เมื่อเร็ว ๆ นี้ ผู้นำสหรัฐฯ ลงนามคำสั่งรัฐบาลห้ามซื้อขายผ่านแอปพลิเคชัน 8 รายการของจีน ซึ่งรวมถึง AliPay และ WeChat Pay โดยกล่าวหาว่าเป็นภัยต่อ “ความมั่นคงแห่งชาติ” ซึ่งการกระทำเช่นนี้ เหมือน “การฝังทุ่นระเบิด” ของรัฐบาลชุดปัจจุบันก่อนมอบอำนาจให้รัฐบาลชุดต่อไป โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมจุดยืนที่แข็งกร้าวต่อจีนให้รัฐบาลชุดต่อไป

ในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯ ถือจีนเป็นคู่แข่งเชิงยุทธศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดและก่อการโจมตีในหลายด้าน ซึ่งการกระทำอย่างหนึ่งก็คือโจมตีบริษัทจีน โดยเฉพาะดำเนินการคว่ำบาตรบริษัทเทคโนโลยีไฮเทคและบริษัทอินเทอร์เน็ต ส่วนสาเหตุที่สร้างขึ้นมานั้นเป็นเพราะภัย “ความมั่นคงแห่งชาติ” ทั้งหมดแต่ก็ไม่เคยมีหลักฐานใด

ตัวอย่าง 8 แอพพลิเคชันจีนในคำสั่งรัฐบาลของทำเนียบขาวครั้งนี้อย่าง AliPay และ WeChat ใน App Store และ Google Play ปีที่แล้วมีจำนวนยอดดาวน์โหลดเพียง 207,000 ครั้ง และ 1.6 ล้านครั้งเท่านั้น ทั้งนี้ คำกล่าวหาที่ว่า “บริษัทจีนคุกคามความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ” ที่รัฐบาลสหรัฐฯ ตั้งใจเผยแพร่นั้นดูน่าหน้าซื่อใจคด

สหรัฐฯ ขยายความหมายของความมั่นคงแห่งชาติ บีบบริษัทจีนโดยไร้เหตุผล ทั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่า ชาวอเมริกันบางคนมีท่าทีผิดปกติอย่างมากต่อจีน พวกเขามุ่งใส่ร้ายและโจมตีบริษัทจีนเพื่อกระทบความรับรู้ต่อจีนในสังคมอเมริกัน พร้อมทั้งยับยั้งการพัฒนาของบริษัทจีนผ่านวิธีการแข่งขันที่ไม่ถูกต้องและหวังมุ่งช่วยยกกำลังการแข่งขันของตนที่กำลังซบเซาลงเรื่อย ๆ

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ภายในสหรัฐฯ มีเสียงประณามมากมาย หลังจากทำเนียบขาวออกคำสั่งรัฐบาลห้ามดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน TikTok และ WeChat โดยศาลท้องถิ่นของสหรัฐฯ ตัดสินคดีให้เลื่อนบังคับใช้คำสั่งดังกล่าวออกไปชั่วคราว ขณะเดียวกัน บริษัทขนาดใหญ่ข้ามชาติของสหรัฐฯ เช่น Apple, Ford และ Walmart ต่างเน้นต่อทำเนียบขาวว่า การห้ามใช้ WeChat อาจลดศักยภาพการแข่งขันในตลาดจีนของบริษัทเหล่านี้

Tim/Ldan/Zhou