2020-09-28 19:07CRI
วันที่ 28 กรกฎาคม ปี 1976 เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.8 แมกนิจูด ที่เมืองถังซาน มณฑลเหอเป่ยของจีน เนื่องจากเกิดขึ้นในเวลากลางคืน ซึ่งผู้คนส่วนใหญ่กำลังหลับอยู่ ในช่วง 23 วินาทีอันน่าสะพรึงกลัวนั้นทำให้เมืองเกือบทั้งหมดพังทลายลง สร้างความเสียหายอย่างมากทั้งต่อชีวิตและเศรษฐกิจ อีกทั้งยังเกิดอาฟเตอร์ช็อกรุนแรงหลายครั้งตามมาด้วย ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตรวม 242,769 คน บาดเจ็บสาหัส 164,851 คน บาดเจ็บไม่รุนแรง 544,000 คน และมีเด็ก 4,204 คน สูญเสียพ่อแม่ญาติมิตร ยอดความเสียหายทางเศรษฐกิจโดยตรงมีกว่า 3,000 ล้านหยวน จำนวนผู้เสียชีวิตในเหตุแผ่นดินไหวเมืองถังซาน จัดอยู่ในอันดับ 2 ของบรรดาแผ่นดินไหวในช่วงศตวรรษที่ 20
แม้จะอยู่ที่กรุงปักกิ่งแต่ก็สามารถสัมผัสถึงแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวครั้งนั้นได้ เสาพลับพลาเทียนอันเหมินมีเสียงดังออกมา พื้นที่อันกว้างใหญ่ของจีนตั้งแต่อ่าวโป๋ไห่ทางตะวันออกไปจนถึงเขตปกครองตนเองชนเผ่าหุยหนิงเซี่ยซึ่งอยู่ทางตะวันตก ตั้งแต่มณฑลเฮยหลงเจียงซึ่งอยู่ทางเหนือ ไปจนถึงริมฝั่งเหนือของแม่น้ำแยงซี ต่างสัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือน ตลอดช่วง 44 ปีที่ผ่านมา เกิดอาฟเตอร์ช็อกหลายต่อหลายครั้ง ครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคมปีนี้ ขนาด 5.1 แมกนิจูด
ในช่วง 10 ปีหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ถังซาน รัฐบาลจีนช่วยบูรณะซ่อมแซมเมือง จนกระทั่งถึงปี 1986 ชาวเมือง 98% ได้ย้ายไปยังบ้านใหม่และดำเนินการซ่อมแซมเมืองต่อ สถิติปรากฏว่ามีคนงานกว่า 110,000 คน จากกว่า 100 หน่วยงานทั่วประเทศเคยเดินทางไปช่วยเมืองถังซาน
แผ่นดินไหวเมืองถังซานสร้างความเสียหายและความทุกข์ยากมากมายแก่ประชาชนจีน แต่ก็ทำให้มนุษย์เราเข้าใจโลกมากขึ้น ซึ่งในรอบ 44 ปีที่ผ่านมา นักวิชาการด้านแผ่นดินไหวจากทั่วประเทศเดินทางไปยังเมืองถังซานเรื่อย ๆ เพื่อศึกษาวิจัยและเสริมขีดความสามารถในการคาดการณ์และการป้องกันภัยพิบัติ
อย่างไรก็ตาม แผ่นดินไหวเมืองถังซานนำมาซึ่งความโศกเศร้าและเป็นบ่อเกิดแห่งความทุกข์ของครอบครัวจำนวนนับไม่ถ้วน ที่สวนรำลึกแผ่นดินไหวเมืองถังซาน มีกำแพงขนาดใหญ่สลักรายชื่อผู้เสียชีวิตทั้งหมดจากเหตุการณ์ครั้งนั้น และที่นี่ยังจัดกิจกรรมไว้อาลัยทุกปีด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ผู้รอดชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวจำนวนมากยังกลายเป็นผู้พิการ โดยในช่วง 40 กว่าปีที่ผ่านมา ชีวิตของผู้คนเหล่านี้เป็นอย่างไร วันนี้ จะแนะนำให้ทราบกัน
ในบรรดาผู้บาดเจ็บสาหัส 164,851 คนนั้น มี 3,817 คนป่วยเป็นอัมพาตครึ่งท่อนล่างชนิดรุนแรง หลังเกิดแผ่นดินไหว เคยมีผู้เชี่ยวชาญต่างชาติบอกว่า จากเทคนิคการรักษาในตอนนั้น คนเหล่านี้น่าจะมีชีวิตต่อไปได้นานสุด 15 ปี แต่ปัจจุบัน คนเหล่านี้ยังมีชีวิตอยู่จำนวนมาก และมีอายุเฉลี่ยกว่า 70 ปีด้วย
หลังเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ที่เมืองถังซานแล้ว เมืองแห่งนี้ก็เน้นการช่วยเหลือผู้พิการอย่างมาก พร้อมกับสร้างความอบอุ่นแก่คนพิการ ทำให้ผู้คนเหล่านี้มีความมั่นใจ มีกำลังใจที่จะใช้ชีวิตต่อ รวมถึงมีชีวิตดีงาม
ปัจจุบัน จีนมีผู้พิการประมาณ 85 ล้านคน นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ให้ความสำคัญอย่างสูงต่อกลุ่มคนพิเศษเหล่านี้ โดยเฉพาะผู้พิการที่มีฐานะยากจน โดยเขาเคยย้ำอย่างชัดเจนว่า "การสร้างสังคมพอกินพอใช้นั้น ต้องไม่ลืมผู้พิการทุกคน"
ในโรงพยาบาลรักษาผู้ป่วยอัมพาตครึ่งท่อนเมืองถังซาน มีสามีภรรยาคู่หนึ่ง นายหยาง อี้ว์ฟาง และนางเกา จื้อหง บอกว่า เมื่อ 4 ปีก่อน ประธานาธิบดี สี จิ้นผิงเคยมาเยี่ยมทั้งคู่ พวกเขายังได้เขียนบทกวีเรื่อง "ความฝันแห่งความพอกินพอใช้ของฉัน" เนื่องในโอกาสปีสุดท้ายของการบรรลุเป้าหมายการสร้างสังคมพอกินพอใช้ของจีนด้วย นายหยาง อี้ว์ฟาง เล่าว่า "พวกเราเองก็คิดไม่ถึงว่า จะมีชีวิตอยู่ได้จนถึงปัจจุบัน มีคนชมว่า พวกเราสร้างปาฏิหาริย์แห่งชีวิต อันที่จริงแล้ว หากไม่ได้รับความรักใคร่เอ็นดูจากพรรคคอมมิวนิสต์จีน รัฐบาลจีน และคนแปลกหน้าทั้งหลายที่ใจดี พวกเราคงไม่มีทางอยู่รอดได้ ฉะนั้น ความรักต่างหากที่เป็นผู้สร้างปาฏิหาริย์นี้"
นายหยาง เจิ้นเซิง คือ เด็กคนแรกที่เกิดหลังแผ่นดินไหวเมืองถังซาน จึงได้ชื่อว่า "เจิ้นเซิง" ซึ่งมีความหมายว่า ชีวิตใหม่หลังแผ่นดินไหว ปัจจุบัน นายหยางเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลรักษาผู้ป่วยอัมพาตครึ่งท่อนเมืองถังซาน เขาเล่าว่า "เลขาธิการ สี จิ้นผิง สั่งสอนว่า ต้องถือผู้พิการเป็นสมาชิกในครอบครัวและรักษาพวกเขาอย่างละเอียด แพทย์พยาบาลทุกคนในโรงพยาบาลฯ ต่างดูแลผู้พิการเหล่านี้เหมือนดูแลพ่อแม่ของตน ที่นี่ก็คือบ้านของพวกเขา"