เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายไมค์ ปอมเปโอ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯพยายามโฆษณาแผนการ “เครือข่ายสะอาด” โดยมีเป้าหมายกีดกันขจัดสินค้าและบริการของจีนใน 5 ขอบเขต ได้แก่ ผู้ประกอบการโทรคมนาคม แอพสโตร์ แอพพลิเคชั่น บริการคลาวด์ และสายเคเบิลเครือข่าย ซึ่งการกระทำดังกล่าวของรัฐบาลสหรัฐฯ แท้ที่จริงแล้วก็เพื่อปกป้องดิจิทัลของตน แต่จะส่งผลขัดขวางความร่วมมือและการพัฒนาดิจิทัลของโลก ที่รวมถึงสหรัฐฯเองด้วยในสามด้านสำคัญ

ด้านที่หนึ่ง การที่รัฐบาลสหรัฐฯบล็อกบริษัทของจีน จะทำลายผลประโยชน์ของผู้บริโภคสหรัฐฯโดยตรง  หลังจากรัฐบาลออกคำสั่งให้ประชาชนและวิสาหกิจสหรัฐฯหยุดใช้แอพพลิเคชั่นวีแชทในเวลากำหนดแล้ว บริษัทข้ามชาติยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ เช่น  บริษัทแอปเปิล ฟอร์ด วอลมาร์ต เป็นต้น ต่างยื่นเรื่องร้องเรียนไปที่ทำเนียบขาวว่า จะทำลายความสามารถด้านการแข่งขันของบริษัทตนในตลาดจีน

ด้านที่สอง ทุกวันนี้ นักการเมืองสหรัฐฯที่รวมถึงนายไมค์ ปอมเปโอ ตั้งใจโจมตีบริษัทจีน วันข้างหน้าก็ย่อมจะโจมตีบริษัทของประเทศอื่น ๆ ด้วยวิถีทางเช่นเดียวกันนี้ ซึ่งจะทำให้ประเทศอื่น ๆ ขาดความมั่นใจในการลงทุนต่อสหรัฐฯ ย่อมส่งผลกระทบต่อตลาดสหรัฐฯ

ด้านที่สาม การที่สหรัฐฯใช้วิธีต่างๆ  ที่ไม่เป็นธรรมและน่าอับอายในการโจมตีคู่แข่ง เหยียบย่ำกฎของเศรษฐกิจการตลาด เมื่อมองในระยะยาวแล้ว จะทำให้ความสามารถการแข่งขันด้านเศรษฐกิจของสหรัฐฯเองลดลงอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา จีนประกาศ “ข้อเสนอความมั่นคงด้านดิจทัลทั่วโลก” อย่างเป็นทางการ โดยชู 8 ข้อเสนอสำคัญต่อต้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทำลายสิ่งอำนวยความสะดวกและขโมยข้อมูลสำคัญของประเทศอื่น ใช้มาตรการป้องกันและขัดขวางการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเจาะลึกข้อมูลส่วนตัว ล่วงละเมิดสิทธิและควบคุมประเทศอื่น เป็นต้น ซึ่งข้อเสนอเหล่านี้ ได้เสนอแผนการที่ดีในการรับมือกับปัญหาความปลอดภัยด้านข้อมูล ส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล สะท้อนให้เห็นถึงความรับผิดชอบของจีนในการรักษาความปลอดภัยด้านข้อมูลทั่วโลก

(Yim/Zi)