เลขาธิการสหภาพการขนส่งทางบกระหว่างประเทศระบุ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" จะฟื้นฟูเส้นทางการค้าจีน-ยุโรป

2017-07-17 17:16CRI

เลขาธิการสหภาพการขนส่งทางบกระหว่างประเทศระบุ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" จะฟื้นฟูเส้นทางการค้าจีน-ยุโรป

ในโอกาสที่ฟอรั่มความร่วมมือระหว่างประเทศ "หนึ่งแถบหนื่งเส้นทาง" ใกล้จะจัดขึ้นที่กรุงปักกิ่ง นายอัมเบอร์โต เดอ เพรตโต เลขาธิการสหภาพการขนส่งทางบกระหว่างประเทศ(International Road Transport Union)กล่าวขณะให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอที่กรุงเจนีวาว่า การปฏิบัติตามข้อเสนอ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" นั้น จะกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างจีนกับยุโรป "สนธิสัญญาว่าด้วยการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศภายใต้เครือข่ายการขนส่งทางบกระหว่างประเทศ" จะให้การสนับสนุนอย่างมีพลัง เขาเห็นว่า วัตุประสงค์สำคัญของข้อเสนอ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" คือกระตุ้นให้การค้าขยายตัว โดยจะให้น้ำหนักกับการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านหรือประเทศตามหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางอย่างมีประสิทธิผลมากขึ้น เขาเน้นว่า การค้าจะส่งเสริมความก้าวหน้า การพัฒนาและสันติภาพ

ถ้าเปรียบเทียบการสร้างทางหลวงเป็นฮาร์ดแวร์ของการขนส่ง นโยบายกับมาตรการบริหารก็จะเป็นซอฟ์ทแวร์ นายอัมเบอร์โต เดอ เพรตโตเห็น่ว่า ถ้าไม่มีนโยบายผ่านด่านที่เรียบง่าย ต่อให้ทางหลวงทางด่วนมีคุณภาพสูงเท่าไรก็ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ ความสะดวกนั้นคือ การปรับลดขั้นตอนการผ่านด่านให้น้อยลง ซึ่งก็คือวัตถุประสงค์ของ "สนธิสัญญาว่าด้วยการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศภายใต้เครือข่ายการขนส่งทางบกระหว่างประเทศ" เขาอธิบายว่า "ยกตัวอย่างการขนส่งสินค้าจำนวนหนึ่งจากปักกิ่งสู่เบอร์ลิน ถ้าทำตามขั้นตอนปัจจุบันจะพบว่ามีอุปสรรคมากมาย แต่ถ้าปฏิบัติตามสนธิสัญญาว่าด้วยการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศภายใต้เครือข่ายการขนส่งทางบกระหว่างประเทศ หลังสินค้าเหล่านี้ถูกตรวจสอบที่ด่านศุลกากรปักกิ่งแล้วก็จะปิดผนึกประทับตรา ต่อจากนั้นก็ขนส่งผ่านเส้นทางสายไหมไปยังกรุงเบอร์ลินโดยตรง เมื่อถึงเป้าหมายปลายทางแล้วจึงเปิดผนึกตรวจอีกรอบ ตลอดกระบวนการผ่านด่านประเทศต่างๆ ตามเส้นทางขนส่งก็ไม่ต้องตรวจสอบเลย"

แหล่งข่าวแจ้งว่า ประเทศผู้ลงนามสนธิสัญญาดังกล่าวจะได้รับความสะดวกสบายในการลดขั้นตอนการข้ามแดน ให้ทำขั้นตอนผ่านด่านศุลกากรเฉพาะที่จุดเริ่มต้นและเป้าหมายปลายทาง ยกเลิกการตรวจสอบจากหน่วยงานศุลกากรของประเทศตามเส้นทางขนส่ง มีหลักประกันการจ่ายภาษีศุลกากร เพิ่มประสิทธิภาพการค้าระหว่างประเทศ ลดต้นทุนการขนส่ง นายอัมเบอร์โต เดอ เพรตโตกล่าวว่า เมื่อปี 2016 จีนเป็นประเทศอันดับที่ 70 ที่ลงนามในสนธิสัญญานี้ แต่ยังมีอีกหลายประเทศตาม "หนึ่งแถบหนื่งเส้นทาง" ไม่ได้ลงนาม สนธิสัญญาฉบับนี้ย่อมมีส่วนช่วยต่อการผลักดัน "หนึ่งแถบหนื่งเส้นทาง"

IF

ภาพและเนื้อหาข่าวเป็นลิขสิทธิ์ของ China Face

Not Found!(404)