ในช่วงดำเนินแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมระยะ 5 ปี ฉบับที่ 13 จีนขยายการเปิดประเทศ ผลักดันการสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ส่งเสริมแนวคิดการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมวลมนุษยชาติ พร้อมปูพื้นฐานความร่วมมืออย่างจริงจังให้มั่นคงยิ่งขึ้น

จนถึงปัจจุบันจีนได้ลงนามในเอกสารความร่วมมือโครงการ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” จำนวน 200 ฉบับ กับ 138 ประเทศ และ 30 องค์กรระหว่างประเทศ ร่วมกันดำเนินโครงการกว่า 2,000 โครงการ ร่วมกับมัลดีฟส์ทำให้มีสะพานข้ามทะเลแห่งแรก มอนเตเนโกรมีทางด่วนสายแรก และทำให้ลาวเชื่อมกับพื้นที่รอบข้างทางบก

โครงการความร่วมมือเหล่านี้ทำให้ความฝันเกี่ยวกับ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” กำลังเป็นจริงจากข้อเสนอมาเป็นแนวคิดที่ได้รับการตอบรับอย่างกว้างขวางทั่วโลก

ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ รถไฟบรรทุกสินค้าจีน-ยุโรปส่งออกสินค้าเพิ่มขึ้น 30.9% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีที่แล้ว กลายเป็นกำลังขนส่งหลักที่ช่วยทำให้ห่วงโซ่อุปทานระหว่างประเทศมีความมั่นคง ใน 8 เดือนแรกธุรกิจจีนลงทุนในแวดวงที่ไม่ใช่การเงินในประเทศรายทาง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” 11,800 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 31.5% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีที่แล้ว ระหว่างช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 โครงการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ทางรถไฟฮังการี-เซอร์เบีย สะพานพัดมาของบังกลาเทศ ก็ทำงานควบคู่ไปกับการป้องกันโรคระบาด “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” กลายเป็นเส้นทางแห่งสาธารณสุข ความร่วมมือและการพัฒนา เพิ่มกำลังสำคัญให้กับการฟื้นกลับเป็นปกติของทั่วโลก

ดร.ธารากร วุฒิสถิรกูล รองผู้อำนวยการศูนย์วิจัยหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางไทย-จีน กล่าวว่า ตั้งแต่ “เส้นทางสายไหมสิ่งแวดล้อม” “เส้นทางสายไหมทางอากาศ” จนถึง “เส้นทางสายไหมดิจิทัล” “เส้นทางสายไหมบนน้ำแข็ง” และ”เส้นทางสายไหมสาธารณสุข” ภายใต้ความพยายามร่วมมือระหว่างจีนกับประเทศต่างๆ ข้อเสนอ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ได้สร้างคุณูปการต่อสันติภาพและการพัฒนาของโลก

Bo/Chu/Zi