ถ่ายทอดสดพิธีเปิดการประชุมผู้นำจีน-อาเซียน ว่าด้วยการค้าและการลงทุนครั้งที่ 8 ณ ลี่หยวน รีสอร์ต เมืองหนานหนิง เขตปกครองตนเองชนเผ่าจ้วงกวางสี วันศุกร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ.2554 เวลา 11.00-11.45 น.
อิน---ทางเว็บไซต์ซีอาร์ไอออนไลน์ https://thai.cri.cn ขอต้อนรับสู่การถ่ายทอดสดพิธีเปิดประชุมผู้นำจีน-อาเซียนว่าด้วยการค้าและการลงทุน (ซีเอบีไอเอ็ส) ครั้งที่ 8 ขณะนี้ดิฉัน อินทนิล ปลดเปลื้อง กับ คุณเหอ สี่หลิง และคุณหลิน ชินเลี่ยง อยู่ที่ลี่หยวนซานจวง หรือ ลี่หยวน รีสอร์ต เมืองหนานหนิง สถานที่จัดประชุมผู้นำจีน-อาเซียนว่าด้วยการค้าและการลงทุน (ซีเอบีไอเอ็ส) ครั้งที่ 8 เหอ---ลี่หยวน รีสอร์ต เป็นสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งสำหรับงานแสดงสินค้าจีน-อาเซียน และเป็นสถานที่หลักในการจัดประชุมผู้นำจีน-อาเซียนเนื่องในโอกาสครบรอบ 15 ปีการสร้างความสัมพันธ์คู่เจรจาจีน-อาเซียนเมื่อปี 2549 คือ เมื่อ 5 ปีก่อน ณ ที่นี้ มีการลงนามใน "แถลงการณ์ร่วมว่าด้วยการประชุมผู้นำจีน-อาเซียนเนื่องในโอกาสครบรอบ 15 ปีการสร้างความสัมพันธ์คู่เจรจาจีน-อาเซียน" ซึ่งลงนามโดยนายเวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีนและ 10 ประเทศอาเซียน อิน---ขณะนี้ ผู้ร่วมประชุมพร้อมในหอประชุม ซึ้งมีผู้ร่วมประชุมทั้งหมดหลายร้อยคน เหอ---เป็นผู้นำระดับสูงด้านการค้าและการลงทุนจากประเทศอาเซียนและจีน เพื่อมาร่วมกันหารือการส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างสองฝ่ายให้มีความเจริญรุ่งเรืองยิ่งๆ ขึ้น อิน---การประชุมผู้นำจีน-อาเซียนว่าด้วยการค้าและการลงทุนเกิดขึ้นจากความร่วมมือของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ปีนี้ กระทรวงพาณิชย์จีน คณะกรรมการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศแห่งประเทศจีน และรัฐบาลประชาชนเขตปกครองตนเองชนเผ่าจ้วงกวางสีเป็นหลักในการจัดประชุม และสำนักเลขาธิการการประชุมผู้นำจีน-อาเซียนว่าด้วยการค้าและการลงทุนเป็นผู้จัดประชุม เหอ---ปีนี้ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของไทยมาร่วมงานแสดงสินค้าจีน-อาเซียนและการประชุมผู้นำจีน-อาเซียนว่าด้วยการค้าและการลงทุนที่หนานหนิงด้วย แสดงว่า ประเทศไทยให้ความสำคัญกับงานนี้มาก อิน---ขณะนี้นายเวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีน กับหัวหน้าคณะผู้แทนประเทศอาเซียนขึ้นเวที เหอ---ผู้นำประเทศต่างๆ รวมถึงผู้ร่วมประชุมทุกท่านล้วนมีหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส ดีใจที่มีโอกาสพบปะสังสรรกันอีกครั้งเกี่ยวกับ 10+1 ซึ่งมีมากกว่า 11 อิน---ใช่ค่ะ "10+1 มีมากกว่า 11" งานแสดงสินค้าจีน-อาเซียนมีโอกาสทางธุรกิจและตลาดอันกว้างใหญ่ที่ก้าวข้าม 11 ประเทศ มีส่วนช่วยเสริมสร้างอิทธิพลของทั้งภูมิภาคให้เข้มแข็งยิ่งขึ้นในโลก เหอ---ในพิธีเปิดการประชุมผู้นำจีน-อาเซียนว่าด้วยการค้าและการลงทุนปีนี้ นายกัว เซิงคุน เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำเขตปกครองตนเองชนเผ่าจ้วงกวางสีเป็นผู้ดำเนินการ อิน---นายกัว เซิงคุน ผู้ดำเนินการในพิธีเปิดเชิญนายวั่น จี้เฟย ประธานคณะกรรมการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศแห่งประเทศจีนกล่าวต้อนรับ เหอ---นายวั่น จี้เฟย ประธานคณะกรรมการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศแห่งประเทศจีนกล่าวต้อนรับผู้นำ ผู้แทนแวดวงการค้าและการลงทุนจากประเทศอาเซียนและจีนมาร่วมงาน อิน---การประชุมผู้นำจีน-อาเซียนว่าด้วยการค้าและการลงทุน จัดขึ้นตามข้อเสนอของนายเวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีน ซึ่งเสนอขึ้นในที่ประชุมผู้นำจีน-อาเซียน (10+1) ครั้งที่ 7 เมื่อวันที่ 8 ตุลาคมปี 2546 และได้รับความเห็นชอบจากผู้นำ 10 ประเทศอาเซียน โดยจัดขึ้นในช่วงเดียวกับงานแสดงสินค้าจีน-อาเซียน ข้อเสนอของนายเวิน เจียเป่า ถือได้ว่าเป็นปฏิบัติการที่เป็นจริงอีกอย่างหนึ่งของจีนเพื่อส่งเสริมผลักดันการเปิดเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน เหอ---วัตถุประสงค์ของการประชุมผู้นำจีน-อาเซียนว่าด้วยการค้าและการลงทุนคือ ผลักดันการสร้างเขตการค้าเสรีและความร่วมมือทางเศรษฐกิจทุกด้านระหว่างจีนกับอาเซียน และถือเป็นเวทีในการร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่ภาครัฐ บุคคลในวงการธุรกิจ และนักวิชาการระหว่างจีนกับอาเซียน ทั้งด้านการประชาสัมพันธ์นโยบายเศรษฐกิจ การค้า และโครงการความร่วมมือ ตลอดจนดำเนินการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารหลากหลายลู่ทาง สร้างโอกาสทางธุรกิจให้แก่ผู้จัดซื้อจัดจ้าง ผู้ผลิต และนักลงทุนของประเทศต่างๆ ให้มากขึ้น เพื่อให้ความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างจีนกับอาเซียนพัฒนาทุกด้าน อิน---การประชุมผู้นำจีน-อาเซียนว่าด้วยการค้าและการลงทุนจัดมาแล้ว 7 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 8 สำหรับคำขวัญของปีนี้คือ "งานแสดงสินค้าจีน – อาเซียนทำให้อนาคตเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนสดใสยิ่งขึ้น (CAEXPO Brings a Brighter Future for CAFTA) " อิน---ผู้ดำเนินการในพิธีเปิดประชุมฯ เรียนเชิญนายเวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีนกล่าวปราศรัย เหอ---เสียงปรบมือดังกึกก้อง นายเวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีนกล่าวปราศรัย ในหัวข้อ "ขยายความร่วมมือให้ลงลึก สร้างความเจริญรุ่งเรืองด้วยกัน"
ครบรอบ 20 ปี การสร้างความสัมพันธ์คู่เจรจาระหว่างจีนกับอาเซียน การประชุมผู้นำฯ ปีนี้ตั้งประเด็นว่า "ขยายความร่วมมือส่วนภูมิภาคให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และสร้างความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน" ซึ่งมีความสำคัญมาก ข้าพเจ้าในนามของรัฐบาลจีน ขอแสดงความยินดีเป็นอย่างยิ่งต่อการเปิดประชุมฯ และขอแสดงการต้อนรับอย่างจริงใจต่อแขกผู้มีเกียรติทุกท่านที่มาร่วมประชุมฯ จีนกับประเทศอาเซียนมีเทือกเขาหรือสายน้ำเชื่อมกัน หรือไม่ก็เฝ้า มองกันคนละฝั่งทะเล นับตั้งแต่โบราณกาลเป็นต้นมา บรรพบุรุษของเรา ก็อยู่ร่วมกันในผืนแผ่นดินเอเชียอันอบอุ่นนี้ "ญาติห่างๆ ยังสู้เพื่อนบ้าน ไม่ได้" ภูมิลักษณ์นี้เป็นสายใยเชื่อมเราให้อยู่ร่วมกันอย่างแนบแน่น ไม่ว่า จะอยู่ในจีน หรืออยู่ในประเทศอาเซียน ล้วนสามารถเห็นร่องรอยการ แลกเปลี่ยน ผลที่ส่งถึงกัน และการหลอมรวมกันด้านวัฒนธรรม ระหว่างสองฝ่ายได้ทุกแหล่งแห่งที่ จนถึงทุกวันนี้ ยังคงมีการเล่าขานกัน ถึงเรื่องราวดีๆ ในประวัติศาสตร์ เช่น กองทัพเจิ้งเหอที่ล่องไปยัง มหาสมุทรตะวันตก สุลต่านแห่งบรูไนมาเยือนจีน และเจตนารมณ์ของการประชุมบันดุงที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง มิตรภาพที่มีมาช้านานระหว่างประชาชนจีนกับอาเซียนมีประวัติมา ยาวนานและยังทอดไปอีกไกล ยิ่งนานวันก็ยิ่งมีความสดใหม่ นับตั้งแต่ทศวรรษปี 1980-1990 เป็นต้นมา พร้อมๆ กับจีนเดินหน้าปฏิรูปและเปิดประเทศให้ลงลึกยิ่งขึ้น ความสัมพันธ์จีน-อาเซียนก็ก้าวเข้าสู่หน้าใหม่แห่งประวัติศาสตร์ ตามหลักในการเพิ่มการประสานงาน เสริมสร้างความเชื่อถือซึ่งกันและกัน กระชับความร่วมมือให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น อำนวยประโยชน์แก่กันและได้รับชัยชนะร่วมกัน เราได้สร้างความสัมพันธ์คู่เจรจาจีน-อาเซียน ซึ่งเป็นการเปิดหน้าใหม่ของความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่าย ช่วง 20 ปีมานี้ ความสัมพันธ์ได้ก้าวข้ามจากคู่เจรจาทุกด้าน หุ้นส่วนที่เชื่อถือซึ่งกันและกันฉันประเทศเพื่อนบ้านที่ดี มาเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ จนเกิดความร่วมมือจีน-อาเซียนในขอบข่ายอันกว้างขวางในทุกระดับและทุกด้าน จีนยึดถือความสัมพันธ์กับอาเซียนด้วยความจริงใจ ในฐานะประเทศนอกภูมิภาคอาเซียน จีนเป็นประเทศแรกที่เข้าเป็นภาคีของ "สนธิสัญญาว่าด้วยมิตรภาพและความร่วมมือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" เป็นประเทศแรกที่สร้างความสัมพันธ์หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์กับอาเซียน และเป็นประเทศแรกที่ตั้งเขตการค้าเสรีกับอาเซียน อีกทั้งเป็นประเทศแรกที่รับรองลงนามในพิธีสาร "สนธิสัญญาว่าด้วยเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" และสนับสนุนอาเซียนในการแสดงบทบาทนําในความร่วมมือเอเชียตะวันออกอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ จีนมุ่งขยายความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมกับอาเซียนให้ลุ่มลึกยิ่งขึ้น ภายใต้ความพยายามร่วมกันของรัฐบาล แวดวงอุตสาหกรรมและการค้าของทั้งสองฝ่าย ยอดการค้าทวิภาคีในรอบ 20 ปีที่ผ่านมาเติบโตในอัตรากว่าร้อยละ 20 ขณะนี้ใกล้จะถึงระดับ 300,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จีนเป็นคู่ค้าใหญ่อันดับที่ 1 ของอาเซียน ขณะที่อาเซียนเป็นคู่ค้าใหญ่อันดับที่ 3 ของจีน เราได้สร้างเวทีการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจและการค้าต่างๆ เช่น งานแสดงสินค้าจีน-อาเซียน การประชุมสุดยอดจีน-อาเซียนว่าด้วยการค้าและการลงทุน รวมถึงกองทุนความร่วมมือจีน-อาเซียน กองทุนความร่วมมือด้านสาธารณสุขจีน-อาเซียน และกองทุนความร่วมมือด้านการลงทุนจีน-อาเซียน ตลอดจนจัดการฝึกอบรมบุคลากรจำนวนหลายหมื่นคนให้กับประเทศอาเซียน ขณะนี้ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนกับอาเซียนกำลังอยู่ในช่วงที่คึกคักที่สุดและมีผลมากที่สุดในประวัติศาสตร์ จีนกับอาเซียนลงนามเป็นประเทศคู่เจรจามาเป็นเวลา 20 ปีแล้ว ข้าพเจ้าหวังด้วยความจริงใจว่า ความร่วมมือจีน-อาเซียนจะมีผลคืบหน้ามากขึ้น ได้รับผลสำเร็จที่มีความหมายมากขึ้น สร้างความผาสุขให้กับประชาชนทั้งของจีนและอาเซียน ณ ที่นี้ ข้าพเจ้าขอตอกย้ำว่า การกระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่มุ่งสู่สันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองกับอาเซียน และเดินหน้าร่วมมือกันทุกระดับในลักษณะที่อำนวยประโยชน์แก่กันนั้น เป็นนโยบายการต่างประเทศอันเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ของรัฐบาลจีน เราจะยึดหลักนโยบาย "เป็นมิตรกับเพื่อนบ้าน ถือเพื่อนบ้านเป็นมิตร"เป็นชั่วนิรันดร์ โดยจะเป็นเพื่อนบ้านที่ดี หุ้นส่วนที่ดีและมิตรที่ดีของอาเซียน การพัฒนาของจีนจะนำมาซึ่งโอกาสที่ดีแก่อาเซียน และความเจริญรุ่งเรืองของอาเซียนก็สอดคล้องกับผลประโยชน์ของจีนเช่นกัน เรายินดีที่จะร่วมมือกับทุกประเทศอาเซียน ถือเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนซึ่งสร้างขึ้นแล้วเสร็จบริบูรณ์เป็นจุดเริ่มต้นใหม่ ขยายขอบข่ายความร่วมมือให้กว้างขึ้น เพิ่มเติมเนื้อหาแห่งความร่วมมือให้แน่นแฟ้นขึ้น ยกระดับความร่วมมือให้สูงขึ้น พยายามให้จีนและอาเซียนมีอนาคตที่สวยสดยิ่งขึ้นด้วยการร่วมมือที่อำนวยประโยชน์แก่กันและเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน ขออวยพรให้การประชุมผู้นำฯ ว่าด้วยการค้าและการลงทุนครั้งนี้ประสบผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ ขอขอบคุณทุกท่าน อิน---นายเวิน เจียเป่ากล่าวว่า "ปีนี้เป็นปีมิตรภาพและการแลกเปลี่ยนจีน-อาเซียน อีกทั้งเป็นปีครบรอบ 20 ปีการสร้างความสัมพันธ์คู่เจรจาระหว่างจีนกับอาเซียน การประชุมผู้นำฯ ปีนี้ตั้งประเด็นว่า 'ขยายความร่วมมือส่วนภูมิภาคให้ลงลึก สร้างความเจริญรุ่งเรืองด้วยกัน' ซึ่งมีความสำคัญมาก ข้าพเจ้าในนามของรัฐบาลจีน ขอแสดงความยินดีเป็นอย่างยิ่งต่อการเปิดประชุมฯ และขอแสดงการต้อนรับอย่างจริงใจต่อแขกผู้มีเกียรติทุกท่านที่มาร่วมประชุมฯ" เหอ---นายเวิน เจียเป่ากล่าวว่า "จีนกับประเทศอาเซียน เป็นประเทศเพื่อนบ้าน อยู่ร่วมกันคนละฟากฝั่งแม่น้ำสายเดียวกัน นับตั้งแต่โบราณกาลเป็นต้นมา บรรพบุรุษของเราก็อยู่ร่วมกันในผืนแผ่นดินเอเชียอันอบอุ่นนี้ 'ญาติที่อยู่ไกลสู้เพื่อนบ้านไม่ได้' ภูมิประเทศเป็นสายใยเชื่อมเราให้อยู่ร่วมกันอย่างแนบแน่น ไม่ว่าจะอยู่ในจีน หรืออยู่ในประเทศอาเซียน ล้วนสามารถพบเห็นร่องรอยการแลกเปลี่ยน การส่งผลกระทบ และการหลอมรวมกันด้านวัฒนธรรมระหว่างสองฝ่ายได้ทุกแหล่งแห่งที่ จนถึงทุกวันนี้ ยังคงมีการเล่าขานกันถึงเรื่องราวดีๆ ในประวัติศาสตร์ เช่น กองทัพเจิ้งเหอที่ล่องไปยังมหาสมุทรตะวันตก อ๋องของบรูไนมาเยือนจีน และการประชุมบันดุง มิตรภาพที่มีมาช้านานระหว่างประชาชนจีนกับอาเซียนมีประวัติมาอันยาวนานและไปได้อีกไกล ยิ่งนานก็ยิ่งเข้มข้น" อิน---"นับตั้งแต่ทศวรรษปี 1980-1990 เป็นต้นมา พร้อมๆ กับจีนเดินหน้าปฏิรูปและเปิดประเทศให้ลงสู่ลึก ความสัมพันธ์จีน-อาเซียนเข้าสู่ช่วงใหม่แห่งประวัติศาสตร์ ตามหลักในการเพิ่มการประสานงาน เสริมสร้างความเชื่อถือซึ่งกันและกัน กระชับความร่วมมือให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น อำนวยประโยชน์แก่กันและได้ชัยชนะด้วยกัน เราได้สร้างความสัมพันธ์คู่เจรจาจีน-อาเซียน ซึ่งเป็นการเปิดหน้าใหม่ของความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่าย ช่วง 20 ปีมานี้ ความสัมพันธ์สองฝ่ายได้ก้าวข้ามจากคู่เจรจาทุกด้าน หุ้นส่วนที่เชื่อถือซึ่งกันและกันฉันประเทศเพื่อนบ้านที่ดี มาเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ จนได้เกิดความร่วมมือจีน-อาเซียนในขอบข่ายอันกว้างขวางในทุกระดับและทุกด้าน " เหอ---"จีนส่งเสริมความสัมพันธ์กับอาเซียนด้วยความจริงใจ ในฐานะประเทศนอกภูมิภาคอาเซียน จีนเป็นประเทศแรกที่เข้าเป็นภาคีของ 'สนธิสัญญาว่าด้วยมิตรภาพและความร่วมมือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้' เป็นประเทศแรกที่สร้างความสัมพันธ์หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์กับอาเซียน และเป็นประเทศแรกที่ตั้งเขตการค้าเสรีกับอาเซียน อีกทั้งเป็นประเทศแรกที่รับรองลงนามในพิธีสาร 'สนธิสัญญาว่าด้วยเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้' และสนับสนุนอาเซียนแสดงบทบาทเป็นแกนนำในความร่วมมือเอเชียตะวันออกอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่" อิน---"จีนมุ่งขยายความร่วมมือกับอาเซียนให้ลุ่มลึกยิ่งขึ้น ภายใต้ความพยายามร่วมกันของรัฐบาล แวดวงอุตสาหกรรมและการค้าของทั้งสองฝ่าย ยอดการค้าทวิภาคีในรอบ 20 ปีที่ผ่านมาเติบโตในอัตรากว่าร้อยละ 20 ขณะนี้ใกล้จะถึงระดับ 300,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จีนเป็นคู่ค้าใหญ่อันดับที่ 1 ของอาเซียน ขณะที่อาเซียนเป็นคู่ค้าใหญ่อันดับที่ 3 ของจีน เราได้สร้างเวทีการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจและการค้าต่างๆ เช่น งานแสดงสินค้าจีน-อาเซียน การประชุมสุดยอดจีน-อาเซียนว่าด้วยการค้าและการลงทุน รวมถึงกองทุนความร่วมมือจีน-อาเซียน กองทุนความร่วมมือด้านสาธารณสุขจีน-อาเซียน และกองทุนความร่วมมือด้านการลงทุนจีน-อาเซียน ตลอดจนจัดการฝึกอบรมบุคลากรจำนวนหลายหมื่นคนให้กับประเทศอาเซียน ขณะนี้ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนกับอาเซียนกำลังอยู่ในช่วงที่คึกคักที่สุดและมีผลมากที่สุดในประวัติศาสตร์" เหอ---"จีนกับอาเซียนลงนามเป็นประเทศคู่เจรจามาเป็นเวลา 20 ปีแล้ว ข้าพเจ้าหวังด้วยความจริงใจว่า ความร่วมมือจีน-อาเซียนจะมีผลคืบหน้ามากขึ้น ได้รับผลสำเร็จที่มีความหมายมากขึ้น สร้างความผาสุกให้กับประชาชนของจีนและอาเซียน ณ ที่นี้ ข้าพเจ้าขอตอกย้ำว่า การกระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่มุ่งสู่สันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองกับอาเซียน และเดินหน้าร่วมมือกันทุกระดับในลักษณะที่อำนวยประโยชน์แก่กันนั้น เป็นนโยบายการต่างประเทศอันเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ของรัฐบาลจีน เราจะยึดหลักนโยบาย 'เป็นมิตรกับเพื่อนบ้าน'อย่างชั่วนิรันดร์ โดยจะเป็นเพื่อนบ้านที่ดี หุ้นส่วนที่ดีและมิตรที่ดีของอาเซียน การพัฒนาของจีนจะนำมาซึ่งโอกาสแก่อาเซียน ความเจริญรุ่งเรืองของอาเซียนก็สอดคล้องกับผลประโยชน์ของจีนเช่นกัน เรายินดีที่จะร่วมมือกับทุกประเทศอาเซียน ถือเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน ซึ่งสร้างขึ้นแล้วเสร็จบริบูรณ์ เป็นจุดเริ่มต้นใหม่ ขยายขอบข่ายความร่วมมือให้กว้างขึ้น เติมเนื้อหาแห่งความร่วมมือให้แน่นขึ้น ยกระดับความร่วมมือให้สูงขึ้น พยายามให้จีน-อาเซียนมีอนาคตที่สวยสดยิ่งขึ้นด้วยการร่วมมือที่อำนวยประโยชน์แก่กันและเจริญรุ่งเรืองด้วยกัน " อิน---"ขออวยพรให้การประชุมผู้นำฯ ว่าด้วยการค้าและการลงทุนครั้งนี้ประสบผลสำเร็จอันเป็นที่น่าพอใจ" เหอ---คำปราศรัยของนายเวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีน ได้รับเสียงปรบมือดังกึกก้องอีกครั้ง ต่อไปเป็นการเรียนเชิญสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกล่าวปราศรัย อิน---การค้าระหว่างจีนกับกัมพูชาได้เพิ่มขึ้นจาก 13 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อปี 1991มาเป็น 1,441 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2553 ซึ่งเพิ่มขึ้น 110 เท่า เหอ---ส่วนการค้าระหว่างจีนกับไทยได้เพิ่มขึ้นจาก 1,270 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อปี 2534 มาเป็น 52,947 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2553 ซึ่งเพิ่มขึ้น 41 เท่า อิน---กัมพูชาปีนี้คัดเลือกจังหวัดรัตนคีรีเป็นเมืองแห่งมนต์เสน่ห์ เหอ---จังหวัดรัตนคีรีของกัมพูชามีเอกลักษณ์ของตัวเองเช่นกัน และมีโอกาสการลงทุนมากมาย เช่น อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของงาน อิน---การประชุมฯ ซึ่งจัดขึ้นครั้งแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2547 เพื่อเป็นปฏิบัติการอย่างจริงจังในการผลักดันให้สร้างเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน ซึ้งตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 มกราคม ปี 2553 เหอ---จีนกับประเทศอาเซียนเป็นบ้านใกล้เรือนเคียงกัน มีเทือกและธารน้ำเชื่อมกัน มีมิตรภาพและการค้าไปมาหาสู่กันมานานกับพันปี ช่วง 20 ปีนับตั้งแต่จีนกับอาเซียนสร้างความสัมพันธ์เป็นประเทศคู่เจรจากันเป็นต้นมา ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าพัฒนาอย่างรวดเร็ว ได้ตั้งเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน ซึ่งเป็นเขตการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดในโลก ความสัมพันธ์จีน-อาเซียนมีความแนบแน่นและคึกคักอย่างเป็นประวัติกาล ซึ่งเอื้ออำนวยต่อเศรษฐกิจเอเชียตะวันออกและการเติบโตทางเศรษฐกิจของโลก อิน---ปีนี้ปีครบรอบ 20 ปีความสัมพันธ์คู่เจรจาจีน-อาเซียน ช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ยอดการค้าระหว่างจีนกับอาเซียนเติบโตมาก การลงทุนต่อกันก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จีนรับเหมาโครงการต่างๆ ในประเทศอาเซียนมากขึ้นทุกวัน เหอ---สถิติจากศุลกากรจีนระบุว่า ปี 2534 ซึ่งเป็นปีริเริ่มความสัมพันธ์คู่เจรจาจีน-อาเซียน ยอดการค้าระว่างสองฝ่ายเป็นเพียง 7,960 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เวลาผ่านไป 20 ปี คือ ในปี 2553 ยอดการค้าระว่างสองฝ่ายเพิ่มขึ้นถึง 292,780 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเพิ่มขึ้น 37 เท่า อัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปีสูงถึงกว่าร้อยละ 20 อิน---ตัวเลขและอัตราสูงลิ่ว สองฝ่ายประสบผลสำเร็จมากมาย และสร้างคุณประโยชน์ต่อประชาชนทั้งอาเซียนและจีน เหอ---ระหว่างงานนี้ จะมีการประชุมระหว่างประเทศในหัวข้อต่างๆ เช่น การประชุมว่าด้วยความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อม การตรวจสอบคุณภาพสินค้า การเงิน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ยา ป่าไม้ กีฬา อุตสาหกรรมวัฒนธรรม สื่อสิ่งพิมพ์ ประชากรกับการพัฒนา เป็นต้น รวมแล้วกว่า 10 รายการ ซึ่งล้วนมีโอกาสด้านการค้าและการลงทุนอย่างมาก อิน---คูหาจัดแสดงสินค้าของกลุ่มประเทศอาเซียน "ล้น" มีประเทศสมาชิกอาเซียน 6 ประเทศ จัดหอแสดงสินค้าของประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย พม่า เวียดนาม และไทย เหอ---ด้านการอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ที่การเดินทางมางานนี้ ก่อนวันเปิดงาน 2-3 วัน มีเที่ยวบินจากประเทศสมาชิกอาเซียนสู่นครหนานหนิงโดยตรง และจะบินกลับประเทศหลังปิดงาน 1 วัน อิน---ปัจจุบัน นครหนานหนิงมีเส้นทางการบินระหว่างประเทศสู่ประเทศสมาชิกอาเซียน ได้แก่ หนานหนิง-กรุงพนมเปญ / หนานหนิง-เวียงจันทน์ / หนานหนิง-กรุงกัวลาลัมเปอร์ / หนานหนิง-กรุงย่างกุ้ง / หนานหนิง-สิงคโปร์ และหนานหนิง-กรุงเทพฯ เหอ---สำหรับประเทศไทย เคยร่วมประชุมผู้นำจีน-อาเซียนว่าด้วยการค้าและการลงทุนมาหลายครั้ง เพื่อขยายความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับจีน ระหว่างไทยกับเขตกวางสีให้มากยิ่งขึ้น อิน---โดยตั้งแต่ปี 2004 ที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีไทยมาร่วมการประชุมผู้นำจีน-อาเซียนว่าด้วยการค้าและการลงทุนครั้งที่ 1 และกล่าวปาฐกถา ส่วนคณะผู้แทนไทยได้จัดการเจรจาว่าด้วยโอกาสการลงทุนกับกวางสี เหอ---ต่อมาในปี 2548 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีไทยพร้อมคณะรวม 15 คนร่วมการประชุมผู้นำจีน-อาเซียนว่าด้วยการค้าและการลงทุนครั้งที่ 2 โดยได้จัดการประชาสัมพันธ์ "เชียงใหม่ของไทย---เมืองแห่งพลังและความเจริญรุ่งเรือง"กวางสีกับเชียงใหม่ได้ลงนามบันทึกช่วยจำว่าด้วยความร่วมมือด้านการลงทุนระหว่างสองฝ่าย ซึ่งครอบคลุมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ และการค้า โดยหอการค้าไทยและสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับวัฒนธรรม การท่องเที่ยว เศรษฐกิจ และการค้าของเชียงใหม่ อิน---นอกจากนี้ ยังได้จัดการประชาสัมพันธ์ว่าด้วยการลงทุนของประเทศไทย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน แนะนำนโยบายและบรรยากาศการลงทุนของไทย และระบุว่า ยินดีต้อนรับบริษัทจีนที่มีความเข้มแข็งขยายการลงทุนในไทย ทั้งด้านพลังงาน ปิโตรเคมี โครงการขนาดใหญ่ การขนส่งทางทะเล เทคโนโลยีชีวภาพ และตลาดหลักทรัพย์ เป็นต้น เหอ---ในปี 2549 ระหว่างงานแสดงสินค้าจีน-อาเซียนครั้งที่ 3 ได้จัดการเจรจาระหว่างไทยกับเขตกวางสีของจีนว่าด้วยโอกาสการลงทุน ที่ ศูนย์การประชุมและนิทรรศการนานาชาติหนานหนิง โดยเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนของไทย เจ้าหน้าที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ธนาคารของไทย ตลอดจนเจ้าหน้าที่เขตปกครองตนเองชนเผ่าจ้วงกวางสี ผู้แทนวงการธุรกิจและสื่อมวลชนจำนวนกว่า 150 คนเข้าร่วม อิน---การเจรจาดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อแนะนำบรรยากาศ นโยบาย และโอกาสการลงทุนในไทยและกวางสีของจีนให้เป็นที่ทราบโดยทั่วกัน รวมถึงส่งเสริมความร่วมมือด้านการลงทุนให้มากขึ้น เหอ---ปี 2550 ซึ่งเป็นงานฯ ครั้งที่ 4 การท่าเรือแห่งประเทศไทยและ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยร่วมกันจัดการประชาสัมพันธ์โอกาสการลงทุนด้านการคมนาคมและการลงทุนในไทย โดยมีผู้แทนจากไทย กวางสี และประเทศสมาชิกอื่นๆ ของอาเซียนเข้าร่วมกว่า 150 คน อิน---การประชาสัมพันธ์ดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อแนะนำแหล่งอุตสาหกรรมโลจิสติกตามเมืองท่าและสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของไทย และเพิ่มการลงทุนซึ่งกันและกันระหว่างไทยกับจีนให้มากยิ่งขึ้น โดยฝ่ายไทยได้แนะนำท่าเรือแหลมชะบัง การท่องเที่ยวในเมืองชลบุรี ซึ่งตั้งเป้าให้นักธุรกิจจีนไปลงทุนและสร้างโรงงานในไทย และให้นักท่องเที่ยวจีนไปเที่ยวไทยมากขึ้น เหอ---เมื่อปีที่แล้ว ปี 2553 มีการจัดการประชาสัมพันธ์ว่าด้วยโอกาสการลงทุนของไทย อิน---สำหรับปีนี้ เมื่อเช้านี้ (21 ตุลาคม) ที่ลี่หยวนซานจวง มีการประชุมระหว่างผู้นำของไทยกับนักธุรกิจไทย-จีน เหอ---สำหรับประเทศอาเซียนอื่นๆ นั้น ก็เคยมาร่วมประชุมแทบทุกครั้ง ปีนี้ ผู้นำประเทศมาเลเซียจะจัดประชุมโต๊ะกลมกับซีอีโอเกียรติยศของบริษัทจีน เป็นต้น อิน---การค้าและการลงทุน ครอบคลุมความหมายอันกว้าง เช่น การค้าบริการด้านการเงิน การลงทุนด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม พลังงานแสดงอาทิตย์ ผลิตภัณฑ์ยา สนามกอล์ฟ โลจิสติก สิ่งพิมพ์ การเกษตร อุตสาหกรรมเบา การป่าไม้ ซึ่งจะมีการหารือกันอย่างลงลึกระหว่างงานครั้งนี้ เหอ---ต่อไป เรามาดูคอมเมนต์จากแฟนเน็ตนะคะ คุณ kasem thangthong บอกว่า "เคยเป็นตัวแทนผู้ฟังจากประเทศไทยไปเที่ยวหนานหนิงเมื่อหลายปีก่อนยังคงนึกเห็นภาพสถานที่จัดงานได้ติดตาอยู่เลยครับ ดอกชบา สัญลักษณ์ของเมืองหนานหนิง นำมาสร้างเป็นอาคารขนาดใหญ่ จีน-อาเซี่ยนจับมือกัน ประชากรมากกว่าครึ่งโลกแล้วครับ(จริงๆ แล้วประชากรจีน-อาเซียนยังไม่ถึงครึ่งโลก เป็นเพียงร้อยละ 30 เท่านั้น 1,800 ล้านคน/6,000 ล้านคน) นายเกษม ทั่งทองยังบอกว่า "จีน-ไทยใช่ใครอื่น พี่น้องกันยังใช้ได้อีกนานนะครับ ไทยเป็น1ใน10ของอาเซียน สินค้าไทยมีทั้งเกษตรและอุตสาหกรรม ไทยส่งออกและนำเข้าสินค้า" อิน---แฟนเน็ตรายต่อไป คุณอรพิณ ระบุว่า "หนานหนิงมีแหล่งท่องเที่ยวอะไรอีกบ้างคะ การจัดแสดงดูน่าสนใจนะคะ เพราะได้ทั้งประโยชน์และความรู้ โดยเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งชาวโลกควรตระหนักอย่างจริงจังเสียที ประเทศไทยปีนี้น้ำท่วมรุนแรงมาก สงสารคนที่ต้องประสพอุทกภัย ไม่เว้นแม้แต่ที่กรุงเทพ" เหอ---แฟนเน็ตอีกผู้หนึ่งชื่อ ฐิติญา เอกฤทธิ์วโรดม ระบุว่า "ดิฉัน คิดว่า ต่อไปก็คงมีการแสดงสินค้าและบริการด้านต่าง ๆ จากหลาย ๆ ประเทศมากกว่านี้ จะไม่ใช่แค่จีน และ อาเซียน 11 ประเทศ ซึ่งจะกลายไปเป็น AEC ในปี 2015" อิน---แฟนเน็ตอีกคนหนึ่งชื่อ อตมกูลศรี ระบุว่า "ดีใจที่มีงานแสดงสินค้าจีน อาเซียนครั้งที่ 8 และจะต้องมีต่อไปเรื่อยๆ ในการแลกเปลี่ยนทุกๆด้าน ทำใหผู้บริโภคมีสิทธิในการเลือกสินค้าได้มากยิ่งขึ้น หวังว่าจะร่วมมือกับทุกๆประเทศ ในการแลกเปลี่ยนสินค้าและองค์ความรู้ต่างๆซึ่งกันและกันให้มากยิ่งขึ้นค่ะ และขอให้งานแสดงสินค้าครั้งนี้ประสบผลสำเร็จด้วยดีค่ะ" อิน---ท่านผู้ฟังท่านผู้ชมคะ พิธีเปิดประชุมผู้นำจีน-อาเซียนว่าด้วยการค้าและการลงทุนครั้งที่ 8 ณ ลี่หยวนซานจวง เมืองหนานหนิง เขตปกครองตนเองชนเผ่าจ้วงกวางสีของจีนขอจบลงเพียงแค่นี้ แต่งานทั้งงานยังไม่จบนะคะ งานแสดงสินค้าจีน-อาเซียน พร้อมกับการประชุมผู้นำจีน-อาเซียนว่าด้วยการค้าและการลงทุนครั้งที่ 8 จะเปิดเป็นเวลา 6 วัน โดยจะปิดฉากลงในบ่ายวันที่ 26 ตุลาคมค่ะ เหอ---สุดท้ายนี้ ขอให้งานทั้งสองประสบผลสำเร็จอันเป็นที่น่าพอใจ ขอให้งานทั้งสองนี้พัฒนาอย่างยั่งยืน หวังเป็นอย่างยิ่งว่า งานแสดงสินค้าจีน – อาเซียนทำให้อนาคตของเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนสดใสยิ่งขึ้น ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามการถ่ายทอดสดครั้งนี้ สวัสดีค่ะ อิน---ไจ้เจี้ยน (IN/LING/ZHOU/LIN) จบพิธีเปิดการประชุมผู้นำจีน-อาเซียนว่าด้วยการค้าและการลงทุนครั้งที่ 8 |