารุ่นแรกที่ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการพัฒนาอำเภอเจิ้งติง และช่วยฝึกอบรมบุคลากรให้กับท้องถิ่น  

สี จิ้นผิง ให้ความเคารพอย่างสุดซึ้งต่อผู้มีความสามารถมาโดยตลอด หลายทศวรรษที่ผ่านมา เขาพยายามดึงดูดผู้ที่มีความรู้ความสามารถจากทุกสาขาอาชีพเข้ามาช่วยพัฒนาประเทศชาติ  

นอกจากมีวิสัยทัศน์ในการคัดเลือกบุคลากรแล้ว สี จิ้นผิง ยังได้ใช้ประโยชน์บุคลากรอย่างเต็มที่  โดยสนับสนุนทุกสาขาอาชีพเปลี่ยนทรัพยากรมนุษย์ให้กลายเป็นพลังขับเคลื่อนการพัฒนาที่มีคุณภาพสูง 

สี จิ้นผิงให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับบทบาทของผู้มีความรู้ความสามารถทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สนับสนุนให้พวกเขาใช้ความความรู้ความสามารถของตนให้เป็นประโยชน์ในการพัฒนาสังคม

ในช่วงกลางถึงปลายทศวรรษ 1990    ความได้เปรียบด้านเกษตรกรรมแบบดั้งเดิมของเมืองหนานผิงที่เคยได้รับฉายาว่า เป็นยุ้งฉางของมณฑลฝูเจี้ยนค่อย ๆ หายไป   ยิ่งไปกว่านั้นโครงสร้างพื้นฐานทางการเกษตรที่เสื่อมโทรมอยู่แล้ว ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากภัยน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่สุดในรอบศตวรรษในฤดูร้อนปี 1998  ส่งผลให้ผลผลิตทางการเกษตรในท้องถิ่นลดน้อยลงอีกมาก     

สี จิ้นผิง ได้ลงพื้นที่เมืองหนานผิง เพื่อวางแผนฟื้นฟูเขตประสบภัย หลังจากลงพื้นที่ทำการสำรวจ  สี จิ้นผิง แนะให้เมืองหนานผิงเปลี่ยนแปลงรูปแบบการพัฒนาเกษตรกรรมในชนบทและเศรษฐกิจ ในท้องถิ่น โดยอาศัยความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และยกระดับคุณภาพแรงงานให้สูงขึ้น

 

(yim/cai)

  • เสียงข่าวประจำวัน (21-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (21-11-2567)

  • เสียงคุยกันวันละประเด็น (21-11-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (20-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (20-11-2567)