ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน และประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส ต่างได้เขียนคำนิยมนิทรรศการ “ราชวงศ์ถังของจีน---ราชวงศ์ที่เปิดกว้างและมีความหลากหลาย (ศตวรรษที่ 7-10)” ซึ่งเปิดฉากขึ้นเมื่อวันที่ 18 พ.ย. ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะเอเชียแห่งชาติกีเมต์ของฝรั่งเศส

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีครบรอบ 60 ปีสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีน-ฝรั่งเศส โดยทั้งสองประเทศได้บรรลุข้อตกลงในระหว่างสีจิ้นผิงเยือนฝรั่งเศสในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาว่า จะจัดนิทรรศการโบราณวัตถุสมัยราชวงศ์ถังที่พิพิธภัณฑ์กีเมต์  จึงยินดีเป็นอย่างยิ่งที่นิทรรศการได้จัดขึ้นตามกำหนด โดยได้รับความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณวัตถุของทั้งสองประเทศ  

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวถึงราชวงศ์ถังว่า เป็นหนึ่งในราชวงศ์ที่รุ่งเรืองที่สุดในประวัติศาสตร์จีน มีลักษณะเด่น คือเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็ว วัฒนธรรมที่เฟื่องฟู การเปิดกว้างทางแนวความคิด ความสำเร็จทางศิลปะอันโดดเด่น และการผสมผสานทางชาติพันธุ์ โดยอิทธิพลทางวัฒนธรรมของราชวงศ์ถังแผ่ขยายไปทั่วเอเชียและไปถึงยุโรปผ่านเส้นทางสายไหม ความสำเร็จทางศิลปะของราชวงศ์ถัง เช่น บทกวี จิตรกรรม เครื่องทองและเครื่องเงิน ยังคงเป็นที่ชื่นชมของผู้คนในปัจจุบัน

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงแสดงความเชื่อมั่นว่า นิทรรศการนี้จะช่วยให้ผู้ชมชาวฝรั่งเศสและประเทศอื่นในยุโรป เข้าใจถึงความเจริญรุ่งเรือง ความเปิดกว้าง และความมั่นใจของราชวงศ์ถังอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น และได้สัมผัสกับเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของอารยธรรมจีน

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงชี้ว่า ทั้งจีนและฝรั่งเศสต่างก็มีประวัติศาสตร์ยาวนานและวัฒนธรรมอันยอดเยี่ยม ประชาชนทั้งสองประเทศชื่นชมนับถือซึ่งกันและกัน และมีการไปมาหาสู่กันฉันมิตรตั้งแต่โบราณกาล   

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงยังกล่าวด้วยว่า แต่ละประเทศควรรักษาสิ่งที่สวยงามของตนเองไว้  สิ่งที่แตกต่างกันแต่สวยงามสามารถแบ่งปันกันได้   ต้องมีการบูรณาการความรู้สึกทางประวัติศาสตร์และเจตนารมณ์ร่วมสมัยเข้ากับมิตรภาพระหว่างจีนและฝรั่งเศส และดำเนินการเพื่อความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมระหว่างจีนและฝรั่งเศสที่มั่นคงและมีชีวิตชีวายิ่งขึ้น

ด้านประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสกล่าวว่า มีการจัดนิทรรศการโบราณวัตถุสมัยราชวงศ์ถังที่ยิ่งใหญ่ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะเอเชียแห่งชาติกีเมต์   เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตทวิภาคี และปีแห่งวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวระหว่างฝรั่งเศสและจีน   นิทรรศการที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ครั้งนี้เน้นย้ำอีกครั้งถึงการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมอันมีพลวัตระหว่างฝรั่งเศสและจีน  ซึ่งจะยังคงมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคี

(yim/cai)