เมื่อสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยในปี ค.ศ. 2008 นายหลู่ย์ โฮ่วเผิง ก็เข้าทำงานในฝ่ายการออกแบบเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและพลังงานของกลุ่มบริษัทเหล็กกล้าจี่หนาน ในตำแหน่งวิศวกรคนหนึ่ง แต่เนื่องจากกำลังการผลิตเหล็กกล้ามีปัญหาสะสมมากขึ้นต่อเนื่อง ทั้งอุตสาหกรรมต้องเผชิญกับการปฏิรูปเปลี่ยนแปลง ทำให้ในเดือนกรกฎาคม ปี 2017 กลุ่มบริษัทเหล็กกล้าจี่หนานประกาศปิดสายการผลิตทั้งหมด พนักงานกว่า 20,000 รายต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลง

เมื่อได้ค่าชดเชยกว่า 200,000 หยวนและอาศัยทักษะความเป็นมืออาชีพที่สะสมมาหลายปี นายหลู่ย์ โฮ่วเผิงได้จัดตั้งบริษัทเปิดบริการด้านการประหยัดพลังงานและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ส่วนที่ตั้งของบริษัทก็อยู่ที่ฐานบุกเบิกอุตสาหกรรมหุบเขาช่วงจื้อ (หุบเขานวัตกรรมทางปัญญา) ของกลุ่มบริษัทเหล็กกล้าจี่หนาน

นายหลู่ย์ โฮ่วเผิงกล่าวว่า พื้นที่เฉกเช่นหุบเขาช่วงจื้อ นับเป็นแพลตฟอร์มสำหรับผู้ที่ต้องการบุกเบิกกิจการใหม่ ซึ่งจะมีการให้คำแนะนำการบุกเบิกกิจการอยู่เนืองๆ ด้วย อาทิ นโยบายช่วยเหลือสนับสนุนวิสาหกิจขนาดจิ๋ว ขนาดย่อมและกลาง รวมไปถึงการตีความนโยบายนำเข้าบุคลากร เป็นต้น ซึ่งงานประกอบการบุกเบิกกิจการของพวกเขาค่อนข้างสมบูรณ์

ด้วยทักษะความรู้ที่สั่งสมมาในบริษัทกลุ่มเหล็กกล้าจี่หนาน และการสนับสนุนจากแฟลตฟอร์ม ภายในเวลาเพียง 3 ปี คณะของหลู่ย์ โฮ่วเผิงก็มีความโดดเด่นในด้านการประหยัดพลังงานและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยบริษัทเขาสร้างมูลค่าการผลิตถึงกว่า 10 ล้านหยวนต่อปี ปัจจุบัน หุบเขาช่วงจื้อมีวิสาหกิจเข้าร่วมแล้วกว่า 60 ราย และวิสาหกิจที่เข้าประจำได้สร้างมูลค่าการผลิตประมาณ 300 ล้านหยวนต่อปี

(Yim/Cui/Zhou)