เหตุใดบรรดาผู้ประกอบการในมณฑลฝูเจี้ยนจึงเขียนจดหมายถึงนายสี จิ้นผิง? เรื่องนี้ต้องเล่าย้อนอดีตเมื่อ 30 ปีที่แล้ว

วันที่ 21 มีนาคม ค.ศ. 1984 ผู้จัดการโรงงานและผู้จัดการบริษัท 55 คนจากพื้นที่ต่างๆของมณฑลฝูเจี้ยนได้มารวมตัวกันที่เมืองฝูโจวเพื่อร่วมการประชุมก่อตั้งสมาคมวิจัยผู้จัดการโรงงาน(ผู้จัดการบริษัท)ประจำมณฑลฝูเจี้ยน การประชุมครั้งนี้ พวกเขาต่างมีข้อท้วงติงอย่างมากเกี่ยวกับระบบเศรษฐกิจแบบการวางแผนที่มีการดำเนินการต่อวิสาหกิจในลักษณะเหมือน"การมัดมือมัดเท้า" จนทำให้การประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นตามที่กำหนดไว้เดิมกลายเป็น "การประชุมเพื่อระบายความทุกข์"แทน

หลังการประชุมครั้งนี้ บรรดาผู้จัดการโรงงานและผู้จัดการบริษัท 55 คนได้ร่วมลงชื่อในจดหมายร้องเรียน“ขอความกรุณาช่วย‘แก้เชือกมัดมือ’ให้พวกเรา”ถึงเลขาธิการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนและผู้ว่าการมณฑลฝูเจี้ยนในขณะนั้น  เมื่อวันที่ 24 มีนาคม จดหมายฉบับนี้ถูกตีพิมพ์เป็นข่าวพาดหัวบนหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ฝูเจี้ยนเดลี่

หินก้อนเดียวทำให้เกิดคลื่นนับพัน

ตั้งแต่เดือนเมษายน ค.ศ. 1984 ทางการมณฑลฝูเจี้ยนได้ออกเอกสาร 9 ฉบับติดต่อกันเพื่อดำเนินการให้วิสาหกิจมีอำนาจบริหารด้วยตนเองมากขึ้น เมื่อวันที่ 10  พฤษภาคม คณะรัฐมนตรีจีนได้ออก“ข้อกำหนดชั่วคราวเกี่ยวกับการขยายอำนาจการบริหารแก่รัฐวิสาหกิจอุตสาหกรรม” ต่อมาคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ออก”การตัดสินใจเกี่ยวกับการปฏิรูประบบเศรษฐกิจ”  เป็นอันว่าการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจของจีนได้เริ่มต้นขึ้น------

ต่อมาได้มีการกำหนดให้วันที่ 24 มีนาคม เป็นวันผู้ประกอบการแห่งชาติ (ภายหลังเปลี่ยนเป็นวันที่ 21 เมษายน)

ปี ค.ศ. 2014 งานฉลองวันผู้ประกอบการแห่งชาติ และรำลึก“การแก้เชือกมัดมือและกระจายอำนาจ”ครบรอบ 30 ปีจัดขึ้นที่เมืองฝูโจว หลังการหารือกันระหว่างบรรดาผู้ประกอบการชาวฝูเจี้ยน พวกเขาตัดสินใจเขียนจดหมายถึงท่านเลขาธิการใหญ่สี จิ้นผิง เพื่อ “แสดงความรู้สึกจากก้นบึ้งของหัวใจ” พวกเขาได้ไปพบนายหวง เหวินหลิน ซึ่งเป็นหลักในการร่างจดหมายร้องเรียนเมื่อ 30 ปีที่แล้ว เพื่อขอให้ร่างจดหมายอีกครั้งในนามของพวกเขาโดยมีหัวข้อว่า “กล้าที่จะรับผิดชอบ กล้าที่จะดำเนินการสร้างผลงาน”

จดหมายฉบับนี้พิถีพิถีนในการใช้ถ้อยคำและประโยค  มีการปรับแก้ต้นฉบับถึง 8 ครั้ง หากเทียบกับการเรียกร้องให้“แก้เชือกมัดมือและกระจายอำนาจ” เมื่อ 30 ปีที่แล้ว จดหมายฉบับนี้นอกจากได้เรียกร้องให้รัฐบาลลดระเบียบขั้นตอนการบริหารและกระจายอำนาจเพิ่มเติมแล้ว ที่สำคัญได้รายงานเกี่ยวกับความมุ่งมั่นตั้งใจและมาตรการในการเร่งการปฏิรูปและการพัฒนา ในขณะเดียวกันยังได้เสนอข้อปฏิบัติที่เข้มงวดยิ่งขึ้นสำหรับตนเองด้วย

ทุกคนไม่แน่ใจว่าจะได้รับจดหมายตอบกลับหรือไม่? แม้มีความมั่นใจในระดับหนึ่งก็ตาม

คำบรรยายภาพ : วันที่ 24 มีนาคม ค.ศ. 1984 หนังสือพิมพ์ฝูเจี้ยนเดลี่ได้เผยแพร่ข้อความฉบับเต็มของจดหมายร้องเรียน“ขอความกรุณา‘แก้เชือกมัดมือ’ให้พวกเรา” (ภาพจากหนังสือพิมพ์ฝูเจี้ยนเดลี่)

“ไม่แน่ใจ เพราะท่านเลขาธิการใหญ่มีภารกิจมากมาย แต่ก็มีความมั่นใจ เพราะประการแรก ท่านเลขาธิการใหญ่ชื่นชม'การแก้เชือกมัดมือและกระจายอำนาจ'มาก เคยกล่าวถึงเหตุการณ์ประวัติศาสตร์นี้หลายครั้ง ประการที่สอง ท่านทำงานที่ฝูเจี้ยนเป็นเวลานานถึง 17 ปีครึ่ง มีความผูกพันอันลึกซึ้งกับผู้ประกอบการชาวฝูเจี้ยน”  นายหวง เหวินหลินกล่าว

สุดท้ายก็ได้รับจดหมายตอบกลับจริงๆ

ระหว่างที่ทำงานในฝูเจี้ยน นายสี จิ้นผิงเอาใจใส่ ใส่ใจ และให้ความรักความเมตตาผู้ประกอบการมาโดยตลอด โดยได้กล่าวถึง'การแก้เชือกมัดมือและกระจายอำนาจ'ซึ่งเป็นเรื่องที่ได้รับการยกย่องและกล่าวขานกันอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับการปฏิรูประบบเศรษฐกิจหลายครั้งในโอกาสต่างๆกัน

ในช่วงต้นทศวรรษ 1990 แห่งศตวรรษที่ 20 ปรากฏการณ์ “การตรวจสอบโดยพลการ”  “การประเมินโดยพลการ” และ “การเก็บค่าธรรมเนียมตามอำเภอใจ” เกิดขึ้นบ่อยครั้ง นายสี จิ้นผิงเข้าใจถึงความยากลำบากของบรรดาผู้ประกอบการอย่างถ่องแท้

ปลายปี ค.ศ. 1991 นายสี จิ้นผิง เลขาธิการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำเมืองฝูโจวในขณะนั้น ได้เสวนากับบรรดาผู้จัดการโรงงาน มีผู้กล่าวว่าก่อนหน้านี้ไม่นานมีผู้จัดการโรงงาน 7 คนจากสาขาระบบเครื่องกลของเมืองฝูโจวได้คว่ำบาตรการสอบ พวกเขารายงานว่าในเวลานั้นหน่วยงานต่างๆมากหมายต่างก็สามารถตั้งคำถามเพื่อทดสอบผู้จัดการโรงงานได้ โดยมีเนื้อหาข้อสอบแบบกว้าง ๆ หากไม่ผ่านการทดสอบก็ต้องสอบซ้ำหรือทำข้อสอบใหม่

หลังได้ฟังรายงานเช่นนี้ นายสี จิ้นผิงได้แสดงท่าทีทันทีว่าจะไม่ทำการทดสอบผู้จัดการโรงงานอีกต่อไป ในขณะเดียวกันเขาก็เน้นย้ำว่าการไม่สอบไม่ได้หมายความว่าผู้จัดการโรงงานไม่จำเป็นต้องเรียนรู้เพิ่มเติม แต่ควรเรียนรู้เพิ่มเติมในช่วงที่ยังต้องปฏิบัติหน้าที่ ทั้งยังต้องปรับปรุงกลไกการกำกับดูแลและกลไกการประเมินผลงานสำหรับผู้จัดการโรงงานให้สมบูรณ์ด้วย

ในช่วงที่ดํารงตําแหน่งผู้ว่าการมณฑลฝูเจี้ยน นายสี จิ้นผิงเคยร่วมงานฉลองวันผู้ประกอบการแห่งชาติ “วันที่ 24มีนาคม”ที่จัดโดยสหพันธ์วิสาหกิจมณฑลฝูเจี้ยน งานเชิดชูเกียรติผู้ประกอบการดีเด่น และการเสวนา“ผู้นํามณฑลและผู้ประกอบการเกี่ยวกับความโปร่งใสสุจริตของวิสาหกิจ”หลายครั้ง

 ปี ค.ศ. 2001 ณ งานฉลองวันผู้ประกอบการแห่งชาติ และเชิดชูเกียรติผู้ประกอบการดีเด่น นายสี จิ้นผิง กล่าวว่า “แต่ไหนแต่ไรมาผู้ประกอบการชาวฝูเจี้ยนมีจิตวิญญาณแห่งการบุกเบิกและสร้างสรรค์แบบ'กล้าที่จะนำหน้าผู้อื่นในโลก' และ 'มุ่งมั่นที่จะต่อสู้เพื่อคว้าชัยชนะ' การที่ผู้จัดการโรงงานและผู้จัดการบริษัท 55 คนส่งเสียงวิงวอนให้ 'แก้เชือกมัดมือและกระจายอำนาจ'ในปีนั้นนั้น ถือเป็นการแสดงออกที่เป็นรูปธรรมของจิตวิญญาณนี้ ”

นายสี จิ้นผิงยกย่องผู้ประกอบการชาวฝูเจี้ยนเป็นผู้บัญชาการสูงสุดและจิตวิญญาณของวิสาหกิจ เป็นกำลังสำคัญในการปฏิรูปและการสร้างนวัตกรรม และเป็นพลังใหม่ในการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม เขาเน้นย้ำเป็นพิเศษว่า “เราต้องเข้าใจผู้ประกอบการ ยกย่องผู้ประกอบการ ดูแลผู้ประกอบการ สนับสนุนผู้ประกอบการและสร้างความตระหนักต่อสถานะและบทบาทอันสำคัญของผู้ประกอบการในสังคมโดยรวม” “เราต้องทำให้สมาคมบริหารวิสาหกิจและสมาคมผู้ประกอบการประจำมณฑลกลายเป็นบ้านแห่งวิสาหกิจและบ้านแห่งผู้ประกอบการ”  

ในการประชุมครั้งนี้  นายสี จิ้นผิงได้มอบประกาศเกียรติคุณให้กับผู้จัดการโรงงานและผู้จัดการบริษัท 55 คนที่ร่วมเรียกร้องให้ “แก้เชือกมัดมือและกระจายอำนาจ”ในปีนั้น และถ่ายรูปร่วมกับผู้ประกอบการรุ่นเก่า

พาดหัวข่าวหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ฝูเจี้ยนเดลี่ในวันถัดมา ข้อความ“เข้าใจผู้ประกอบการ ยกย่องผู้ประกอบการ ดูแลผู้ประกอบการ สนับสนุนผู้ประกอบการ” กลายเป็นพาดหัวข่าวใหญ่ที่มีสีสันอย่างยิ่ง

IN/LU