วันที่ 24 ต.ค. นายหลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนกล่าวว่า จีนแสดงความยินดีกับวาระครบรอบ 79 ปีการก่อตั้งสหประชาชาติ ในฐานะสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและเป็นประเทศใหญ่ที่มีความรับผิดชอบ จีนจะทำงานร่วมกับประเทศอื่นทั่วโลกต่อไป เพื่อปฏิบัติตามหลักพหุภาคีอย่างแท้จริง และปกป้องระบบระหว่างประเทศที่มีสหประชาชาติเป็นศูนย์กลาง และระเบียบระหว่างประเทศที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานกฎหมายระหว่างประเทศ
วันที่ 24 ต.ค. 2024 เป็นวันครบรอบ 79 ปีการก่อตั้งองค์การสหประชาชาติ ขณะนี้ โลกกำลังเผชิญกับปัญหาเรื้อรังหลายปัญหา เช่น การปะทะในฉนวนกาซา และความขัดแย้งที่ซับซ้อนระหว่างประเทศ บางคนเห็นว่า อำนาจขององค์การสหประชาชาติกำลังถูกบั่นทอน แนวคิดพหุภาคีกำลังเผชิญกับแรงกดดัน และอนาคตของโลกเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน
ต่อการนี้ นายหลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนกล่าวในการแถลงข่าวประจำว่า ในฐานะองค์การระหว่างประเทศระหว่างรัฐบาลประเทศต่างๆทั่วโลก สหประชาชาติมีบทบาทที่ไม่สามารถทดแทนได้ในการรักษาสันติภาพและการพัฒนาโลก
โฆษกจีนกล่าวว่า ในฐานะประเทศแรกที่ลงนามในกฎบัตรสหประชาชาติ จีนได้ยึดมั่นในจุดประสงค์และหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติมาโดยตลอด สนับสนุนให้สหประชาชาติแสดงบทบาทสำคัญในกิจการระหว่างประเทศ เสนอข้อริเริ่มการพัฒนาระดับโลก ข้อริเริ่มความมั่นคงระดับโลก และข้อริเริ่มอารยธรรมระดับโลก ส่งเสริมการสร้างประชาคมมนุษย์ที่มีอนาคตร่วมกัน และได้ร่วมแสดงบทบาทชี้นำการส่งเสริมความสามัคคีและความร่วมมือระหว่างประเทศโลกทางใต้ จีนเป็นผู้รักษาสันติภาพ สนับสนุนการพัฒนา และผู้ปกป้องระเบียบโลก
โฆษกจีนเน้นย้ำว่า ยิ่งสถานการณ์ระหว่างประเทศมีความสลับซับซ้อนมากเท่าใด ความจำเป็นในการพิทักษ์อำนาจของสหประชาชาติอย่างมั่นคงก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ยิ่งความท้าทายระดับโลกมีความรุนแรงมากขึ้นเท่าใด ความจำเป็นในการมีพหุภาคีที่แท้จริงก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น จีนสนับสนุนการปฏิรูปและการพัฒนาสหประชาชาติ และเพิ่มสิทธิในการออกเสียงของประเทศกำลังพัฒนามาโดยตลอด
โฆษกจีนกล่าวว่า ประเทศใหญ่ยิ่งต้องมีความรับผิดชอบและส่งเสริมให้สหประชาชาติ รวมถึงคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติปฏิบัติหน้าที่ของตนได้ดียิ่งขึ้น สร้างฉันทมติระดับโลกได้อย่างมีประสิทธิผลมากขึ้น รักษาสันติภาพ เสถียรภาพ และการพัฒนาของโลกได้ดีขึ้น
โฆษกจีนกล่าวเสริมว่า การกระทำโดยลำพังฝ่ายเดียว การกลั่นแกล้งและบีบบังคับ รวมถึงการคว่ำบาตรและการกดดันประเทศอื่นนั้น ถือเป็นการฝ่าฝืนฉันทมติในการแสวงหาเสถียรภาพและการพัฒนาร่วมกันของประชาคมระหว่างประเทศ รวมถึงฝ่าฝืนฉันทานุมัติในการต่อต้านการแบ่งแยกและความขัดแย้งด้วย มีแต่จะบ่อนทำลายผลประโยชน์ร่วมกันของทุกประเทศเท่านั้น
(yim/cai)