เดือนมิถุนายน ค.ศ. 2002 ระหว่างตรวจเยี่ยมเมืองจิ้นเจียง มณฑลฝูเจี้ยน นายสี จิ้นผิง ได้กล่าวถึงความกล้าหาญของผู้ประกอบการอีกครั้งว่า “เห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะความพยายามอย่างไม่หยุดยั้งของผู้ประกอบการจำนวนมากที่เปี่ยมด้วยความกระตือรือร้นในการปฏิรูป และเป็นเพราะการบุกเบิกและการสร้างนวัตกรรมของผู้ประกอบการจำนวนมากที่กล้า'กินปูเป็นคนแรก' ถึงได้ขับเคลื่อนกระบวนการปฏิรูป การเปิดกว้างและการสร้างสรรค์ความทันสมัยทั้งมณฑลได้อย่างต่อเนื่อง”
“เรื่องของผู้ประกอบการนั้น สหายสี จิ้นผิง ใส่ใจเป็นพิเศษเสมอ” นายเฉิน จางจิ้น รองเลขาธิการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำเมืองจิ้นเจียงในขณะนั้น ซึ่งได้เดินทางติดตามนายสี จิ้นผิง ในการตรวจเยี่ยมเมืองจิ้นเจียงหลายครั้งเล่าย้อนให้ฟัง
“ยกตัวอย่าง ในช่วงเริ่มแรกวิสาหกิจเอกชนมักดำเนินการผลิตโดยพึ่งห้องว่างในบ้านตัวเอง เมื่อวิสาหกิจได้รับการพัฒนาและต้องการขยายการผลิต ปัญหาการใช้ที่ดินจึงเด่นชัดมากขึ้น การปฏิบัติตามระเบียบขั้นตอนต่างๆนั้นมีความยุ่งยากมาก มีหลายหมู่บ้านยังเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการบริหารจัดการซึ่งได้เพิ่มภาระให้กับวิสาหกิจ นายเฉิน จางจิ้น กล่าวว่า หลังนายสี จิ้นผิง รับรู้ถึงปัญหาเหล่านี้ในการตรวจเยี่ยมหลายครั้ง จึงได้เร่งรัดให้หน่วยงานภาครัฐแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้กับวิสาหกิจทันที
คำบรรยายภาพ : เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2014 นายสี จิ้นผิง เลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนและประธานาธิบดีจีนตรวจเยี่ยมมณฑลฝูเจี้ยน หลังเห็นกับตาถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ท่านชี้ว่าการสร้างนวัตกรรมเป็นหนทางที่ต้องดำเนินในการพัฒนาประเทศและรัฐวิสาหกิจ (ภาพจากสำนักข่าวซินหัว)
เมืองจิ้นเจียงได้มีการตั้งศูนย์การบริหารจัดการและบริการอย่างรวดเร็ว โดยรวมหน่วยงานภาครัฐต่างๆทั้งหมดไว้ที่เดียวกัน ต้องทำงานต่างๆให้เสร็จสิ้นภายในเวลาที่กำหนดไว้ ต่อมา ได้มีการออกเอกสารห้ามเก็บค่าธรรมเนียมการบริหารจัดการจากวิสาหกิจด้วย ในขณะเดียวกัน สำหรับหมู่บ้านที่มีรายได้ทั้งหมดไม่ถึง 200,000 หยวนนั้น จะชดเชยให้ครบ 200,000 หยวนด้วยงบประมาณของเมือง
นายสี จิ้นผิงยังเน้นย้ำหลายครั้งถึงความจำเป็นในการ“คุ้มครองสิทธิประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของวิสาหกิจและผู้ประกอบการอย่างจริงจัง” ทั้งยังให้การสนับสนุนเต็มที่ต่อข้อริเริ่มของสหพันธ์วิสาหกิจมณฑลฝูเจี้ยนเกี่ยวกับการออกกฎหมายเพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้ประกอบการด้วย
เริ่มตั้งแต่ปี ค.ศ.2002 หลายหน่วยงานได้ทำงานร่วมกันเพื่อดำเนินการสำรวจข้อมูลประกอบการวิจัยที่เจาะจงเฉพาะกรณี และได้เริ่มยกร่างกฎระเบียบท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของผู้ประกอบการ ต่อมาหลังผ่านการประชุมสัมมนาของบรรดาผู้ประกอบการ การให้คำปรึกษาของผู้เชี่ยวชาญ และการปรับแก้หลายต่อหลายครั้ง ทางการมณฑลฝูเจี้ยนได้ส่งร่างดังกล่าวไปยังคณะกรรมการประจำสภาผู้แทนประชาชนมณฑลฝูเจี้ยนเพื่อพิจารณา ในที่สุดคณะกรรมการประจำสภาผู้แทนประชาชนมณฑลฝูเจี้ยนได้ให้ความเห็นชอบ“ระเบียบว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของวิสาหกิจและผู้ประกอบการมณฑลฝูเจี้ยน”ด้วยเสียงเห็นชอบอย่างมากเมื่อเดือนธันวาคม ค.ศ. 2008
เป็นอันว่าในด้านการออกกฎหมายเพื่อคุ้มครองสิทธิประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของผู้ประกอบการนั้น มณฑลฝูเจี้ยนอยู่แนวหน้าของมณฑลและนครที่ขึ้นตรงต่อรัฐบาลกลางทั่วประเทศ
หลังพ้นหน้าที่จากฝูเจี้ยน นายสี จิ้นผิงก็ยังเคยกล่าวถึงเหตุการณ์ประวัติศาสตร์เรื่อง “แก้เชือกมัดมือและกระจายอำนาจ” อีกหลายต่อหลายครั้ง------
เดือนสิงหาคม ค.ศ. 2007 นายหวง เหวินหลินเดินทางไปนครเซี่ยงไฮ้เพื่อรักษาตา หลังทราบเรื่องนี้ นายสี จิ้นผิง เลขาธิการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำนครเซี่ยงไฮ้ในขณะนั้นได้ขอนัดที่จะพบกับเขา
เมื่อทราบว่านายหวง เหวินหลินยังคงดำรงตำแหน่งประธานสหพันธ์วิสาหกิจมณฑลฝูเจี้ยน นายสี จิ้นผิงได้กำชับว่า “ผมเคยร่วมงานฉลองวันผู้ประกอบการหลายครั้งที่จัดขึ้นโดยสหพันธ์วิสาหกิจมณฑลฝูเจี้ยนเพื่อรำลึกถึง 'การแก้เชือกมัดมือและกระจายอำนาจ' ซึ่งถือเป็นรูปแบบกิจกรรมที่ดี และควรดำเนินต่อไป ”
วันที่ 8 มีนาคม ค.ศ. 2011 นายสี จิ้นผิงกล่าวขณะไปเยี่ยมเยียนคณะผู้แทนมณฑลฝูเจี้ยนที่ร่วมการประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติชุดที่ 11 ครั้งที่ 4 ว่า “ในแง่ของการปฏิรูป ฝูเจี้ยนมีการแสวงหาและการสร้างนวัตกรรมบางอย่างที่อยู่แนวหน้าของประเทศและมีบทบาทเชิงทะลวงด่าน เช่น 'การแก้เชือกมัดมือและกระจายอำนาจ' 'การปฏิรูปกรรมสิทธิ์ป่าไม้' ฯลฯ"
วันที่ 2 พฤศจิกายน ค.ศ.2014 นายสี จิ้นผิง กล่าวในระหว่างตรวจเยี่ยมมณฑลฝูเจี้ยนว่า “แต่ไหนแต่ไรมาฝูเจี้ยนมีประเพณี 'กล้าที่จะนำหน้าผู้อื่นในโลก กล้าที่จะฟันฝ่าต่อสู้เพื่อคว้าชัยชนะ' เมื่อปี ค.ศ. 1984 ผู้จัดการโรงงานและผู้จัดการบริษัท 55 คนในฝูเจี้ยนได้ร่วมกันลงนามเพื่อออกจดหมายร้องเรียนหัวข้อ‘ขอความกรุณาช่วยแก้เชือกมัดมือให้พวกเรา’ ซึ่งได้ผลักดันการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ เมื่อเดือนกรกฎาคมของปีนี้ ในจดหมายตอบกลับจดหมายที่ร่วมกันลงนามโดยผู้ประกอบการ 30 คนในมณฑลฝูเจี้ยนนั้น ผมหวังว่าพวกเขาจะสร้างคุณูปการต่อการปฏิรูปมากขึ้น”
IN/LU