คำปราศรัยของนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีนในการประชุมสุดยอดว่าด้วยความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตแห่งสหประชาชาติ

คำปราศรัยของนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีนในการประชุมสุดยอดว่าด้วยความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตแห่งสหประชาชาติ_fororder_习近平图片20201001

วันที่ 30 กันยายน 2020

ท่านประธานที่เคารพ

ผู้ร่วมงานทุกท่าน

ในวาระครบรอบ 75 ปี แห่งการก่อตั้งสหประชาชาติ ซึ่งเป็นช่วงเวลาพิเศษที่นานาประเทศกำลังทุ่มเทต้านการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 พร้อมไปกับผลักดันการฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างมีคุณภาพ การที่สหประชาชาติจัดการประชุมสุดยอดว่าด้วยความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตเพื่อให้พวกเราร่วมกันปรึกษาหารือประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการอนุรักษ์ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตและส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนนั้น มีความหมายที่ลึกซึ้งยาวไกลและสอดคล้องกับข้อเท็จจริงในปัจจุบัน

จีนจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพที่เมืองคุนหมิงในปีหน้า เพื่อร่วมกับฝ่ายต่าง ๆ  ปรึกษาหารือยุทธศาสตร์ใหม่เกี่ยวกับการบริหารจัดการความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตทั่วโลก

ปัจจุบัน อัตราการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตทั่วโลกทวีความเร็วยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง การสูญเสียความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตกับการถดถอยของระบบนิเวศนั้น ถือเป็นความเสี่ยงอย่างรุนแรงต่อการดำรงอยู่และการพัฒนาของมนุษยชาติ การแพร่ระบาดของโควิด-19 บอกเราว่า มนุษย์กับธรรมชาติเป็นประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน พวกเราควรร่วมแรงร่วมใจกัน เร่งใช้ปฏิบัติการ คุ้มครองท่ามกลางการพัฒนา ดำเนินการพัฒนาท่ามกลางการคุ้มครอง ร่วมกันสร้างบ้านอันสวยงามที่สรรพสิ่งอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน ข้าพเจ้าขอเสนอข้อเสนอดังนี้

ประการแรก ยืนหยัดอารยธรรมทางระบบนิเวศ เสริมสร้างพลังขับเคลื่อนแห่งการสร้างโลกอันสวยงาม ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตเกี่ยวพันถึงความผาสุกของมนุษยชาติ เป็นพื้นฐานสำคัญในการดำรงชีวิตและการพัฒนาของมนุษย์ อารยธรรมอุตสาหกรรมได้สร้างทรัพย์สินทางวัตถุมากมายมหาศาล แต่ก็ก่อให้เกิดวิกฤตระบบนิเวศที่ทำให้สูญเสียความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อมถูกทำลาย เมื่อระบบนิเวศเจริญอารยธรรมก็จะเจริญตามด้วย เราต้องยืนอยู่บนจุดสูงสุดของความรับผิดชอบต่ออารยธรรมมนุษย์ เคารพธรรมชาติ  คล้อยตามธรรมชาติ และอนุรักษ์ธรรมชาติ แสวงหาหนทางที่ดำรงอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนกับธรรมชาติ ส่งเสริมให้การพัฒนาเศรษฐกิจกับการอนุรักษ์ระบบนิเวศสอดประสานกันและมีความเป็นเอกภาพ ตลอดจนร่วมกันสร้างโลกที่เจริญรุ่งเรือง สะอาด และสวยงาม

ประการที่สอง ยืนหยัดลัทธิพหุภาคี ผนึกกำลังบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมทั่วโลก นับตั้งแต่ก่อตั้งสหประชาชาติเป็นต้นมา ประชาคมโลกผลักดันการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมทั่วโลกอย่างแข็งขัน อนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และข้อตกลงปารีส ตลอดจนเอกสารข้อตกลงระหว่างประเทศอื่น ๆ นั้น เป็นพื้นฐานทางกฎหมายในการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งยังเป็นผลสำเร็จสำคัญแห่งความร่วมมือพหุภาคีด้วย ซึ่งได้รับการสนับสนุนและเข้าร่วมอย่างกว้างขวางจากฝ่ายต่าง ๆ เมื่อเผชิญกับความท้าทายจากความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมทั่วโลก นานาประเทศเป็นประชาคมที่ต้องร่วมทุกข์ร่วมสุขและมีอนาคตร่วมกัน ลัทธิเอกภาคีนั้นไม่เป็นที่ต้องการของผู้คน มีเพียงแต่ความร่วมมือเท่านั้นที่เป็นหนทางที่ถูกต้อง เราควรพิทักษ์ระบบระหว่างประเทศที่ถือสหประชาชาติเป็นแกนกลางอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ ปกป้องอำนาจและศักดิ์ศรีของกฎระเบียบระหว่างประเทศ อีกทั้งยังยกระดับการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมทั่วโลก

ประการที่สาม รักษาการพัฒนาสีเขียว บ่มเพาะพลังการฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างมีคุณภาพหลังสิ้นสุดการระบาดของโควิด-19 ซึ่งสร้างผลกระทบอย่างรอบด้านต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมทั่วโลก เราควรพิจารณาในระยะยาว คงไว้ซึ่งความมั่นใจ ยืนหยัดการพัฒนาที่ยั่งยืน เปิดกว้างและสีเขียว วาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ปี 2030 ที่ประกาศโดยสหประชาชาตินั้น ชี้นำทิศทางการพัฒนาของทุกประเทศ ความหลากหลายทางชีวภาพไม่เพียงแต่เป็นพื้นฐานสำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืนเท่านั้น หากยังรวมถึงเป้าหมายและวิธีการด้วย เราต้องใช้วิถีแห่งธรรมชาติหล่อเลี้ยงชีวิตของสรรพสิ่ง แสวงหาโอกาสการพัฒนาท่ามกลางการอนุรักษ์ธรรมชาติ บรรลุชัยชนะร่วมกันแห่งการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในระบบนิเวศและการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างมีคุณภาพ

ประการที่สี่ เสริมสร้างความรับผิดชอบและเพิ่มขีดความสามารถในการรับมือความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม ประเทศพัฒนาแล้วและประเทศกำลังพัฒนาอยู่ในระดับขั้นของการพัฒนาที่แตกต่างกัน ความรับผิดชอบทางประวัติศาสตร์และขีดความสามารถในทางปฏิบัติเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อมนั้นแตกต่างกันด้วย เราต้องยึดมั่นในหลักการความรับผิดชอบที่มีทั้งส่วนร่วมและส่วนต่าง ยึดมั่นการแบ่งปันผลประโยชน์อย่างยุติธรรมและเป็นธรรม คำนึงถึงข้อกังวลด้านการเงิน เทคโนโลยี และขีดความสามารถของประเทศกำลังพัฒนา เราต้องปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาอย่างจริงจัง ดำเนินการตามเป้าหมายลดการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพอย่างมีประสิทธิผล ตลอดจนร่วมกันพิทักษ์คุ้มครองโลกซึ่งเป็นบ้านของมวลมนุษย์

ท่านประธานที่เคารพ

“อารยธรรมทางระบบนิเวศและการสร้างประชาคมของสิ่งมีชีวิตบนโลก” ไม่เพียงแต่เป็นประเด็นหัวข้อการประชุมใหญ่คุนหมิงในปีหน้าเท่านั้น หากยังเป็นความปรารถนาอันดีงามของมนุษยชาติที่มีต่ออนาคต ในฐานะประเทศเจ้าภาพจัดการประชุมใหญ่คุนหมิง จีนยินดีแบ่งปันประสบการณ์ในการบริหารจัดการความหลากหลายทางชีวภาพและการสร้างอารยธรรมทางระบบนิเวศร่วมกับทุกฝ่าย

จีนใช้แนวคิดอารยธรรมทางระบบนิเวศชี้นำการพัฒนา แนวคิดการพัฒนาใหม่ของจีนจากภูมิปัญญาดั้งเดิมที่เคารพธรรมชาติและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ ไปจนถึงแนวคิดการพัฒนานวัตกรรม การประสานความเป็นสีเขียว การเปิดกว้าง และการแบ่งปัน จีนทำให้การสร้างอารยธรรมทางระบบนิเวศอยู่ในตำแหน่งที่สำคัญและโดดเด่น รวมเข้ากับกระบวนการการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของจีน พร้อมมุ่งมั่นที่จะสร้างความทันสมัยที่มนุษย์และธรรมชาติอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน

จีนใช้ปฏิบัติการและนโยบายอันทรงพลัง ยึดมั่นในชุมชนวิถีชีวิตแห่งภูเขา ลำน้ำ ป่าไม้ ไร่นา ทะเลสาบ และต้นหญ้า ส่งเสริมการบริหารความหลากหลายทางชีวภาพร่วมกัน เร่งออกกฎหมายคุ้มครองความหลากหลายทางชีวภาพ กำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำของการคุ้มครองระบบนิเวศ ตั้งระบบอุทยานแห่งชาติ ดำเนินโครงการคุ้มครองความหลากหลายทางชีวภาพที่สำคัญ ตลอดจนเสริมสร้างการมีส่วนร่วมทางสังคมและสร้างจิตสำนึกของประชาชน ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ปริมาณพื้นที่ป่าไม้ของจีนเพิ่มขึ้นมากกว่า 70 ล้านเฮกตาร์ ถือเป็นอันดับแรกของโลก การควบคุมการเปลี่ยนเป็นทะเลทรายและการจัดการทะเลทราย รวมถึงการอนุรักษ์ฟื้นฟูพื้นที่ชุ่มน้ำดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาวและขนานใหญ่ ขณะที่ การรวบรวมและรักษาความหลากหลายทางชีวภาพอยู่ในอันดับต้น ๆ ของโลก โดยร้อยละ 90 ของระบบนิเวศบนบกและร้อยละ 85 ของประชากรสัตว์ป่าที่สำคัญต่างได้รับการคุ้มครองอย่างมีประสิทธิภาพ

จีนเข้าร่วมธรรมาภิบาลด้านสิ่งแวดล้อมโลกอย่างแข็งขัน จีนปฏิบัติตามพันธกรณีว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความหลากหลายทางชีวภาพ และสนธิสัญญาด้านสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ  บรรลุเป้าหมายปี 2020 ในการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทั้งยังจัดตั้งเขตอนุรักษ์ธรรมชาติก่อนกำหนด ในฐานะประเทศกำลังพัฒนาใหญ่ที่สุดบนโลก จีนยินดีแบกรับรับผิดชอบระหว่างประเทศที่สอดคล้องกับระดับการพัฒนาของจีน และมีส่วนร่วมในการกำหนดธรรมาภิบาลด้านสิ่งแวดล้อมโลก จีนจะยืนหยัดแนวคิดประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมวลมนุษย์ ใช้ความพยายามอย่างหนักเพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมต่อไป โดยใช้นโยบายและมาตรการทรงพลังมากขึ้นเพื่อปล่อยก๊าซเรือนกระจกในระดับสูงสุดก่อนปี 2030 และให้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกของจีนเท่ากับศูนย์ภายในปี 2060 จีนจะพยายามและมีส่วนร่วมมากขึ้นเพื่อบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ในข้อตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ท่านประทานที่เคารพ

“ภูเขาสูงขึ้นจากการทับถม แม่น้ำยาวขึ้นจากการรวมกัน” การเสริมสร้างความเข้มแข็งในการปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ และการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมโลกต้องอาศัยความพยายามอย่างอดทนและต่อเนื่องจากทุกฝ่าย ข้าพเจ้ายินดีต้อนรับทุกคนให้มารวมตัวกันที่คุนหมิง เมืองแห่งฤดูใบไม้ผลิอันสวยงามของจีนในปีหน้า เพื่อร่วมกันปรึกษาหารือแผนการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพทั่วโลก พร้อมกับหวังว่า ทุกฝ่ายจะบรรลุกรอบปฏิบัติการที่มีความสมดุลอย่างรอบด้าน  ทรงพลัง และปฏิบัติได้จริง ให้เราเริ่มออกเดินทางจากการประชุมสุดยอดแห่งสหประชาชาติว่าด้วยความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตครั้งนี้ ร่วมแรงร่วมใจ เพื่อสร้างโลกซึ่งสรรพสิ่งอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนที่สวยงามยิ่งขึ้น

(Tim/Zhou/Lu)

ภาพและเนื้อหาข่าวเป็นลิขสิทธิ์ของ China Face

Not Found!(404)