2020-11-11 15:22CRI
ในเมืองหนานชาง มณฑลเจียงซี มีซอยเล็กๆ สายหนึ่งชื่อว่า สีว์ย่วนลู่ อยู่ใกล้กับโรงพยาบาลโรคมะเร็งของมณฑลเจียงซี ซึ่งซอยเล็กสายนี้มีชื่อดังทั่วประเทศ เพราะที่นี่มี “ห้องครัวต้านโรคมะเร็ง”
คู่สามีภรรยาอายุมากกว่า 60 ปีเป็นเจ้าของห้องครัวแห่งนี้ พวกเขาทำงาน 18 ชั่วโมงทุกวัน มีบริการเตาปรุงอาหารประมาณ 20 เตา ลูกค้าสามารถมาปรุงอาหารเอง ค่าใช้บริการจานละเพียง 1 หยวน ซึ่งสามีภรรยาคู่นี้ทำอย่างนี้มา 20 ปีแล้ว
เช้าประมาณ 11 โมงทุกวัน ซอยสีว์ย่วนลู่ก็เริ่มคึกคักขึ้นแล้ว มีคนล้างผัก มีคนผัดกับข้าว ซึ่งอาหารที่ดูอร่อยมากมายจะถูกตักใส่ในจานและยกเอาไป ทุกคนที่ปรุงอาหารที่นี่ไม่รู้จักกัน แต่พวกเขาล้วนจะไปที่เดียวกัน ก็คือโรงพยาบาลโรคมะเร็งที่อยู่ใกล้ พวกเขาเป็นผู้ป่วยหรือครอบครัวผู้ป่วย ทำให้ซอยเล็กๆ แห่งนี้ เรียกว่า “ห้องครัวต้านโรคมะเร็ง”
เจ้าของชื่อว่า วั่น จั่วเฉิง (万佐成) และสง เกินเซียง (熊根香) เมื่อ 17 ปีก่อน พวกเขาจะขายอาหารเช้าให้กับผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล มีอยู่วันหนึ่ง มีผู้หญิงคนหนึ่งมาถามอย่างระมัดระวังว่า สามารถยืมเตาทำอาหารหน่อยได้ไหม เพราะลูกชายอายุเพียงสิบกว่าปีป่วยโรคมะเร็ง อยู่โรงพยาบาลมานานแล้ว อยากกินอาหารที่แม่ทำมาก คู่สามีภรรยาจึงยอมให้เธอทำอาหารที่นี่โดยไม่ได้ลังเลแต่อย่างใด
ต่อจากนั้นมา ก็มีครอบครัวผู้ป่วยมาทำอาหารที่นี่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบัน พวกเขาจะรับลูกค้านับหมื่นคนทุกปี สง เกินเซียง กล่าวว่า ผู้ป่วยน่าสงสารมาก ถ้าเราสามารถช่วยเหลือได้เล็กน้อย ก็รู้สึกดีใจมาก
ทีแรก วั่น จั่วเฉิง และสง เกินเซียง ไม่เก็บค่าใช้จ่าย แต่บางทีลูกค้ารู้สึกเกรงใจ อีกทั้ง เมื่อมีคนมาจำนวนมากขึ้น พวกเขาต้องจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า และอื่นๆ ซื้อเครื่องมือปรุงอาหารให้มากขึ้น จึงเก็บจานละ 5 เหมา จนเมื่อปี 2016 เพิ่มราคาเป็นจานละ 1 หยวน และไม่ได้เพิ่มอีกจนถึงปัจจุบัน คู่สามีภรรยาบอกว่า ครอบครัวของผู้ป่วยลำบากมากแล้ว จึงอยากช่วยประหยัดเงินให้พวกเขานิดหน่อยก็ยังดี
สง เกินเซียง บอกว่า การปรุงอาหารก็เป็นวิธีที่ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียด ครอบครัวหลายคนดูแลผู้ป่วยมาหลายปี รู้สึกเหนื่อยทั้งใจและกาย บางทีมาถึงที่นี่ยังเห็นน้ำตาบนหน้าได้ เธอก็จะปลอบใจพวกเขาว่า เมื่อป่วยแล้ว ก็ต้องพยายามต่อต้านกับโรค กินให้อิ่ม มีกำลังพอเพียง จึงจะต้านโรคร้ายได้
เธอยังเล่าว่า ในช่วงเวลา 20 ปีที่ผ่านมา เธอได้เห็นเรื่องเศร้าโศกที่นี่มามากมายแล้ว ทุกครั้งที่ฟังครอบครัวผู้ป่วยเล่าเรื่อง เธอจะรู้สึกเสียใจทั้งนั้น ไม่ว่าร่ำร่วยขนาดไหน ก็สู้กับสุขภาพที่แข็งแรงไม่ได้ กำลังความรักระหว่างครอบครัวนี่แหละ ที่ทำให้คู่สามีภรรยายืนหยัดมานานขนาดนี้