วันที่ 9 เมษายน ค.ศ. 2002 หลังได้รับเอกสารแจ้งให้ทราบฉบับหนึ่ง นายเซี่ย ฝูซิน ซึ่งกำลังสอนทักษะให้กับเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ในท้องถิ่นของเมืองเจี้ยนหยางมณฑลฝูเจี้ยนได้รีบเดินทางไปยังอำเภอซุ่นชาง

ทั้งนี้เพราะนายสี จิ้นผิงเดินมาสำรวจข้อมูลประกอบการวิจัยที่อำเภอซุ่นชาง และต้องการไปตรวจเยี่ยมสวนองุ่นในหมู่บ้านจางตุน

เวลานั้น นายเซี่ย ฝูซิน ได้ทุ่มความพยายามให้กับไร่องุ่นส่วนใหญ่ทางตอนเหนือของฝูเจี้ยน ดังนั้น เขารู้จักไร่องุ่นเหล่านั้นเป็นอย่างดี จึงเป็นผู้ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการทำหน้าที่บรรยายสรุปสถานการณ์ให้ผู้ว่าการมณฑลได้ทราบ

นายเซี่ย ฝูซิน เป็นเจ้าหน้าที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่สำคัญของสำนักงานการเกษตร คณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำเมืองหนานผิง ย้อนไปปี ค.ศ. 1988 เขาได้นำเข้าเทคโนโลยีการปลูกองุ่นเคียวโฮจากเมืองนางาซากิ ประเทศญี่ปุ่น และประสบความสำเร็จในการทดลองปลูกในหลายอำเภอของเมืองหนานผิง ดังนั้น เขาจึงได้รับการยกย่องว่าเป็น“บิดาแห่งองุ่นเคียวโฮฝูเจี้ยน” ทั้งยังเป็นที่รู้จักในนาม “เซียนองุ่น”อีกด้วย  ในปี ค.ศ.1999 เขาได้รับการบรรจุให้เป็นหนึ่งใน“เจ้าหน้าที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีพิเศษ”ชุดแรกของเมืองหนานผิง(ส่วน“เจ้าหน้าที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีพิเศษ”ถือเป็นนวัตกรรมและภาคปฏิบัติในการแลกเปลี่ยนเจ้าหน้าที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของเมืองหนานผิงมณฑลฝูเจี้ยนในปี1999 เพื่อแสวงหาวิธีการแก้ปัญหา “3 เกษตร”  ซึ่งกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของจีนได้ให้การรับรองอย่างเต็มที่และต่อมาก็แพร่หลายไปทั่วประเทศ)

เช้าวันนั้น นายสี จิ้นผิงตรวจเยี่ยมการผลิตองุ่นตาม “ถนนรถแทรกเตอร์” ระหว่างทางได้ถามคำถามมากมายที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมองุ่น โดยนายเซี่ย ฝูซิน ตอบทีละคำถาม นอกจากนี้ นายเซี่ย ฝูซินยังได้แนะนำกระบวนการนำเข้าพันธุ์องุ่นใหม่ๆ ตลอดจนการทดลองปลูกและการเผยแพร่อีกด้วย

“สหายสี จิ้นผิงดีใจมากเมื่อได้ยินว่าองุ่น 1 โหม่ว(เทียบเท่า 0.417ไร่)สามารถทำให้เกษตรกรมีรายได้สุทธิมากกว่า 7,000 หยวนต่อปี เขากล่าวว่าอุตสาหกรรมองุ่นสามารถผลักดันส่งเสริมให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น ควรเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกและพยายามพัฒนาให้ดีต่อไป และเน้นย้ำว่า ต้องขยายบทบาทของเจ้าหน้าที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างเต็มที่ เพื่อให้บริการแก่เกษตรกรด้านเทคโนโลยีการเพาะปลูกมากยิ่งขึ้น” นายเซี่ย ฝูซิน ยังคงจำเหตุการณ์ในวันนั้นได้อย่างชัดเจน

คำบรรยายภาพ : เซี่ย ฝูซิน ผู้เป็นหนึ่งใน“เจ้าหน้าที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีพิเศษ”ของเมืองหนานผิง มณฑลฝูเจี้ยน 

ตอนนั้นเป็นช่วงต้นเดือนเมษายน องุ่นยังไม่สุก สหายที่มาเยี่ยมไม่สามารถลิ้มลองรสองุ่นได้ ซึ่งทำให้บรรดาเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ต่างรู้สึกเสียใจ ทันใดนั้น มีเสียงดังขึ้นมาจากฝูงชนว่า “ขอเชิญท่านผู้ว่าชิมเหล้าองุ่นของจางตุนดีไหม?”

คนที่เสนอคือนายหลิน ฉี่ซิง ภายใต้การแนะนำของนายเซี่ย ฝูซิน เขากลายเป็นชาวสวนผลไม้คนแรกในหมู่บ้านที่ประสบความสำเร็จในการผลิตไวน์

นายหลิน ฉี่ซิง วิ่งกลับบ้าน และกลับมาโดยถือไวน์ที่กลั่นเองมาขวดหนึ่ง รวมถึงถาดรองและแก้วไวน์ใบเล็ก และรินไวน์ทีละแก้วจนครบ

“สหายสี จิ้นผิง หยิบแก้วขึ้นมาจิบไวน์แล้วถามว่า ไวน์นี้กลั่นอย่างไร บรรจุด้วยอะไร ชั่งหนึ่ง(ครึ่งกิโลกรัม)ขายได้ราคาเท่าไร หลังได้ฟังการแนะนำของเราแล้ว ท่านชื่นชมว่าไวน์นี้ไม่เลวและเชิญชวนทุกคนลิ้มรสไวน์ด้วยกัน” นายหลิน ฉี่ซิงเล่าย้อนให้ฟัง

“ข้อเสนอที่เกินคาด” ของนายหลิน ฉี่ซิงในครั้งนี้นั้น จริงๆ แล้วก็เพื่อถือโอกาสนี้ทำให้นายสี จิ้นผิง ได้ทราบว่านอกจากการปลูกองุ่นแล้ว พวกเขายังได้เรียนรู้เเทคโนโลยีการกลั่นไวน์ภายใต้ความช่วยเหลือจาก“เจ้าหน้าที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีพิเศษ”ด้วย  “แน่นอนว่าผมชื่นมื่นเมื่อไวน์ที่ผมกลั่นเองได้รับการชมเชยจากผู้นำระดับสูงเช่นนี้” นายหลิน ฉี่ซิงกล่าว

นายเซี่ย ฝูซิน ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่”ชื่นมื่น” เช่นกัน

“ผมรู้สึกว่าคำชมของสหายสี จิ้นผิงเป็นการรับรองการทำงานของ 'เจ้าหน้าที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีพิเศษ' และยังเป็นแรงบันดาลใจให้ผมยืนหยัดที่จะปฏิบัติหน้าที่ตลอดหลายปีที่ผ่านมาด้วย”  นายเซี่ย ฝูซินกล่าว

ระหว่างวันที่ 6-10 เมษายน ค.ศ. 2002 การสำรวจข้อมูลประกอบการวิจัยหัวข้อพิเศษครั้งนี้ของนายสี จิ้นผิง ใช้เวลา 5 วัน  ได้เดินทางข้ามสามอำเภอ (เมือง) ได้แก่ กวางเจ๋อ เส้าอู่ และซุ่นชาง เจ้าหน้าที่ที่ถูกส่งไปปฏิบัติงานในระดับรากหญ้า ซึ่งรวมถึง“เจ้าหน้าที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีพิเศษ”ด้วยนั้นเป็นจุดเน้นในการสำรวจครั้งนี้ของเขา

ปี ค.ศ.2019 ถือเป็นโอกาสครบรอบ 20 ปีการกำหนดให้มี“เจ้าหน้าที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีพิเศษ” ซึ่งขับเคลื่อนโดยนายสี จิ้นผิง และต่อมาได้แพร่หลายจากฝูเจี้ยนไปยังทั่วประเทศแล้ว ในปีนี้นายเซี่ย ฝูซิน ซึ่งมีอายุ 76 ปี ได้ก้าวเข้าสู่ปีที่ 20ของเขาในฐานะ“เจ้าหน้าที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีพิเศษ”  ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา เขาได้ฝึกอบรมเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้มากกว่า 10,000 ราย

IN/LU