ช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วง ทางหลวงเลขที่ 228 ล้อมรอบดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำเหลียวเหอ อากาศสดชื่น นายจ้าว ซื่อเหว่ยอายุ 52 ปี มีคล้ำ ร่างกายซูบผอม เขาได้เตรียมอาหารเช้าและเข้าประตูของโรงเลี้ยงนกกระเรียนมงกุฎแดง ก่อนที่นกกระเรียนมงกุฎแดงตัวเล็กฝูงหนึ่งวิ่งเข้ามาต้อนรับด้วยความตื่นเต้นและดีใจ
ช่วง 32 ปีที่ผ่านมา นายจ้าว ซื่อเหว่ยทำงานเลี้ยง เพาะพันธุ์ ฝึกและปล่อยนกกระเรียนมงกุฎแดงให้กลับสู่ธรมชาติมาโดยตลอด และนำเพื่อนร่วมงานเพาะเลี้ยงนกกระเรียนมงกุฎแดงจำนวนกว่า 300 ตัวด้วยความสำเร็จ
ช่วงกว่า 30 ปีที่ผ่านมา นายจ้าว ซื่อเหว่ยได้สอนลูกศิษย์จำนวนมาก แต่ในขั้นตอนฟักไข่ ที่ต้องพลิกไข่ ระบายอากาศ วัดอุณหภูมิและอบไข่ เขามักจะทำเอง เพราะเห็นว่านี่เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด ไม่สามารถปล่อยให้เกิดความผิดพลาดได้ ชาวบ้านที่นี่จะเรียกชื่อเล่นของเขาว่า “พ่อนกกระเรียนมงกุฎแดง”
นายจ้าว ซื่อเหว่ยกล่าวว่า ความหวังของเขา คือ ก่อนจะถึงเกษียญอายุ ในโรงเลี้ยงนกกระเรียนมงกุฎแดงจะไม่มีนกกระเรียนมงกุฎแดงอีก และศูนย์เพาะเลี้ยงกกระเรียนมงกุฎแดงก็ไม่มีแล้ว เพราะว่า เมื่อโรงเลี้ยงไม่มีนกกระเรียนมงกุฎแดงนั้นจะหมายถึงนกกลับสู่ธรรมชาติทั้งหมดแล้ว และบินอยู่บนท้องฟ้าอย่างเป็นอิสระ
การยกเลิกศูนย์เพาะเลี้ยงกกระเรียนมงกุฎแดงก็หมายถึงนกกระเรียนมงกุฎแดงไม่ใช่สัตว์ใกล้สูญพันธุ์อีกต่อไป แต่จะสามารถเพาะพันธุ์และโตขึ้นด้วยตนเองตามธรรมชาติ