รับรอง“การปฏิรูปป่าไม้”ของอำเภออู่ผิงอย่างเต็มที่ -- เส้นทางสี จิ้นผิง (128)

2024-11-02 12:57:32 | CMG
Share with:

เดือนเมษายน ค.ศ. 2003 มณฑลฝูเจี้ยนได้ออก “ความคิดเห็นเกี่ยวกับการส่งเสริมการปฏิรูประบบกรรมสิทธิ์ป่าไม้ส่วนรวม” บนพื้นฐานการสรุปประสบการณ์ของอำเภออู่ผิงและพื้นที่อื่นๆอย่างครบถ้วน เพื่อผลักดันการปฏิรูประบบกรรมสิทธิ์ป่าไม้ส่วนรวมอย่างครอบคลุม ให้บรรลุซึ่งเป้าหมาย“ภูเขามีผู้ถือครองกรรมสิทธิ์ที่ชัดเจน ต้นไม้มีรากที่แข็งแรง ผู้คนมีจิตใจที่มั่นคง”

เวลาต่อมา พื้นที่ต่างๆในมณฑลฝูเจี้ยนจึงกล้าที่จะทดลอง

ต่อประเด็นที่ว่า “เงินมาจากไหน”นั้น  อำเภอหย่งอานเป็นอำเภอแรกที่ได้ขอสินเชื่อผ่านการจำนองป่าไม้ ซึ่งช่วยให้เกษตรกผู้ปลูกป่าสามารถ “แง้มประตูธนาคารและฟื้นฟูภูเขา”  

เกี่ยวกับประเด็น “ควรตัดต้นไม้อย่างไร”นั้น ตามแนวคิด “เกษตรกรได้ประโยชน์ ระบบนิเวศได้รับการคุ้มครอง”ที่เสนอโดยนายสี จิ้นผิงเมื่อครั้งยังทำงานอยู่ที่ฝูเจี้ยน หน่วยงานป่าไม้จึงเป็นผู้นำในการปฏิรูประบบการบริหารจัดการการตัดไม้เชิงพาณิชย์ โดยส่งเสริมให้สามารถตัดไม้อย่างอิสระภายใต้เงื่อนไขบังคับที่ต้องดำเนินการตามกฎระเบียบและกฎหมาย

เกี่ยวกับประเด็น “การดำเนินธุรกิจแบบครัวเรือนเดียว”นั้น ฝูเจี้ยนแสวงหาแนวทางการจัดตั้งองค์กรร่วมประกอบธุรกิจป่าไม้แบบใหม่โดยพิจารณาจากสายสัมพันธ์ทางครอบครัว มิตรภาพ ทุน และเทคโนโลยี เพื่อบรรลุการประกอบธุรกิจขนาดใหญ่

ปี ค.ศ. 2008 การปฏิรูปกรรมสิทธิ์ป่าไม้ส่วนรวมระดับประเทศได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเต็มรูปแบบ ในเดือนมิถุนายนของปีนั้น “ความคิดเห็นเกี่ยวกับการผลักดันการปฏิรูประบบกรรมสิทธิ์ป่าไม้ส่วนรวม”ที่ออกโดยคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนและคณะรัฐมนตรีจีน  ได้อิงแนวปฏิบัติใน “การปฏิรูปป่าไม้”ของฝูเจี้ยน อันได้แก่ “กำหนดกรรมสิทธิ์ให้ชัดเจน กระจายอำนาจการประกอบธุรกิจให้มีความคล่องตัว มอบหมายอำนาจบริหารจัดการอย่างแท้จริง ประกันสิทธิด้านผลประโยชน์และรายได้”  ทั้งยังเป็นเนื้อหาหลักของเอกสารด้วย

“การปฏิรูปป่าไม้”ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญอีกประการหนึ่งสำหรับระบบการประกอบธุรกิจในชนบทของจีนต่อจากระบบการรับเหมาที่ดินเพื่อการผลิตตามสัญญาแบบครัวเรือน

วันที่ 7 มีนาคม ค.ศ. 2012 ขณะเยี่ยมเยียนคณะผู้แทนมณฑลฝูเจี้ยนที่มาร่วมการประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีนชุดที่ 11 ครั้งที่ 5  นายสี จิ้นผิงได้รับรอง “การปฏิรูปป่าไม้”ของอู่ผิงอย่างเต็มที่ โดยกล่าวว่า“เมื่อครั้งผมเริ่มทำงานที่ฝูเจี้ยนก็ได้เริ่มลงมือดำเนินการปฏิรูประบบกรรมสิทธิ์ป่าไม้ส่วนรวม หลายปีที่ผ่านมา ด้วยความพยายามอย่างไม่หยุดยั้งของเจ้าหน้าที่และมวลชนทั้งมณฑล การปฏิรูปนี้ได้บรรลุผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมแล้ว”

คำบรรยายภาพ :  หมู่บ้านเจี๋ยเหวิน อำเภออู่ผิง มณฑลฝูเจี้ยน ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นต้นกำเนิดของนโยบายปฏิรูปป่าไม้ของจีน

“การปฏิรูปป่าไม้” นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของอู่ผิงซึ่งเป็นอำเภอโบราณอายุนับพันปีแห่งนี้

ปี ค.ศ. 2011 อู่ผิงได้รับคัดเลือกให้เป็นอำเภอต้นแบบที่ก้าวหน้าในการปฏิรูประบบกรรมสิทธิ์ป่าไม้ส่วนรวมแห่งชาติ

ปี ค.ศ. 2013 อู่ผิงได้รับคัดเลือกให้เป็นอำเภอต้นแบบพื้นที่สีเขียวระดับชาติและเมืองแห่งสวนดอกไม้ระดับมณฑล

เดือนสิงหาคม ค.ศ. 2017 อู่ผิงได้รับคัดเลือกให้เป็นอำเภอก้าวหน้าด้านการสร้างสรรค์ความสงบสุขระดับชาติ และเป็นหนึ่งในสิบอำเภอดีเด่นด้านการพัฒนาเศรษฐกิจของมณฑลฝูเจี้ยน เดือนกันยายนได้รับคัดเลือกให้เป็น“แถบออกซิเจนธรรมชาติแห่งประเทศจีน”  เดือนตุลาคมได้รับคัดเลือกให้เป็น“อำเภอเมืองแห่งสวนดอกไม้ระดับชาติ” และเดือนพฤศจิกายนได้รับคัดเลือกให้เป็น"เมืองอารยะแห่งชาติ”------

รางวัลอันทรงเกียรติทั้งหมดเหล่านี้พิสูจน์ให้เห็นว่า “อำเภอแรกของประเทศที่ดำเนินการปฏิรูปป่าไม้”กำลังก้าวหน้าอย่างมากบนหนทางการพัฒนาสีเขียวและการสร้างความเจริญรุ่งเรืองในชนบท

ผ่านการปฏิรูปเชิงลึกอย่างต่อเนื่อง ด้วยการส่งเสริมและชี้แนะเกษตรกรให้พัฒนา “เศรษฐกิจในป่า”อย่างแข็งขัน เช่น พืชป่าที่เป็นสมุนไพร เห็ดป่า ดอกไม้ป่า การเลี้ยงสัตว์ในป่า ผึ้งป่า เป็นต้น รวมถึงอุตสาหกรรมสีเขียว เช่น การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ   จาก “ป่าหลับ” ได้ถูกแปรสภาพเป็น “ธนาคารสีเขียว”มานานแล้ว

นายหลี่ กุ้ยหลิน ผู้ได้รับใบรับรองกรรมสิทธิ์ป่าไม้เล่มใหม่ฉบับแรกของประเทศได้กลายเป็น “นักกิจกรรม”ของสหกรณ์มืออาชีพผักและผลไม้ของหมู่บ้านเจี๋ยเหวิน ภายใต้การชี้แนะของเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีการเกษตร เขาได้ปลูกเห็ดหลินจือจำลองขนาด 1 โหม่ว(เท่ากับประมาณ 0.417 ไร่)ในพื้นที่ป่าของครอบครัวตัวเอง ราคารับซื้อหลังการเก็บเกี่ยวชุดแรกดีกว่าที่คาดไว้ ทำให้รายได้ของเขาเพิ่มขึ้นมากกว่า 10,000 หยวนในปีนั้น นายหลี่ กุ้ยหลิน ได้ประโยชน์จากการทุ่มเทพัฒนา“เศรษฐกิจในป่า”ของอำเภออู่ผิง โดยตลอดหลายปีที่ผ่านมา ได้เลือกโครงการต่างๆตามลำดับ เช่น การเลี้ยงไก่และเป็ด การเลี้ยงผึ้ง และการปลูกกระดูกเกลี้ยง (Sarcandra glabra) เป็นต้น  สามารถสร้างรายได้อย่างมั่นคง

 ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าในปี ค.ศ. 2017 พื้นที่การประกอบธุรกิจ “ในป่า”ของอำเภออู่ผิงอยู่ที่ 1.43 ล้านโหม่ว (เท่ากับ 0.596 ล้านไร่) โดยมีเกษตรกร 29,900 รายเข้าร่วมดำเนินการ ได้สร้างมูลค่าผลผลิตทางเศรษฐกิจรวม 2,766 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 14.2% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ทั้งอำเภอได้ก่อตั้งองค์กรเศรษฐกิจเพื่อความร่วมมืออุตสาหกรรมป่าไม้ 97 องค์กร สนับสนุนและส่งเสริมครัวเรือนยากจน 996 ครัวเรือนให้ร่วมพัฒนาเศรษฐกิจ“ในป่า”ด้วย

ปลายปี ค.ศ. 2017 ชาวบ้านหมู่บ้านเจี๋ยเหวินซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งกำเนิด “การปฏิรูปป่าไม้” ของอำเภออู่ผิงได้เขียนจดหมายถึงนายสี จิ้นผิง ซึ่งผลักดัน “การปฏิรูปป่าไม้” ในปีนั้น เพื่อรายงานการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านตลอดหลายปีที่ผ่านมาโดยระบุว่า “ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่การปฏิรูปป่าไม้ หมู่บ้านของเราไม่เพียงแต่ได้ดูแลป่าไม้ด้วยดีซึ่งทำให้ป่าไม้มีความหนาแน่นมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังมีผู้คนจำนวนไม่น้อยได้พัฒนาเศรษฐกิจ‘ในป่า’อีกด้วย  เช่น การเลี้ยงผึ้งป่า ดอกไม้ป่า พืชป่าสมุนไพร การเก็บเห็ดแดง เป็นต้น ประโยชน์ของการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ป่าไม้เริ่มปรากฏให้เห็นแล้ว ช่วยให้ชาวบ้านมีรายได้เพิ่มขึ้น และรายได้ของหมู่บ้านก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ครัวเรือนที่ยากจนแปดครัวเรือนสุดท้ายในหมู่บ้านก็ได้หลุดพ้นจากความยากจนแล้ว บรรดาชาวบ้านพากันย้ายเข้าไปอยู่อาศัยในบ้านใหม่ ขับรถเก๋ง และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขซึ่งเป็นสิ่งที่รุ่นบรรพบุรุษไม่กล้าแม้แต่จะคิด”

วันที่ 15 มกราคม ค.ศ.2018 ชาวบ้านหมู่บ้านเจี๋ยเหวินได้รับการถ่ายทอดจากฝ่ายที่เกี่ยวข้องว่า เลขาธิการใหญ่สี จิ้นผิงฝากส่งกำลังใจมาถึงพวกเขาว่า “รู้สึกดีใจมากที่ได้ทราบว่าหลังผ่านการปฏิรูประบบกรรมสิทธิ์ป่าไม้ส่วนรวม ทำให้ป่าในหมู่บ้านหนาแน่นขึ้น ชาวบ้านมีรายได้เพิ่มขึ้น ครัวเรือนที่ยากจนต่างก็หลุดพ้นจากความยากจน หวังว่าทุกคนจะยังคงทุ่มเททำงานต่อไป เพื่อปกป้องสายน้ำสะอาดและภูเขาสีเขียว   พัฒนาเศรษฐกิจ‘ในป่า’และการท่องเที่ยวในชนบทให้ดี  รังสรรค์หมู่บ้านให้สวยงามมากยิ่งขึ้นและทำให้ชีวิตเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น”

ถึงปี ค.ศ.2020 อำเภออู่ผิงมีการปลูกป่าทั้งหมด 810,000 โหม่ว ซึ่งสูงกว่าพื้นที่ป่าปลูกทั้งหมดในช่วง 25 ปีก่อน “การปฏิรูปป่าไม้” ทำให้อัตราการครอบคลุมของป่าเพิ่มขึ้นเป็น 79.39% อู่ผิงได้พัฒนาเขตทัศนียภาพเชิงนิเวศหลายแห่งโดยใช้ประโยชน์จากทรัพยากรป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ ส่งผลให้สภาพแวดล้อม ระบบนิเวศดีขึ้นสามารถสร้างความผาสุกให้กับประชาชนอย่างกว้างขวางที่สุด และได้กลายเป็นนามบัตรสีเขียวของอำเภอนี้

วันที่ 23 มีนาคม ค.ศ. 2021 ระหว่างการตรวจเยี่ยมเมืองซานหมิง มณฑลฝูเจี้ยน เลขาธิการใหญ่สี จิ้นผิง ได้กล่าวถึง “การปฏิรูปป่าไม้” อีกครั้งว่า ต้องยึดมั่นในทิศทางการปฏิรูปที่ถูกต้อง เคารพเจตนารมณ์แห่งการริเริ่มสร้างสรรค์ของมวลชน ส่งเสริมนวัตกรรมด้านระบบกรรมสิทธิ์ป่าไม้ส่วนรวมอย่างแข็งขันและมั่นคง แสวงหาและปรับปรุงกลไกในการบรรลุคุณค่าของผลิตภัณฑ์ทางนิเวศน์ และมุ่งมั่นที่จะบรรลุความก้าวหน้าครั้งใหม่


IN/LU

  • เสียงข่าวประจำวัน (20-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (20-11-2567)

  • เสียงคุยกันวันละประเด็น (20-11-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (19-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (19-11-2567)