ไชนามีเดียกรุ๊ปรายงานว่า บ่ายวันที่ 26 สิงหาคมตามเวลาท้องถิ่น การประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศ G7 ปิดฉากลงที่เมืองบิอาร์ริตซ์(Biarritz) เมืองชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส  ขณะที่นายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เจ้าภาพ กับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทั้งคู่กล่าวว่าการประชุมสุดยอดครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จ แต่ในประเด็นสำคัญของการประชุม เช่นนิวเคลียร์อิหร่าน การค้าโลก การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ฯลฯ ยังมีความเห็นที่แตกต่างระหว่างสหรัฐและยุโรป

ในช่วงบ่ายของวันที่ 26 สิงหาคม มีการจัดงานแถลงข่าวระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐ และประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้ประกาศแถลงการณ์ร่วมระดับผู้นำสูงสุด ซึ่งมีแค่หนึ่งหน้าโดยมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับการค้าโลก ปัญหานิวเคลียร์อิหร่าน ปัญหายูเครน สถานการณ์ในลิเบีย เป็นต้น แถลงการณ์เริ่มต้นว่า “ผู้นำ G7 หวังว่า จะเน้นความสามัคคีและจิตวิญญาณเชิงบวกตามที่ได้เจรจา” ดูเหมือนว่าจะเน้นการจำกัดความแตกต่างระหว่างประเทศสมาชิกให้แคบลงด้วยความสำเร็จ แต่ในแถลงการณ์ดังกล่าว ได้กล่าวถึงปัญหาต่าง ๆ เช่นการค้าโลก ปัญหานิวเคลียร์อิหร่าน และสถานการณ์ในยูเครน แต่เรื่องของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและปัญหาความหลากหลายทางชีวภาพที่ฝรั่งเศสให้ความสำคัญมาก ไม่ได้อยู่ในแถลงการณ์

การประชุมสุดยอดในครั้งนี้ แม้ว่ามาครงจะพยายามหลีกเลี่ยงความขัดแย้งที่น่าอึดอัดใจเมื่อปีที่แล้วว่าจะเกิดขึ้นอีกครั้ง แต่ความแตกต่างระหว่างสหรัฐฯ และยุโรปในประเด็นระหว่างประเทศที่สำคัญยังคงมีอยู่ การประชุมในครั้งนี้ถือว่าประสบผลสำเร็จในระดับต่ำ อาจกล่าวได้ว่าเป็นความสำเร็จส่วนบุคคลของประธานาธิบดีมาครง และความพยายามของฝรั่งเศสในการฟื้นฟูสถานะของประเทศที่มีอิทธิพล

Bo/Patt/Cici