จีนชี้การปฏิเสธจีนและเป็นพันธมิตรกับสหรัฐฯถือเป็นความเสี่ยงของรัฐบาลอังกฤษ

2020-08-02 16:49CRI

รัฐบาลอังกฤษประกาศเมื่อเร็วๆ นี้ว่าจะไม่ร่วมกับบริษัทหัวเหวยของจีนในการสร้างเครือข่าย 5G นอกจากนี้อังกฤษยังประกาศระงับข้อตกลงว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับเขตบริหารพิเศษฮ่องกง และมีแผนที่จะให้สิทธิในการอยู่อาศัยสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทาง BNOของฮ่องกงและผู้ที่เกี่ยวข้องจีนมองว่ามาตรการที่ทำลายความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างจีนกับอังกฤษเหล่านี้มีสาเหตุมาจากสองด้านคือ1. รัฐบาลจีนได้ออกกฎหมายว่าด้วยความปลอดภัยในฮ่องกง กระทบกับความรู้สึกของนักการเมืองของฝ่ายอนุรักษ์นิยมบางคนของอังกฤษ พวกเขาสร้างแรงกดดันเพื่อให้รัฐบาลอังกฤษใช้จุดยืนที่แข็งกร้าวกับจีน 2. หลังจากอังกฤษถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปเป็นต้นมา ก็หวังว่าจะส่งเสริมความสัมพันธ์กับสหรัฐฯและลงนามข้อตกลงการค้าทวิภาคี ดังนั้น ภายใต้แรงกดดันจากสหรัฐฯ อังกฤษจึงไม่ลังเลที่จะทำร้ายความสัมพันธ์จีน–อังกฤษ เพื่อแสดงความ“ซื่อสัตย์”กับสหรัฐฯ

การใช้นโยบายที่ให้ความสมดุลกับการเมืองระหว่างประเทศเป็นประเพณีทางการทูตของอังกฤษ ที่มีจุดประสงค์เพื่อให้ผลประโยชน์กับอังกฤษมากที่สุด แต่การทำลายความสัมพันธ์กับจีน และ“เป็นพันธมิตร”กับสหรัฐฯนั้น จะสามารถทำให้อังกฤษได้รับผลประโยชน์มากที่สุดหรือเปล่า ยกตัวอย่างการปฏิเสธอุปกรณ์เครือข่าย 5G ของบริษัทหัวเหวย สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การเปลี่ยนอุปการณ์ของหัวเหวยจะเพิ่มต้นทุนจำนวน 2,000 ล้านปอนด์ให้กับนักธุรกิจอังกฤษ ในที่สุดต้นทุนเหล่านี้จะไปตกอยู่ที่ผู้บริโภคในอังกฤษ นอกจากนี้การเผชิญกับประเทศที่จะถือการประกอบธุรกิจเป็นการเมืองและไม่ฟังเหตุผล ก็อาจทำให้บริษัทต่าง ๆ ต้องหันกลับมาคิดใหม่หากจะลงทุน ซึ่งเป็นสัญญาณที่ไม่ดีสำหรับการดึงดูดการลงทุนของอังกฤษ ในช่วงรัฐบาลของนายคาเมรอน อังกฤษถือผลประโยชน์และชัยชนะร่วมกันพัฒนาความสัมพันธ์กับจีน ซึ่งถือเป็นยุคทองของความสัมพันธ์จีน-อังกฤษทำให้ยอดการค้าระหว่างสองประเทศเพิ่มขึ้น 3 เท่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ส่วนจีนก็กลายเป็นคู่ค้าอันดับที่ 2 ของอังกฤษ รองจากสหภาพยุโรป แต่ขณะนี้รัฐบาลอังกฤษกลับไม่เล็งเห็นถึงความสำเร็จดังกล่าว ยุทธศาสตร์ที่มองการใกล้จะสร้างความไม่แน่นอนที่ยิ่งใหญ่ให้กับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ

bo/kt/zdan

ภาพและเนื้อหาข่าวเป็นลิขสิทธิ์ของ China Face

Not Found!(404)