2020-07-08 13:06CRI
เมื่อค่ำวันที่ 5 กรกฎาคม นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน รับหน้าที่เป็นผู้แทนพิเศษจีนในปัญหาพรมแดนจีน-อินเดีย ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับนาย Ajit Doval ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติอินเดีย และเป็นผู้แทนพิเศษอินเดียในปัญหาพรมแดนจีน-อินเดีย โดยทั้งสองฝ่ายได้บรรลุความเห็นพ้องกันที่จะผ่อนคลายสถานการณ์ในเขตชายแดน
ทั้งสองฝ่ายเห็นด้วยที่จะปฏิบัติตามความเห็นพ้องกันของผู้นำทั้งสองประเทศ เคารพและปฏิบัติตามสนธิสัญญาและข้อตกลงเกี่ยวกับปัญหาพรมแดนที่สองประเทศได้ลงนามกันแล้ว เสริมการแลกเปลี่ยนผ่านกลไกการประชุมผู้แทนพิเศษ ปรับปรุงและเสริมสร้างมาตรการไว้เนื้อเชื่อใจกันในเขตพื้นที่ชายแดน รวมทั้งจะให้กองกำลังในแนวหน้าของทั้งสองประเทศยุติการเผชิญหน้ากันโดยเร็ว
จีน-อินเดียได้บรรลุข้อตกลงดังกล่าวหลังมีการแลกเปลี่ยนและหารือกันหลายครั้ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของทั้งสองฝ่ายที่จะแก้ไขข้อขัดแย้งผ่านการพูดคุยเจรจากัน การเจรจาระหว่างจีน-อินเดียครั้งนี้ทำให้สถานการณ์ในเขตชายแดนระหว่างสองประเทศผ่อนคลายลง อีกทั้งยังทำให้ทั้งสองฝ่ายมีกำลังใจมากขึ้นในการรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศ ตลอดจนสันติภาพและเสถียรภาพของโลกด้วย
อนึ่ง นับตั้งแต่เดือนเมษายนปีนี้เป็นต้นมา เหตุปะทะกันที่บริเวณหุบเขากัลวาน เขตชายแดนทางทิศตะวันตกระหว่างจีน-อินเดียได้รับความสนใจจากประชาคมโลกอย่างกว้างขวาง ทางการจีนแถลงว่า ข้อถูกผิดของเหตุปะทะครั้งนี้มีความชัดเจนมาก กล่าวคือ กองกำลังป้องกันเขตชายแดนของอินเดียฝ่าฝืนข้อตกลงระหว่างผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันเขตชายแดนจีน-อินเดียอย่างอุกอาจ โดยได้ล้ำเส้นควบคุมจริงเข้ามายังฝั่งจีนอีกครั้งหลังสถานการณ์มีการผ่อนคลายลงแล้ว มิหนำซ้ำ พวกเขายังใช้ความรุนแรงโจมตีทหารจีนที่เข้าไปเจรจา ทำให้ทั้งสองฝ่ายเกิดการปะทะกันทางร่างกาย จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
พฤติกรรมเสี่ยงต่ออันตรายของทหารอินเดียดังกล่าวได้ฝ่าฝืนข้อตกลงเกี่ยวกับเขตชายแดนของทั้งสองประเทศ และกฎบรรทัดฐานแห่งความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง จีนจึงได้แสดงความคัดค้านและประท้วงอย่างจริงจังต่ออินเดีย และได้ใช้มาตรการปกป้องอธิปไตยเหนือดินแดนของตนเองอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่
การเจรจาระหว่างจีน-อินเดียครั้งนี้เน้นว่า ทั้งสองฝ่ายจะต้องเคารพและปฏิบัติตาม “ความเห็นพ้องกัน” ของทั้งสองฝ่ายเมื่อเดือนเมษายน ปี 2018 และเดือนตุลาคม ปี 2019 ซึ่งผู้นำจีน-อินเดียได้พบปะกันและเน้นว่า ทั้งสองประเทศต้องยึดมั่นในแนวทางการพัฒนามิตรสัมพันธ์และความร่วมมือ ต้องทุ่มเทกำลังในการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในเขตชายแดน ควบคุมข้อขัดแย้งด้วยความสุขุมรอบคอบและระมัดระวัง ไม่ให้ข้อขัดแย้งถูกยกระดับขึ้นมาเป็นข้อพิพาท ความเห็นพ้องต้องกันดังกล่าวได้ชี้แนวทางที่ถูกต้องในการแก้ไขข้อขัดแย้งอย่างเหมาะสมให้แก่ทั้งจีนและอินเดีย จึงต้องได้รับการเคารพและปฏิบัติตาม เพื่อผ่อนคลายสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนในขณะนี้
การเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงจีน-อินเดียครั้งนี้ยังเน้นว่า ทั้งสองประเทศต้องเสริมการพูดคุยเจรจากัน ต้องจัดการประชุมตามกลไกปรึกษาหารือ และประสานกิจการเกี่ยวกับเขตชายแดนเป็นประจำ ปรับปรุงและเสริมมาตรการไว้เนื้อเชื่อใจกันอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งได้แสดงความยินดีที่การพบปะเจรจาทั้งฝ่ายทหารและฝ่ายการทูตของสองประเทศในช่วงหลายวันที่ผ่านมาได้ประสบความคืบหน้า ซึ่งล้วนแสดงให้เห็นว่า ทั้งสองฝ่ายตระหนักดีว่า การพูดคุยเจรจาเป็นทางเลือกที่ถูกเพียงหนึ่งเดียว ในการแก้ไขสถานการณ์ที่ตึงเครียดในเขตชายแดน
ปัจจุบัน การพัฒนาและการฟื้นฟูความเจริญรุ่งเรืองเป็นภารกิจสำคัญ อันดับแรกของทั้งจีนและอินเดีย เมื่อพิจารณาในแง่ปกป้องประโยชน์ขั้นพื้นฐานของประชาชนทั้งสองประเทศ อินเดียต้องพยายามให้ประชาชนของประเทศตนเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างถูกต้อง และหลีกเลี่ยงไม่ให้ข้อขัดแย้งระหว่างสองประเทศบานปลายและมีความสลับซับซ้อนมากขึ้น จีน-อินเดียเป็นเพื่อนบ้านที่แยกขาดจากกันไม่ได้ ทั้งสองประเทศต่างเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจโลก จึงมีประโยชน์ร่วมกันอย่างกว้างขวางในการรักษาและส่งเสริมระเบียบโลกบนพื้นฐานกฎหมายระหว่างประเทศ
(yim/cai)