เมื่อเร็วๆ นี้ข่าวเกี่ยวกับบล็อกเกอร์ชาวต่างชาติคนหนึ่งที่เดินทางมาท่องเที่ยวจีนรู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นรถไฟฟ้าเต็มท้องถนนนั้น ได้กลายเป็นหัวข้อค้นหาลำดับต้นๆ บนโลกออนไลน์ บล็อกเกอร์ผู้นี้กล่าวว่า "มาประเทศจีนแล้วพบว่า รถยนต์เก๋งและรถโดยสารสาธารณะส่วนใหญ่ที่วิ่งบนท้องถนนเป็นรถไฟฟ้า ไม่ค่อยได้ยินเสียงเครื่องยนต์ แม้แต่ถนนที่พลุกพล่านใจกลางเมืองก็เงียบมาก"

ข้อมูลที่สอดคล้องกับความรู้สึกของบล็อกเกอร์คนนี้คือสถิติที่เผยแพร่โดยกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีน โดย ณ สิ้นเดือนมิถุนายนปีนี้ ทั่วประเทศมีจำนวนยานยนต์ทั้งหมด 440 ล้านคัน ซึ่งรวมถึงรถยนต์พลังงานใหม่มากถึง 24.72 ล้านคัน และในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ได้มีการจดทะเบียนรถยนต์พลังงานใหม่จำนวน 4.397 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 39.41% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์

เมื่อสิบปีที่แล้วรถยนต์พลังงานใหม่ยังเป็นศัพท์ใหม่ ทุกวันนี้มีรถยนต์พลังงานใหม่กว่า 20 ล้านคันวิ่งอยู่บนท้องถนนในประเทศจีนแล้ว

ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ข้อมูลที่เผยแพร่โดยสมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่งประเทศจีนแสดงให้เห็นว่า ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ การผลิตและการขายรถยนต์ของจีนอยู่ที่ 13.891 ล้านคัน และ 14.047 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 4.9% และ 6.1% เมื่อเทียบเป็นรายปีตามลำดับ ในจำนวนนี้การผลิตและการขายรถยนต์พลังงานใหม่สะสมอยู่ที่ 4.929 ล้านคัน และ 4.944 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 30.1% และ 32% เมื่อเทียบเป็นรายปีตามลำดับ โดยส่วนแบ่งการตลาดของรถยนต์พลังงานใหม่เพิ่มขึ้นอีกระดับถึง 35.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี

นายอู๋ ซงเฉวียน หัวหน้าผู้เชี่ยวชาญอาวุโสของศูนย์วิจัยเทคโนโลยียานยนต์แห่งประเทศจีนกล่าวว่าการเติบโตอย่างรวดเร็วในด้านการผลิต การขาย และยอดคงเหลือสะสมของรถยนต์พลังงานใหม่นั้น แสดงให้เห็นว่าคุณภาพของยานยนต์ดีขึ้นเรื่อยๆ และได้รับการยอมรับและตอบรับจากผู้ใช้เพิ่มมากขึ้น การที่ยอดขายรถยนต์พลังงานใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่เพียงแต่ขับเคลื่อนการพัฒนาห่วงโซ่อุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทานทางด้านยานยนต์เท่านั้น แต่ยังมีส่วนกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเห็นได้ชัดอีกด้วย ในขณะเดียวกัน ก็ยังมีส่วนสำคัญในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและลดการใช้พลังงานฟอสซิลอีกด้วย

มีการคาดการณ์ว่าในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ควบคู่ไปกับการดำเนินนโยบายเชิงบวกต่างๆ เช่น “นโยบายเก่าแลกใหม่” และการขับเคลื่อนยานยนต์พลังงานใหม่สู่ชนบท เป็นต้น รวมถึงการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เข้าตลาดอย่างต่อเนื่องของบรรดาค่ายรถยนต์ ย่อมจะมีส่วนช่วยปลดปล่อยศักยภาพการบริโภคของตลาดรถยนต์จีนอีกระดับ นายอู๋ ซงเฉวียนให้มุมมองว่าการผลิตและการขายรถยนต์พลังงานใหม่โดยรวมในปีนี้คาดว่าจะทะลุ 10 ล้านคันโดยมีโอกาสเพิ่มขึ้นถึง 11.5 ล้านคัน

อย่างไรก็ตาม นายอู๋ ซงเฉวียนก็ให้คำเตือนด้วยว่าปัจจุบันนี้ปัญหาความเชื่อมั่นของผู้บริโภคภายในประเทศยังคงเป็นปัญหาที่ชัดเจน และสถานการณ์การกีดกันทางการค้าระหว่างประเทศมีแนวโน้มรุนแรงยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นความท้าทายที่จะทำให้การแข่งขันทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น และสร้างความกดดันต่อการดำเนินธุรกิจของวิสาหกิจต่างๆมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นรัฐบาลจีนต้องใช้มาตรการเพิ่มความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางการตลาดต่อไปเพื่อช่วยให้อุตสาหกรรมยานยนต์ดำเนินไปได้อย่างราบรื่น

BO/LU