ในกระบวนการนี้ คณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนและทางการเมืองจิ้นเจียงปฏิบัติตามข้อแนะนำที่ว่า“จัดการความสัมพันธ์ระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจแบบตลาดกับการสร้างสรรค์รัฐบาลที่มุ่งเน้นการบริการแบบใหม่ให้ดี” และได้ดำเนินการให้ปรากฏเป็นจริงขึ้นด้วยดี โดยขยาย “บทบาท 3 ประการ” ดังต่อไป
“ผู้นำทาง” - จาก “เข้าสู่ตลาดด้วยคุณภาพ” และ “รวมกลุ่มพัฒนาด้วยกัน” ไปจนถึง “เข้าตลาดหลักทรัพย์ด้วยแบรนด์” กระทั่งสู่กลยุทธ์ “ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม” ในขั้นตอนต่างๆ ของการพัฒนาและในทุกช่วงเวลาที่สำคัญ ต่างก็ได้ให้คำแนะนำเพื่อให้พัฒนาไปในทิศทางที่ถูกต้อง รวมถึงเสนอกลยุทธ์การพัฒนาต่างๆ เพื่อช่วยบรรดาวิสาหกิจค้นหาทิศทาง กำหนดหนทางและเป้าหมายการพัฒนา
“ผู้ผลักดัน” – เมื่อวิสาหกิจเผชิญกับความยากลำบากและปัญหาคอขวดในการพัฒนา ก็จะให้ความช่วยเหลือ ส่งเสริมสนับสนุน และผลักดันอย่างทันท่วงที เพื่อให้มีนโยบายที่ตอบโจทย์ได้ดียิ่งขึ้น มีแพลตฟอร์มที่มีประสิทธิภาพและสะดวกยิ่งขึ้น ตลอดจนมีบรรยากาศที่ผ่อนคลายและกลมกลืนมากยิ่งขึ้น
“ผู้ให้บริการ” - ยึดมั่นแนวคิดการบริการแบบ “ไม่เรียกไม่กวน พร้อมให้บริการทันทีเมื่อถูกเรียก ให้บริการอย่างรอบคอบ คำไหนคำนั้น” ประสานงานกับวิสาหกิจและแสวงหาผลประโยชน์ให้กับวิสาหกิจอย่างกล้าหาญภายใต้เงื่อนไขอันได้แก่ ปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับและไม่โลภหรือเอาเปรียบผู้อื่น รวมถึงตอบสนองความต้องการของวิสาหกิจให้เร็วที่สุด สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านของวิสาหกิจอย่างเต็มที่ และให้บริการการพัฒนาวิสาหกิจให้เข้มแข็งที่สุด
ในขณะที่อุตสาหกรรมค่อยๆ ก้าวหน้าไปสู่ระดับกลางถึงสูง ก็ยังมีปัญหาที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน นั่นคือ ระดับความเป็นเมืองที่ล้าหลังกว่าระดับการพัฒนาอุตสาหกรรมมายาวนาน
ปี ค.ศ. 2002 ขณะนายสี จิ้นผิงสรุป “ประสบการณ์จิ้นเจียง”นั้นเคยเสนอว่าจิ้นเจียงควร “จัดการความสัมพันธ์ระหว่างการพัฒนาอุตสาหกรรมกับการขยายเมืองให้ดี” แต่ในช่วงระยเวลาหนึ่งที่ผ่านมาผู้คนยังไม่เข้าใจความหมายอันลึกซึ้งของคำแนะนำนี้อย่างถ่องแท้ และเมื่อกาลเวลาผ่านไป ปัญหานี้ก็ยิ่งเด่นชัดมากขึ้นเรื่อยๆ
คำบรรยายภาพ : รถยกตู้คอนเทนเนอร์ขึ้นรถบรรทุกที่ท่าเรือบกเมืองจิ้นเจียง มณฑลฝูเจี้ยน (ภาพจากสำนักข่าวซินหัว)
ในช่วงหนึ่งเคยมีปรากฏการณ์ใหม่เกิดขึ้น คือ วิสาหกิจที่ผลิตสินค้าแบรนด์เนมจำนวนหนึ่งได้ย้ายสำนักงานใหญ่ไปยังเมืองเซี่ยเหมินหรือสถานที่อื่น ๆ ที่มีปัจจัยเอื้ออำนวยกว่าอย่างต่อเนื่อง มีบางวิสาหกิจขอบคุณเมืองจิ้นเจียงที่ได้มอบบริการอันยอดเยี่ยมแก่พวกเขาตลอดหลายปีที่ผ่านมา จึงยืนหยัดที่จะปักหลักอยู่ในจิ้นเจียง แต่บุคลากร โครงการ และทรัพยากรอื่นๆนับวันยิ่งเกิดการสูญเสียมากขึ้น------
จึงเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องแสวงหาหนทางการขยายเมืองใหม่
ตั้งแต่ปี ค.ศ.2009 เป็นต้นมา เมืองจิ้นเจียงได้รับโอกาสในการดำเนินการสร้างสรรค์ “9 กลุ่มโครงการหลัก” และการดัดแปลง “5 พื้นที่ขนาดใหญ่” นำมาซึ่งการเปิดกรอบการพัฒนาเมืองใหม่ ในช่วงเวลาไม่กี่ปีต่อจากนั้น จิ้นเจียงได้เปิดตัว “โครงการอู๋ถง” โครงการขนาดใหญ่ที่หมือนการปฏิวัติ กล่าวคือ ผ่านการปรับโครงสร้างตามบทบาทของแต่ละภาคส่วนให้สมบูรณ์ บ่มเพาะตลาดพิเศษที่สำคัญ 8 แห่ง อุทยานนวัตกรรมเชิงวัฒนธรรมที่สำคัญ 3 แห่ง เขตรวมองค์กรการเงิน 1 แห่ง และเดินบนหนทาง “หลอมรวมอุตสาหกรรมกับเมืองเป็นองค์เดียวกันและพัฒนาด้วยกัน เพื่อสร้างเมืองให้มีความสะดวกสบายและน่าอยู่ ในกระบวนการนี้ จิ้นเจียงยืนหยัดที่จะให้ความสำคัญกับประชาชนเป็นอันดับแรก ส่งเสริมการขยายตัวของเมืองใหม่โดยมุ่งเน้นไปที่การให้ประชากรจากต่างถิ่นได้เข้ามาเป็นประชากรประจำ------
ปัจจุบัน จิ้นเจียงเป็นที่ตั้งของแบรนด์อุตสาหกรรมในภูมิภาค “ระดับชาติ” 14 แบรนด์ ซึ่งรวมถึง “เมืองร่มแห่งประเทศจีน” “เมืองรองเท้าแห่งประเทศจีน” “เมืองที่มีความเข้มแข็งด้านอุตสาหกรรมอาหารแห่งประเทศจีน” “เมืองเซรามิกที่สำคัญของจีน” เป็นต้น ได้สร้างคลัสเตอร์อุตสาหกรรมขนาด 100,000 ล้านหยวน จำนวน 2 แห่งในด้านสิ่งทอและเสื้อผ้า และการทำรองเท้า ได้สร้างคลัสเตอร์อุตสาหกรรมขนาด 10,000 ล้านหยวนจำนวน 5 แห่งในด้านวัสดุก่อสร้างและเซรามิก อาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์กระดาษ การผลิตอุปกรณ์เครื่องมือ และเส้นใยเคมี โดยมีบริษัทมากกว่า 700 บริษัทที่มีมูลค่ามากกว่า 100 ล้านหยวน มีเครื่องหมายการค้าที่มีชื่อเสียง 42 แบรนด์ และมีจำนวนบริษัทที่ได้จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ทั้งในและต่างประเทศมากถึง 50 บริษัท
ที่สำคัญกว่านั้น หลังใช้ความพยายามมานานหลายปี เมืองจิ้นเจียงก็เปิดโฉมใหม่เอี่ยม และมีชาวเมืองจิ้นเจียงหน้าใหม่จำนวนมากที่รู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของ “บ้าน” ที่นี่
ปี ค.ศ. 2014 เลขาธิการใหญ่สี จิ้นผิงได้เขียนคำแนะนำที่สำคัญในเอกสารรายงานของจิ้นเจียงเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนการนำร่องเพื่อส่งเสริมการขยายตัวของเมืองใหม่ว่า “เราไม่ควรมุ่งเน้นไปที่เมืองใหญ่เท่านั้น จีนควรพัฒนาเมืองขนาดกลางและขนาดเล็ก รวมถึงตำบลให้มากขึ้นจึงจะเหมาะสม”
นี่คือคํายืนยันของนายสี จิ้นผิงที่มีต่อการสร้างเมืองใหม่จิ้นเจียง และ “ประสบการณ์จิ้นเจียง” ซึ่งอยู่ท่ามกลาง “การปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง”ตามที่เขาเคยกล่าวไว้ในปีนั้น
IN/LU