2020-09-23 14:11CRI
คำปราศรัยของนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน
ในการประชุมสุดยอดรำลึกครบรอบ 75 ปี การก่อตั้งสหประชาชาติ
วันที่ 21 กันยายน 2020
ท่านประธานที่เคารพ
ผู้ร่วมงานทุกท่าน
เมื่อ 75 ปีก่อน ประชาคมโลกยืนหยัดต่อสู้ด้วยจิตใจอันเข้มแข็ง และมีคนจำนวนมหาศาลเสียสละชีวิตในสงครามต่อต้านฟาสซิสต์ จนในที่สุดจึงได้รับชัยชนะอันยิ่งใหญ่ นี่เป็นชัยชนะแห่งความเป็นธรรม และเป็นชัยชนะของประชาชน
ครึ่งแรกของศตวรรษที่แล้ว มนุษย์เผชิญความเจ็บปวดรวดร้าวสุดจะบรรยายได้จากภัยสงครามสองครั้ง ภายใต้ภูมิหลังเช่นนั้น สหประชาชาติได้ก่อตั้งขึ้น ในช่วง 75 ปีที่ผ่านมา องค์กรระหว่างประเทศนี้เดินบนหนทางที่ไม่ธรรมดาและเปิดหน้าใหม่แห่งสันติภาพรวมถึงการพัฒนาของโลก
ในช่วง 75 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งสหประชาชาติเป็นต้นมา สังคมมนุษย์มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว เราผ่านกระบวนการการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการปฏิวัติทางอุตสาหกรรมในระดับที่ลึกซึ้ง และในขอบเขตที่กว้างขวาง ขณะนี้ เรากำลังอ้าแขนรับการปฏิรูปวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการเปลี่ยนแปลงด้านอุตสาหกรรมรอบใหม่ที่มีขอบเขตกว้างขวางและลึกซึ้งยิ่งขึ้น พลังการผลิตทางสังคมบนโลกได้รับการปลดปล่อยและมีการพัฒนาอย่างมหาศาล มนุษย์มีความสามารถมากเป็นประวัติการณ์ในการขจัดความยากลำบากและปรับปรุงโลกที่เราอาศัยอยู่
ช่วง 75 ปีนับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งสหประชาชาติ สถานการณ์ระหว่างประเทศเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้ง ประเทศกำลังพัฒนาอันไพศาลได้รับการปลดแอกทางเชื้อชาติและเป็นเอกราช ประชากรกว่า 1,000 ล้านคนพ้นจากภาวะยากจน ประชากรหลายพันล้านคนเดินสู่หนทางแห่งความทันสมัย ผลสำเร็จดังกล่าวทำให้พลังแห่งสันติภาพและการพัฒนาของโลกมีความแข็งแกร่งขึ้นอย่างมหาศาล อีกทั้งยังเปลี่ยนสถานการณ์ระหว่างประเทศอย่างลึกซึ้ง
ช่วง 75 ปี นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งสหประชาชาติ ความเป็นพหุภาคีได้พัฒนาอย่างรวดเร็ว ประเด็นปัญหาที่โลกต้องเผชิญใหญ่มากและมีจำนวนมาก ความท้าทายระดับโลกนับวันยิ่งเพิ่มสูงขึ้น การแก้ไขปัญหาและความท้าทายเหล่านี้ต้องและสามารถแก้ไขด้วยการพูดคุยเจรจารวมถึงความร่วมมือ กิจการระหว่างประเทศต้องได้รับการแก้ไขผ่านการปรึกษาหารือระหว่างประเทศทั่วโลก การที่ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกต้องร่วมแรงร่วมใจฟันฝ่าความลำบากนั้นกลายเป็นความเห็นพ้องต้องกันอย่างกว้างขวางในประชาคมโลก
สายรุ้งจะปรากฏขึ้นหลังพายุฝน ปัจจุบัน สหประชาชาติยังคงเปี่ยมด้วยชีวิตชีวาหลังผ่านการทดสอบครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความใฝ่ฝันของประชากรกว่า 7,000 ล้านคน ที่ต้องการมีชีวิตที่ดียิ่งขึ้น กฎบัตรสหประชาชาติยังคงเป็นหลักประกันสำคัญแห่งสันติภาพและการพัฒนาของโลก
ท่านประธานที่เคารพ
การเปลี่ยนแปลงอย่างไม่เคยมีมาก่อนในรอบร้อยปีกำลังเกิดขึ้นในโลกของเรา การระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันเป็นบททดสอบที่เป็นอันตรายครั้งหนึ่งต่อทั่วโลก มนุษย์ได้เข้าสู่ยุคใหม่แห่งการเชื่อมโยงกัน ประเทศต่าง ๆ ต้องพึ่งพาอาศัยกันและมีอนาคตร่วมกันอย่างใกล้ชิด ภัยคุกคามและความท้าทายระดับโลกนั้นต้องการการรับมืออันเข้มแข็งจากทั่วโลก
เมื่อเผชิญสถานการณ์และความท้าทายใหม่ เราต้องคิดอย่างจริงจังว่า โลกต้องการสหประชาชาติแบบไหน และสหประชาชาติต้องแสดงบทบาทอย่างไรในยุคหลังโควิด-19 ข้าพเจ้าขอแบ่งปันข้อเสนอหลายข้อดังต่อไปนี้
1. จรรโลงความเป็นธรรม ไม่ว่าประเทศใหญ่หรือเล็กควรเคารพซึ่งกันและกัน ความเสมอภาคเท่าเทียมกันนั้นเป็นความต้องการเพื่อความก้าวหน้าแห่งยุคสมัย และเป็นหลักการสำคัญที่สุดของกฎบัตรสหประชาชาติ ประเทศใดก็ตามไม่มีสิทธิ์เหมารวมภารกิจระหว่างประเทศ กำหนดชะตากรรมของประเทศอื่น และผูกขาดความเหนือกว่าด้านการพัฒนา ยิ่งไม่ควรกระทำการใด ๆ บนโลกตามอำเภอใจ ดำเนินการครองความเป็นเจ้า ข่มขู่รังแกประเทศอื่น ลัทธิเอกภาคีไม่ใช่ทางออก ควรยืนหยัดการร่วมปรึกษาหารือ ร่วมสร้างสรรค์ และร่วมแบ่งปัน ให้นานาประเทศร่วมกันปกป้องความปลอดภัยโดยทั่วไป ร่วมกันแบ่งปันผลสำเร็จแห่งการพัฒนา และร่วมกันกำหนดอนาคตของโลก ต้องยกระดับความเป็นตัวแทนและสิทธิการออกเสียงในสหประชาชาติของประเทศกำลังพัฒนาอย่างจริงจัง เพื่อให้สหประชาชาติสะท้อนผลประโยชน์และเจตนารมณ์ของประเทศส่วนมากอย่างสมดุลยิ่งขึ้น
2. กวดขันการบังคับใช้กฎหมาย วัตถุประสงค์และหลักการของสหประชาชาติเป็นสิ่งที่ต้องปฏิบัติตามขั้นพื้นฐานในการจัดการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และเป็นรากฐานสำคัญของความมั่นคงด้านระเบียบระหว่างประเทศ จำต้องปกป้องรักษาไว้อย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ ความสัมพันธ์และผลประโยชน์ของประเทศต่าง ๆ ควรประสานกันด้วยระบบและกฎเกณฑ์เท่านั้น หาใช่กำหนดโดยผู้มีพลังเหนือกว่าไม่ ประเทศใหญ่ควรนำหน้าทำตัวเป็นผู้ริเริ่มและปกป้องการบังคับใช้กฎหมายระหว่างประเทศ ปฏิบัติตามคำมั่นสัญญา ไม่ดำเนิน “ลัทธิการยกเว้น” ไม่ใช้สองมาตรฐาน และไม่ควรบิดเบือนกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงสร้างความเสียหายต่อสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของประเทศอื่น โดยใช้การบังคับใช้กฎหมายเป็นข้ออ้างในการทำลายสันติภาพและเสถียรภาพระหว่างประเทศ
3. ส่งเสริมความร่วมมือ การส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศเป็นเจตนารมณ์เริ่มแรกในการก่อตั้งสหประชาชาติ และเป็นวัตถุประสงค์สำคัญของกฎบัตรสหประชาชาติ การพึ่งพาแนวคิดสงครามเย็น ขีดเส้นแบ่งตามรูปแบบแนวคิด และเล่นเกมผลรวมเป็นศูนย์ หรือ เกมที่ต้องมีแพ้-ชนะนั้น ไม่เพียงแต่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาภายในประเทศของตนเองได้เท่านั้น หากยังไม่สามารถรับมือกับความท้าทายที่มนุษยชาติต้องเผชิญได้อีกด้วย สิ่งที่เราต้องทำ คือ ใช้การเจรจาแทนข้อพิพาท ใช้การปรึกษาหารือแทนการบีบบังคับ ใช้การได้รับชัยชนะร่วมกันแทนการแพ้-ชนะ ประสานผลประโยชน์ของประเทศตนเองกับผลประโยชน์ร่วมกันของนานาประเทศเข้าด้วยกัน ใช้ความพยายามขยายจุดรวมแห่งผลประโยชน์ร่วมกันของนานาประเทศ สร้างสรรค์ครอบครัวใหญ่ระหว่างประเทศที่กลมกลืนและร่วมมือกัน
4. เน้นการใช้ปฏิบัติการ ปฏิบัติตามลัทธิพหุภาคี ไม่ควรดีแต่พูด หากควรลงมือปฏิบัติ ไม่ควรมีแต่ใบสั่งยา แต่ไม่เห็นผลการรักษาที่เป็นรูปธรรม สหประชาชาติควรพิจารณาจากการแก้ไขปัญหา ถือผลสำเร็จตามที่คาดการณ์ไว้เป็นทิศทางดำเนินการ ผลักดันความมั่นคง การพัฒนา และสิทธิมนุษยชนอย่างสมดุล โดยเฉพาะควรใช้โอกาสการปฏิบัติตาม “วาระว่าด้วยการพัฒนาอย่างยั่งยืนปี 2030” ถือการรับมือความท้าทายด้านความปลอดภัยที่มิใช่แบบดั้งเดิม เช่น ความท้าทายด้านสาธารณสุข เป็นภารกิจอันดับต้น ๆ ของสหประชาชาติ และถือปัญหาการพัฒนาเป็นปัญหาสำคัญยิ่งในกรอบมหภาคทั่วโลก ให้ความสำคัญมากขึ้นต่อการส่งเสริมและปกป้องสิทธิการดำรงชีวิตรวมถึงสิทธิในการพัฒนา
จีนเป็นประเทศแรกที่ลงนามในกฎบัตรสหประชาชาติ เป็นหนึ่งในประเทศก่อตั้งสหประชาชาติ และเป็นประเทศกำลังพัฒนาเพียงแห่งเดียวในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งประชาชาติ เราจะเป็นผู้ปฏิบัติตามลัทธิพหุภาคีตลอดไป เข้าร่วมการปฏิรูปและสร้างสรรค์ระบบบริหารจัดการโลกอย่างแข็งขัน ปกป้องระบบสากลที่ถือสหประชาชาติเป็นแกนหลัก และระเบียบที่ถือกฎหมายระหว่างประเทศเป็นพื้นฐาน ตลอดจนปกป้องบทบาทแกนหลักในกิจการระหว่างประเทศของสหประชาชาติอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่
ท่านประธานที่เคารพ
โลกกำลังยืนอยู่บนจุดเริ่มต้นใหม่ทางประวัติศาสตร์ ขอให้เราย้ำคำมั่นสัญญาอันหนักแน่นในการยึดมั่นลัทธิพหุภาคี ผลักดันการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมนุษยชาติ บรรลุความสามัคคีและความก้าวหน้ายิ่งขึ้นภายใต้ธงแห่งสหประชาชาติ
ขอบคุณครับ
TIM/CAI/LU
(tim/cai/lu)