สำนักข่าวซินหวารายงานว่า เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม นายหวัง เซ่วเหวิน ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จีนระบุในการประชุมดึงดูดทุนต่างชาติทั่วประเทศที่เพิ่งสิ้นสุดลงที่กรุงปักกิ่งว่า ปัจจุบัน จีนต้องแข่งขันอย่างดุเดือดกับทั่วโลกในการดึงดูดทุนต่างชาติ ประเทศพัฒนารวมทั้งสหรัฐฯเป็นต้นได้กำหนดยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมอีก เพื่อดึงดูดอุตสาหกรรมการผลิต และสร้างความได้เปรียบด้านการผลิตอีกครั้ง กลุ่มประเทศเศรษฐกิจกำลังพัฒนา เช่นประเทศเอเชียตะวันออกและอินเดียเป็นต้นได้ใช้ความได้เปรียบด้านต้นทุนค่าแรงที่ต่ำมาดึงดูดทุนต่างชาติ

ไตรมาสแรกปีนี้ สหรัฐลงทุนในจีนเป็นเงิน 620 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 40.4% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีที่แล้ว ญี่ปุ่นลงทุนในจีนเป็นเงิน 106 ล้านเหรีญสหรัฐ ลดลง 12.3% ส่วนการลงทุนจากอาเซียนเป็นเงิน 1,350 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 31.2% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีที่แล้ว

ถ้าวิเคราะห์จากข้อมูลของไตมาสแรกจะเห็นว่า การดึงดูดทุนต่างชาติของเขตภาคกลางและภาคตะวันตกของจีนเป็นประมาณ 14.6% ของทุนต่างชาติทั้งหมด และเขตฮ่องกงเป็นแหล่งที่มาลงทุนใหญ่ที่สุดในแผ่นดินใหญ่จีน ธุรกิจภาคบริการ เช่น การเงิน การกระจายสินค้าและการขนส่งกลายเป็นส่วนที่ใช้ทุนต่างชาติมากที่สุด ประมาณ 40% ของทุนต่างชาติทั้งหมด

แม้เผชิญกับการท้าทายมากมายก็ตาม แต่นายหวัง เซ่วเหวิน กล่าวว่า จีนยังมีศักยภาพด้านการดึงดูดทุนต่างชาติ เพราะการเติบโตของเศรษฐกิจจีนได้ทำให้ตลาดเพิ่มขึ้น ความสามารถด้านอุตสาหกรรมเสริมและกำลังการผลิตเอนกประสงค์มีความเข้มแข็งขึ้นทุกที เศรษฐกิจจีนมีความสัมพันธ์กับเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจภูมิภาคอย่างลึกซึ้ง จะนำมาซึ่งโอกาสที่ดีต่อการดึงดูดทุนต่างชาติ

งานสำคัญในการดึงดูดทุนต่างชาติของจีนในปัจจุบันคือ รักษาขนาดการดึงดูดทุนต่างชาติอย่างมั่นคง ปรับปรุงโครงสร้างให้ดีขึ้น และเพิ่มคุณภาพให้สูงขึ้น นายหวัง จื้อเลอร์ นักวิจัยสถาบันเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศกระทรวงพาณิชย์จีนกล่าวว่า จีนกำลังมีการเปลี่ยนแปลง และกำลังเปิดสู่ภายนอกมากขึ้น ในกระบวนการที่เศรษฐกิจจีนผสมผสานเข้ากับกระบวนการผลิตของโลกนั้น การดึงดูดทุนต่างชาติของจีนอาจจะรองรับช่วงการพัฒนาอย่างรวดเร็วรอบใหม่ บรรยากาศการลงทุนของจีนจะมีแรงดึงดูดมากขึ้นทุกที

In/LJ