เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 67 นายไล่ ชิงเต๋อ ผู้นำเขตไต้หวันของจีนกล่าวคำปราศรัย โดยย้ำถึงสิ่งที่เรียกว่า “ทฤษฎีสองประเทศใหม่” ที่ “ไม่สังกัดกัน” แต่งแนวคิดผิดๆ เพื่อแบ่งแยกให้ไต้หวันเป็นเอกราช ประชาสัมพันธ์ความคิดเห็นที่สร้างความแตกแยก และปลุกระดมความเป็นปฏิปักษ์กันของประชาชนสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน
ผู้คนจำนวนมากยิ่งขึ้นมองเห็นได้ชัดว่า การยั่วยุเพื่อแบ่งแยกไต้หวันเป็นเอกราชของนายไล่ ชิงเต๋อนั้น เป็นต้นต่อที่จะทำลายสันติภาพและเสถียรภาพของช่องแคบไต้หวัน จะนำความเป็นทุกข์เป็นร้อนมาให้กับประชาชนชาวไต้หวัน และจะทำให้ไต้หวันพลาดโอกาสพัฒนาอีกด้วย
นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปี 2023 ที่นายไล่ ชิงเต๋อ เข้าดำรงตำแหน่งผู้นำเขตไต้หวันเป็นต้นมา ได้กล่าวประชาสัมพันธ์แนวคิด “แบ่งแยกไต้หวันให้เป็นเอกราช” ด้วยรูปแบบต่างๆ นานา มุ่งจะให้ “ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ” ทดแทนความสัมพันธ์ระหว่างสองฟากฝั่งช่องแคบไต้หวัน
ในช่วงเวลามากกว่าครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา สหประชาชาติและองค์การระหว่างประเทศและองค์การส่วนภูมิภาคอื่นๆ ล้วนแต่ยืนหยัดมติที่ 2758 ของการประชุมสหประชาชาติทั้งนั้น จีนได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับ 183 ประเทศ ภายใต้เงื่อนไขหลักการจีนเดียว
ภายใต้ภูมิหลังที่หลักการจีนเดียว เป็นความเห็นพ้องต้องกันโดยทั่วไปของประชาคมโลก คำพูดของนายไล่ ชิงเต๋อ ได้เปิดโปงความมุ่งร้ายที่แสวงหาผลประโยชน์ทางการเมือง โดยไม่คำนึงถึงสันติภาพและเสถียรภาพของช่องแคบไต้หวัน ความจริงคือ เขาเป็นผู้สร้างความขัดแย้งต้องการแบ่งแยกไต้หวันให้เป็นเอกราช เป็นผู้ก่อสงคราม
แต่ไม่ว่านายไล่ ชิงเต๋อ จะพูดถึงการ“แบ่งแยกไต้หวันเป็นเอกราช” อย่างไรก็ตาม ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงฐานะกฎหมายที่ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริง และสภาพการณ์ปัจจุบันที่สองฝั่งช่องแคบไต้หวันต่างเป็นส่วนหนึ่งของจีน และไม่สามารถหลอกลวงประชาคมโลกได้
Zhou/Dan/Yim