“ความใส่ใจของท่านเลขาธิการใหญ่ต่อบรรดาผู้ประกอบการในช่วงที่ท่านทำงานที่มณฑลฝูเจี้ยนนั้น ยังสะท้อนให้เห็นจากการผลักดันกระบวนการปฏิรูปที่สำคัญ และการสนับสนุนผู้ประกอบการอย่างเต็มที่" นายหลิว เจี๋ยหมิง ประธานสหพันธ์วิสาหกิจมณฑลฝูเจี้ยนกับประสบการณ์ที่ทำให้ประทับใจอย่างยิ่ง
ปี ค.ศ. 2000 นายสี จิ้นผิง ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหารสินทรัพย์แห่งรัฐมณฑลฝูเจี้ยนอีกตำแหน่ง
ในปีนั้น ฝูเจี้ยนขับเคลื่อนการปฏิรูปองค์กรและดำเนินการแบ่งอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานราชการกับรัฐวิสาหกิจให้ออกจากกัน(Separation of government and enterprise) กรมอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์กับอีกสองสามกรมของมณฑลฝูเจี้ยนถูกยุบพร้อมกัน และมีการตั้งกลุ่มบริษัทสารสนเทศอิเล็กทรอนิกส์มณฑลฝูเจี้ยนจำกัด (ต่อไปเรียกย่อว่า"กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์")ด้วยทรัพย์สินของรัฐวิสาหกิจที่เดิมขึ้นต่อกรมที่ถูกยุบดังกล่าว
เดือนพฤษภาคม นายหลิว เจี๋ยหมิง ถูกย้ายจากรองอธิบดีกรมอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์มณฑลฝูเจี้ยนไปเป็นเลขาธิการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนและประธานกรรมการประจำกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์
ก่อนเข้ารับตำแหน่ง นายสี จิ้นผิงได้พูดคุยกับเขาแบบเปิดใจเป็นเวลานาน
"อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในฝูเจี้ยน 'ตื่นเช้าแต่ไปตลาดสาย' ผลิตภัณฑ์หลายอย่าง เช่น คอมพิวเตอร์ไป๋หลิง เครืองรับโทรทัศน์ฝูรึ ตู้เย็นหวงโฮ่ว เครื่องซักผ้าส่วยเซียน ฯลฯ เป็นแบรนด์อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์รุ่นแรกๆ ที่เกิดขึ้นในจีนภายหลังการปฏิรูปและเปิดประเทศ แต่ตอนนี้กลับถูกวิสาหกิจจากนอกมณฑลฝูเจี้ยนแซงหน้า” นายสี จิ้นผิง กล่าวถึงสถานการณ์ปัจจุบันของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของฝูเจี้ยนตั้งแต่เริ่มการพูดคุย
“เหตุใดวิสาหกิจอิเล็กทรอนิกส์ในฝูเจี้ยนจึงเติบโตไม่ได้ เมื่อมีมูลค่าถึง 1-2 พันล้านหยวนก็จะเป็นเรื่องยากที่จะเติบโตมากกว่านี้ เราต้องศึกษามาตรการรับมืออย่างรอบคอบ!” นายสี จิ้นผิง กล่าว
นายสี จิ้นผิงกล่าวด้วยความห่วงใยว่า “มีอะไรที่มณฑลต้องให้การสนับสนุนหรือไม่? หากคุณมีคำถามใด ๆ ก็สามารถเสนอขึ้นมาได้”
“แม้ว่าผมจะได้รับมอบหมายภารกิจ แต่การพูดคุยครั้งนั้นสหายสี จิ้นผิงเน้นให้กำลังใจผมมากกว่า ท่านกล่าวว่าสารสนเทศอิเล็กทรอนิกส์เป็นอุตสาหกรรมเกิดใหม่ที่มีเนื้อหาทางเทคโนโลยีขั้นสูง มีศักยภาพในการเติบโตที่ดี มีความต้องการทางการตลาดที่ยิ่งใหญ่ และมีอนาคตการพัฒนาที่กว้างไกล ถือเป็นอุตสาหกรรมเสาหลักของมณฑล หลังก่อตั้งกลุ่มบริษัทใหม่แล้วต้องวางแผนให้ดีด้วยความตั้งใจ กำหนดแนวคิดการพัฒนาให้ดี ไม่เพียงแต่ตนเองต้องพัฒนาให้ดีเท่านั้น แต่ยังต้องเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนการพัฒนาและความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมทั้งมณฑลให้ดีด้วย” แม้ผ่านไปแล้ว 20 ปี แต่นายหลิว เจี๋ยหมิงยังคงจดจำการพูดคุยครั้งนั้นได้อย่างชัดเจนเสมือนเพิ่งเกิดขึ้น
คำบรรยายภาพ : วันที่ 24 มีนาคม ค.ศ.2021 นายสี จิ้นผิง เลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนและประธานาธิบดีจีน ตรวจเยี่ยมวิสาหกิจในมณฑลฝูเจี้ยน (ภาพจากสำนักข่าวซินหัว)
นายหลิว เจี๋ยหมิงกล่าวว่าในการพูดคุยครั้งนั้นเขาได้ร้องขอเพียงอย่างเดียว คือ ขอให้ผู้ว่าการมณฑลไปตรวจเยี่ยมหลังกลุ่มบริษัททำพิธีเปิดป้ายและดำเนินการอย่างเป็นทางการ เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และพนักงาน นายสี จิ้นผิงตอบตกลงทันที
กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ได้เปิดตัวและเริ่มดำเนินการเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ค.ศ. 2000 ในวันที่ 1 มกราคมของปีถัดมา นายสี จิ้นผิงก็ได้มาเยี่ยมชมตามที่รับปากไว้
ในช่วงเริ่มการก่อตั้ง ด้วยการสนับสนุนอย่างเต็มที่และการประสานงานด้วยตนเองของนายสี จิ้นผิง ทำให้กลุ่มบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ได้ทำ“สิ่งที่ยิ่งใหญ่” หลายประการ ได้แก่ มีส่วนร่วมในการปฏิรูปสู่ระบบร่วมทุนผ่านการถือหุ้นของบริษัทหลอดภาพจงหวา(ฝูโจว) รับซื้อสิทธิ์ควบคุมบริษัทการสื่อสารรุ่ยเจี๋ยซิงหวั่ง ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของกลุ่มคอมพิวเตอร์สือต้า รับคืนอำนาจควบคุมสัดส่วนการถือหุ้นที่รัฐเป็นเจ้าของของกลุ่มบริษัทเครื่องจักรกลไฟฟ้าหมิ่นตงจากการดูแลของวิสาหกิจเอกชนที่ได้รับมอบหมายก่อนหน้านี้ รวมถึงผลักดันให้บริษัท อิเล็กทรอนิกส์ฝูรึ จำกัด ดำเนินการปรับโครงสร้างหน่วยงานครั้งสำคัญ เป็นต้น
“ปีนั้น เหตุการณ์สำคัญเหล่านี้เกี่ยวข้องกับวิสาหกิจหลายแห่งที่มีอิทธิพลต่อกระบวนการการปฏิรูปและเปิดกว้างของมณฑลฝูเจี้ยน สหายสี จิ้นผิง ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ไม่ว่าในโอกาสของการรายงานต่อท่านซึ่งหน้า หรือในการขอคำแนะนำจากท่านผ่านเอกสาร วิสาหกิจเหล่านี้ได้กลายเป็นรากฐานที่สำคัญสำหรับการพัฒนากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ในภายหลัง” นายหลิว เจี๋ยหมิงกล่าว
อย่างไรก็ตาม กลุ่มบริษัทที่ตั้งขึ้นใหม่ยังคงเผชิญกับความยากลำบากหลายประการ เช่น ขาดแคลนเงินทุน มีการขาดทุนแฝงอย่างมาก มีหนี้สินจำนวนมาก และมีพนักงานมากเกินไป------
แต่เวลานั้นนี่เป็นสถานการณ์ทั่วไปในหมู่รัฐวิสาหกิจที่ขึ้นต่อมณฑลหลังการปรับเปลี่ยนระบบใหม่
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายสี จิ้นผิงเสนอว่าควรแยกวิสาหกิจออกจากคณะกรรมการ กรม และสำนักงานที่ขึ้นตรงต่อมณฑลทั้งหมด และทรัพย์สินที่ใช้ดำเนินธุรกิจของรัฐมากกว่า 80% ของทั้งมณฑลควรรวมอยู่ในการบริหารจัดการของบริษัทผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับมอบอำนาจ
วันที่ 20 มีนาคม ค.ศ. 2002 นายสี จิ้นผิง ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับดูแลและบริหารจัดการทรัพย์สินของรัฐประจำมณฑลฝูเจี้ยน ได้ลงนามในหนังสือรับรองอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจด้วยทรัพย์สินของรัฐกับตัวแทนทางกฎหมายของบริษัทผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับมอบอำนาจ 15 บริษัท ซึ่งรวมถึงกลุ่มบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ด้วย
“ในเวลานั้น ทุกคนต่างรู้สึกว่าแนวทางการมอบอำนาจการประกอบธุรกิจนั้นหาได้ยากในประเทศ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงวิถีที่ท่านผู้ว่าการมณฑลดำเนินมาโดยตลอดอันได้แก่ ตระหนักถึงการดำเนินการปฏิรูปอย่างเต็มที่และมีการดำเนินการอย่างรวดเร็ว” นายหลิว เจี๋ยหมิง กล่าว
ตามการมอบอำนาจ การลงทุนหรือการเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์ที่เป็นของรัฐโดยมีวงเงินไม่เกิน 50 ล้านหยวนนั้น ล้วนให้วิสาหกิจที่ได้รับมอบอำนาจการประกอบธุรกิจตัดสินใจอย่างอิสระ ด้วยวิธีนี้ อำนาจการตัดสินใจเกี่ยวกับการผลิตและการดำเนินงานส่วนใหญ่ในความเป็นจริงจึงได้กระจายให้กับวิสาหกิจแล้ว
การมอบอำนาจประกอบธุรกิจ ช่วยให้รัฐวิสาหกิจมีอิสระ ทำให้ในช่วงสามปีแรกหลังการก่อตั้งกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์สามารถดำเนินการให้เสร็จสิ้นกระบวนการถอนตัวออกมาอย่างรวดเร็วและราบรื่นสำหรับสินทรัพย์แห่งรัฐในวิสาหกิจกว่า 120 แห่งที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักและอยู่ในสภาวะอ่อนแอ ไม่มีธุรกิจและสินทรัพย์อย่างแท้จริง และไม่มีความหวังที่จะฟื้นตัว ด้วยวิธีการปิดตัว การยกเลิกธุรกิจ การควบรวมกิจการ และการถ่ายโอน ถึงปี ค.ศ.2003 กลุ่มบริษัทอิเล็กทรอนิกส์สามารถเปลี่ยนการขาดทุนให้เป็นกำไร และตั้งแต่นั้นมาได้เดินบนหนทางการพัฒนาจากเล็กไปสู่ใหญ่ จากอ่อนแอไปสู่แข็งแกร่ง
IN/LU